ได้ฤกษ์งามยามดีอีกครั้งสำหรับการเปิดประสบการณ์ในจีนของลุงกะป้า ทริปนี้ออกเดินทางวันที่ 16-29 พฤศจิกายน 2567
เริ่มต้นที่ กทม. (บ้านอยู่เจียงใหม่เจ้า)
16 พฤศจิกายน 2567
เนื่องจากเที่ยวบินของเราบินดึกพอที่จะมีเวลาเตรียม ข้าวสารอาหารแห้งที่ กทม. ได้บ้าน เหมือน ๆ ทุก ๆ ทริปที่ผ่านมา ยา ยังเป็นสิ่งสำคัญทั้งยาสำหรับโรคประจำตัว ยา แก้ไข้ แก้แพ้ทั้งหลาย รวมถึงยาคนแก่ (ยาลม ยาดม ยาอม ยาหม่อง เป็นหลัก) และยาแพ้ที่สูงที่เหลือจากครั้งที่แล้ว ทริปนี้มันคือพระเอก เพราะเราจะไปที่สูงกว่าคราวที่แล้วอีกมั้ง ในกระเป๋าก็จะเต็มไปด้วยอาหารเป็นหลัก (กะจะไม่ซื้อไรกินละ ฮ่า ๆๆ) ไม่ใช่ไม่เปิดใจ ลองแล้วไม่ไหวจะเคลียจิง ๆ และเช่นเคยคราวนี้เราก็นอนที่นอนในสนามบินเหมือนครั้งที่แล้วเดะเลย ห้องน้ำ อาหาร น้ำร้อน น้ำเย็น แค่เอื้อม นอนยาว ๆ กะออกตอน 06.00โน้นแหละ
เอาจริงนอนไม่หลับหรอกแต่ได้งีบ ๆ ***การผ่าน ตม. ที่เฉิงตู ไม่ได้ยากเลยถ้าเราไม่มีปัญหาที่ต้องกังวล เนื่องจากเราเคยมาที่นี่และเข้าจีนมาหลายรอบละ เราไม่ต้องกรอกเอกสารอะไรมาก เอาพาพาสปอร์ตเสียบตู้อัตโนมัติ มันก็จะออกเหมือนใบรับรองตัวเราให้เลย สำหรับครั้งแรก อาจจะต้องกรอกอะไรลงไปบ้างไม่แน่ใจ เป็นสลิปประมาณตั๋วรถไฟแหละ ก็เอาใบนี้แนบกะพาสปอร์ตไว้แหละแต่ก็ต้องกรอกใบขาเข้าอยู่ดีนะจ๊ะ ก็ไปต่อแถว พยายามหาช่องที่เป็นต่างชาติเข้า ยื่นพาสปอร์ตพอเขาเห็นเขาก็จะกอภาษาไทยเลย มีไรก็คุยกัน ไม่มีไรก็ผ่าน ๆ เร็วดีนะ**** ออกมารับกระเป๋าก็เข้าที่นอนวีไอพีแหละ ขึ้นไปตรงชั้น 4 ตรงที่เขาหุ้มกระเป๋าแหละ
17 พฤศจิกายน 2567
วันนี้เรานั่งรถไฟออกจากสนามบิน 2 คน ด้วยราคา 11หยวนต่อคน
ไปสถานีรถบัสที่จะไปอำเภอเฮอซุ่ย แบบยาว ๆ เที่ยว9.30
จริง ๆ มันมีเที่ยวเช้ากกว่านั้นแต่เราไม่ได้จองอะไรไว้เลยเพราะไม่แน่ใจว่าออกสนามบินมากลัวจะต้องรีบ เหนื่อย ค่อยมาจองเอาหน้างาน แต่เอาจิง มันทันอะนะเที่ยวแรก แต่ก็นั่นแหละมีเวลาตุนเสบียง สำรวจโน้นนี่นั้น สบาย สบาย ที่นี้ก็หลับยาว มีการเรียกทางข้าวเที่ยว เข้าห้องน้ำ (เอาข้าวกลางวันก่อนนะ เตรียมมาแล้วมีกาแฟเตรียมมา ซื้อข้าวสาลี 1 ฝักก็อยู่ได้เพราะทานแล้วก็นอนต่อไม่ได้ใช้พลังงาน ส่วนห้องน้ำไม่ปวดก็ไม่ต้องเข้านะ แต่ป้าเข้าอยู่ไม่อยากอั้นกลัวเป็นปัญหาทีหลัง ครั้งแรกที่เข้าห้องน้ำแบบไม่มีประตูและนั้งต่อแถวกันเหมือนครอบท่อระบายน้ำอะ แอบคิดนะถ้าถ่ายหนักทำไงเนี่ย เตรียมกระดาษชำระด้วยเด้อออออ) นั่งรถต่อแบบยาว ๆ แต่วิวข้างทางคือสวยอะ ไปเรื่อย ๆ พอเข้าเมืองเขาก็จะเอามาลงที่เดียวกันหมด ก็จะมีแท๊กซี่ หรือเดินหาโรงแรมกันเอง พวกเราเรียกแท๊กซี่เพราะยังไม่คุ้นเคยเมือง ประโยชน์คือ เขารู้จักโรงแรม ไม่ต้องเดินหา เวลาหาไม่เจอเขาก็จะโทรถามให้ ติดต่อยกกระเป๋าและเป็นตัวแทนเราได้เลย เราพักที่โรงแรม Jinlong Hotel Heishui ซึ่งห้องน้ำเป็นยอง ๆ แต่เจ้าของพูดภาษอังกฤษได้ เขาสามารถจองตั๋วเข้าอุทยานให้เราได้อะ คือดีตรงคุยกันรู้เรื่องอะ แต่พนักงานต้อนรับของนางคือจีนแท้อย่างแรง ลุย ๆ เราจ่ายเงินสดในการจองตั๋ว ด้วยเหตุผลว่าจะไม่ยอมสแกนหรืออะไรก็ตามที่เกิน 200 หยวนนั่นคือต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ฮ่าๆๆ สรุปจ่าย 330 หยวนต่อคน โรงแรมนี้เขาว่ามีคนไทยเยอะอยู่แต่พวกเราหาไม่เจอ เวลายังเหลืออยู่นิ๊ดนึ่งสำหรับวันนี้หาไรตุนไว้ ห่อข้าวกลางวันพรุ่งนี้กัน (นิสัยส่วนตัวของวัยนี้คือพวกอาหารการกินให้พร้อมเพราะไม่อยากไปซื้อหน้างานนอกจากจะไม่ถูกปากแล้วยังแพงกว่าปกติ ครั้นจะไม่ทานกลางวันคือเป็นไปไม่ได้เพราะต้องใช้พลังงานเยอะ ได้แอปเปิ้น สดมาก ๆ มา 2 ลูก (ลืมบอกว่าเมืองนี้ตอนนี้แอปเปิ้นเยอะมาก สดทุกลูก รสชาติสุดยอด) เอาละเตรียมถึงเวลานอนละ พรุ่งนี้ตั้งใจจะออกเช้า ๆ นัดรถไว้ 8.00 นางจะมารับไปอุทยาน
อีกประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่าที่จีนอีกครั้ง (1)
เริ่มต้นที่ กทม. (บ้านอยู่เจียงใหม่เจ้า)
16 พฤศจิกายน 2567
เนื่องจากเที่ยวบินของเราบินดึกพอที่จะมีเวลาเตรียม ข้าวสารอาหารแห้งที่ กทม. ได้บ้าน เหมือน ๆ ทุก ๆ ทริปที่ผ่านมา ยา ยังเป็นสิ่งสำคัญทั้งยาสำหรับโรคประจำตัว ยา แก้ไข้ แก้แพ้ทั้งหลาย รวมถึงยาคนแก่ (ยาลม ยาดม ยาอม ยาหม่อง เป็นหลัก) และยาแพ้ที่สูงที่เหลือจากครั้งที่แล้ว ทริปนี้มันคือพระเอก เพราะเราจะไปที่สูงกว่าคราวที่แล้วอีกมั้ง ในกระเป๋าก็จะเต็มไปด้วยอาหารเป็นหลัก (กะจะไม่ซื้อไรกินละ ฮ่า ๆๆ) ไม่ใช่ไม่เปิดใจ ลองแล้วไม่ไหวจะเคลียจิง ๆ และเช่นเคยคราวนี้เราก็นอนที่นอนในสนามบินเหมือนครั้งที่แล้วเดะเลย ห้องน้ำ อาหาร น้ำร้อน น้ำเย็น แค่เอื้อม นอนยาว ๆ กะออกตอน 06.00โน้นแหละ
เอาจริงนอนไม่หลับหรอกแต่ได้งีบ ๆ ***การผ่าน ตม. ที่เฉิงตู ไม่ได้ยากเลยถ้าเราไม่มีปัญหาที่ต้องกังวล เนื่องจากเราเคยมาที่นี่และเข้าจีนมาหลายรอบละ เราไม่ต้องกรอกเอกสารอะไรมาก เอาพาพาสปอร์ตเสียบตู้อัตโนมัติ มันก็จะออกเหมือนใบรับรองตัวเราให้เลย สำหรับครั้งแรก อาจจะต้องกรอกอะไรลงไปบ้างไม่แน่ใจ เป็นสลิปประมาณตั๋วรถไฟแหละ ก็เอาใบนี้แนบกะพาสปอร์ตไว้แหละแต่ก็ต้องกรอกใบขาเข้าอยู่ดีนะจ๊ะ ก็ไปต่อแถว พยายามหาช่องที่เป็นต่างชาติเข้า ยื่นพาสปอร์ตพอเขาเห็นเขาก็จะกอภาษาไทยเลย มีไรก็คุยกัน ไม่มีไรก็ผ่าน ๆ เร็วดีนะ**** ออกมารับกระเป๋าก็เข้าที่นอนวีไอพีแหละ ขึ้นไปตรงชั้น 4 ตรงที่เขาหุ้มกระเป๋าแหละ
17 พฤศจิกายน 2567
วันนี้เรานั่งรถไฟออกจากสนามบิน 2 คน ด้วยราคา 11หยวนต่อคน
ไปสถานีรถบัสที่จะไปอำเภอเฮอซุ่ย แบบยาว ๆ เที่ยว9.30
จริง ๆ มันมีเที่ยวเช้ากกว่านั้นแต่เราไม่ได้จองอะไรไว้เลยเพราะไม่แน่ใจว่าออกสนามบินมากลัวจะต้องรีบ เหนื่อย ค่อยมาจองเอาหน้างาน แต่เอาจิง มันทันอะนะเที่ยวแรก แต่ก็นั่นแหละมีเวลาตุนเสบียง สำรวจโน้นนี่นั้น สบาย สบาย ที่นี้ก็หลับยาว มีการเรียกทางข้าวเที่ยว เข้าห้องน้ำ (เอาข้าวกลางวันก่อนนะ เตรียมมาแล้วมีกาแฟเตรียมมา ซื้อข้าวสาลี 1 ฝักก็อยู่ได้เพราะทานแล้วก็นอนต่อไม่ได้ใช้พลังงาน ส่วนห้องน้ำไม่ปวดก็ไม่ต้องเข้านะ แต่ป้าเข้าอยู่ไม่อยากอั้นกลัวเป็นปัญหาทีหลัง ครั้งแรกที่เข้าห้องน้ำแบบไม่มีประตูและนั้งต่อแถวกันเหมือนครอบท่อระบายน้ำอะ แอบคิดนะถ้าถ่ายหนักทำไงเนี่ย เตรียมกระดาษชำระด้วยเด้อออออ) นั่งรถต่อแบบยาว ๆ แต่วิวข้างทางคือสวยอะ ไปเรื่อย ๆ พอเข้าเมืองเขาก็จะเอามาลงที่เดียวกันหมด ก็จะมีแท๊กซี่ หรือเดินหาโรงแรมกันเอง พวกเราเรียกแท๊กซี่เพราะยังไม่คุ้นเคยเมือง ประโยชน์คือ เขารู้จักโรงแรม ไม่ต้องเดินหา เวลาหาไม่เจอเขาก็จะโทรถามให้ ติดต่อยกกระเป๋าและเป็นตัวแทนเราได้เลย เราพักที่โรงแรม Jinlong Hotel Heishui ซึ่งห้องน้ำเป็นยอง ๆ แต่เจ้าของพูดภาษอังกฤษได้ เขาสามารถจองตั๋วเข้าอุทยานให้เราได้อะ คือดีตรงคุยกันรู้เรื่องอะ แต่พนักงานต้อนรับของนางคือจีนแท้อย่างแรง ลุย ๆ เราจ่ายเงินสดในการจองตั๋ว ด้วยเหตุผลว่าจะไม่ยอมสแกนหรืออะไรก็ตามที่เกิน 200 หยวนนั่นคือต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ฮ่าๆๆ สรุปจ่าย 330 หยวนต่อคน โรงแรมนี้เขาว่ามีคนไทยเยอะอยู่แต่พวกเราหาไม่เจอ เวลายังเหลืออยู่นิ๊ดนึ่งสำหรับวันนี้หาไรตุนไว้ ห่อข้าวกลางวันพรุ่งนี้กัน (นิสัยส่วนตัวของวัยนี้คือพวกอาหารการกินให้พร้อมเพราะไม่อยากไปซื้อหน้างานนอกจากจะไม่ถูกปากแล้วยังแพงกว่าปกติ ครั้นจะไม่ทานกลางวันคือเป็นไปไม่ได้เพราะต้องใช้พลังงานเยอะ ได้แอปเปิ้น สดมาก ๆ มา 2 ลูก (ลืมบอกว่าเมืองนี้ตอนนี้แอปเปิ้นเยอะมาก สดทุกลูก รสชาติสุดยอด) เอาละเตรียมถึงเวลานอนละ พรุ่งนี้ตั้งใจจะออกเช้า ๆ นัดรถไว้ 8.00 นางจะมารับไปอุทยาน