- ก่อนดูชั่งใจอยู่ว่าจะสามารถรับมือกับหนังสารคดีที่มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 35 นาทีที่เตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องสุ่มเสี่ยงต่อการวูบหลับแน่ ๆ ได้หรือเปล่า ? แต่อีกใจก็คิดว่าเราเคยผ่านการดูหนังสารคดีที่มีความยาวมากกว่าเกือบครึ่งชั่วโมงอย่างหนังสารคดีเยอรมันมาแล้วเรื่อง Republic of Silence (2021) ทำไมแค่นี้จะสู้ไม่ได้วะ ? เมื่อชั่งใจอยู่สักพักก็เลยตัดสินใจว่า เอาวะ จัดไปล่ะกัน หลังจากดูจบเป็นไปตามที่คาดไว้คือหลับ แล้วหลับ ๆ ตื่น ๆ หลายรอบมาก ทั้งที่เพิ่งเข้ามาดูราว 15 นาที ในช่วงที่พี่ตู กำลังหัวร้อนยืนด่าผู้ร่วมลงทุนหรือเปล่าไม่แน่ใจคนหนึ่งประมาณว่าไม่พอใจที่ถูกเอาเปรียบเรื่องเงินอะไรนี่แหล่ะจนอีกฝ่ายหน้าชาไปทั้งแถบเพราะเถียงไม่ทันหรือไม่เข้าใจภาษาก็รู้สึกว่า Character ของพี่ตูนี่มีอะไรน่าสนใจแฮะ
- ถึงจะวูบเกือบทั้งเรื่องแต่โดยรวมมีสติก็พอจะเรียบเรียง Story ได้อยู่ว่า ตัวหนังจะเล่าถึงชีวิตของกลุ่มคนเลี้ยงกุ้งที่ประกอบไปด้วย พี่ตู เจ้านายชาวไต้หวัน กับ ซู สาวชาวพม่าที่เป็นลูกจ้างไปข้างหน้าอย่างเรียบง่ายผ่านการถ่ายภาพของผู้กำกับ Hsiu-Yi Huang ตั้งแต่ไถที่ดินเป็นบ่อขนาดใหญ่ จัดหาเครื่องไม้เครื่องมือ อย่างเช่นผ้ายางไว้คลุมบ่อ ซื้อเครื่องปั่นไฟ แล้วเกณฑ์ลูกน้องมาช่วยงาน ซื้อกุ้งจากที่ต่าง ๆ นำมาเพาะเลี้ยง หาคนมาร่วมลงทุน บลา ๆ ขณะเดียวกันตัวหนังก็นำเสนอให้เห็นถึงอุปสรรคในการทำงานระหว่างพี่ตูกับคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การวางแผนว่าใครทำหน้าที่อะไร ? หรือ เรื่องภาษาที่ดูจะเป็นปัญหาสำคัญกับคนอื่น ๆ ยังดีที่มีซูเป็นคนกลางคอยประสานงานไม่งั้นไม่รู้จะดำเนินงานต่อไปยังไง ? ถึงบางช่วงมุมกล้องจะเหวี่ยงไปตามสถานการณ์จนดูไม่ทันแต่เข้าใจดีว่าผู้กำกับเองก็อยู่ในเหตุการณ์ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ถ่ายเฉย ๆ ยังถูก ซู ลากให้ช่วยยกหลังคาที่ถูกแรงพายุพัดจนเกือบจะตกลงไปในบ่อด้วยความระทึก
- แม้หน้างานที่เห็นจะเต็มไปด้วยความทุลักทุเลจากอีโก้ของแต่ละคนก็ดี สภาพแวดล้อมที่ยากจะคาดการณ์เอย หรือ การติดต่อหาลูกค้าตามที่ต่าง ๆ แม้จะมีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูถึงที่ก็ใช่ว่าจะราบรื่นตามที่หวัง เพราะต่างคนก็ร้อยพ่อพันแม่ก็ยากที่จะควบคุมไปในทางเดียวกันหมด เมื่อมากคนก็มากความก็ต้องจัดการแก้ไขกันไปทีละอย่าง มีฉากที่ชอบอย่างช่วงที่พี่ตูกับซูนั่งถกเถียงกันระหว่างพักเว้นจากการดูแลบ่อกุ้งแต่ละครั้งเราจะรู้สึกค่อย ๆ ซึมซับไปกับแนวคิดของทั้งคู่เหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความเป็นมนุษย์มากกว่าจะมองสถานะเป็นเพียงเจ้านายลูกน้องหรือนั่งดูทั้งคู่โต้วาทีกันอย่างออกรสแล้วตัดสินตามอารมณ์ว่าความคิดใครถูกเพราะทุกคนคือส่วนหนึ่งขององค์กรที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
- ยังดีที่มีการจ่าหัวว่าขณะนี้อยู่ในช่วงปีใด ? มันเลยช่วยเรียบเรียง Story ที่กำลังสาละวนอยู่กับการดำเนินธุรกิจฟาร์มกุ้งซะส่วนใหญ่ให้เข้าใจภาพยิ่งขึ้น จนกระทั่งเริ่มมีเส้นเรื่องของตัวซูเข้ามาเกี่ยวมากขึ้นใน Part หลัง ๆ ในช่วงที่ตั้งครรภ์กับ โจโจ สามีชาวพม่าจนต้องเดินทางไปพักอยู่กับแม่ที่ไต้หวันจนนึกถึงเรื่องที่ดูไปก่อนหน้านี้อย่าง XiXi (2024) ขึ้นมาทันที ตาม Timeline แต่ละปีจนถึงช่วงวิกฤติครั้งใหญ่ของโลกการระบาดของโควิด-19 แล้วยังซ้ำต่อด้วยการรัฐประหารของมิน อ่อง ลาย ในปีถัดไปอีกที พอเห็นคำบรรยายหลังจากหนังจบก็อดที่จะสะเทือนใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่อย่างน้อยที่ผ่านมาทำให้เราเห็นถึงความพยายาม ความร่วมมือในการก่อร่างสร้างธุรกิจจนเป็นรูปเป็นร่าง ถึงมีการกระทบกระทั่งจนเกือบวางมวยแต่ด้วยมันสมองหัวการค้าของพี่ตูกับความชำนาญในพื้นที่ของซูและคนอื่น ๆ ก็สามารถประคับประคองธุรกิจไปได้ แม้จะไม่ได้สวยงามตามที่หวังแต่อย่างน้อยก็เป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนที่อยากจะเริ่มต้นทำในสิ่งที่รักที่ชอบหรือสนใจลุกขึ้นมาทำด้วยความหวังเช่นกัน
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ : EMistique
[CR] No.131 Diamond Marine World (2022) : Taiwan Documentary Film Festival in Thailand 2024
- ก่อนดูชั่งใจอยู่ว่าจะสามารถรับมือกับหนังสารคดีที่มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 35 นาทีที่เตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องสุ่มเสี่ยงต่อการวูบหลับแน่ ๆ ได้หรือเปล่า ? แต่อีกใจก็คิดว่าเราเคยผ่านการดูหนังสารคดีที่มีความยาวมากกว่าเกือบครึ่งชั่วโมงอย่างหนังสารคดีเยอรมันมาแล้วเรื่อง Republic of Silence (2021) ทำไมแค่นี้จะสู้ไม่ได้วะ ? เมื่อชั่งใจอยู่สักพักก็เลยตัดสินใจว่า เอาวะ จัดไปล่ะกัน หลังจากดูจบเป็นไปตามที่คาดไว้คือหลับ แล้วหลับ ๆ ตื่น ๆ หลายรอบมาก ทั้งที่เพิ่งเข้ามาดูราว 15 นาที ในช่วงที่พี่ตู กำลังหัวร้อนยืนด่าผู้ร่วมลงทุนหรือเปล่าไม่แน่ใจคนหนึ่งประมาณว่าไม่พอใจที่ถูกเอาเปรียบเรื่องเงินอะไรนี่แหล่ะจนอีกฝ่ายหน้าชาไปทั้งแถบเพราะเถียงไม่ทันหรือไม่เข้าใจภาษาก็รู้สึกว่า Character ของพี่ตูนี่มีอะไรน่าสนใจแฮะ
- ถึงจะวูบเกือบทั้งเรื่องแต่โดยรวมมีสติก็พอจะเรียบเรียง Story ได้อยู่ว่า ตัวหนังจะเล่าถึงชีวิตของกลุ่มคนเลี้ยงกุ้งที่ประกอบไปด้วย พี่ตู เจ้านายชาวไต้หวัน กับ ซู สาวชาวพม่าที่เป็นลูกจ้างไปข้างหน้าอย่างเรียบง่ายผ่านการถ่ายภาพของผู้กำกับ Hsiu-Yi Huang ตั้งแต่ไถที่ดินเป็นบ่อขนาดใหญ่ จัดหาเครื่องไม้เครื่องมือ อย่างเช่นผ้ายางไว้คลุมบ่อ ซื้อเครื่องปั่นไฟ แล้วเกณฑ์ลูกน้องมาช่วยงาน ซื้อกุ้งจากที่ต่าง ๆ นำมาเพาะเลี้ยง หาคนมาร่วมลงทุน บลา ๆ ขณะเดียวกันตัวหนังก็นำเสนอให้เห็นถึงอุปสรรคในการทำงานระหว่างพี่ตูกับคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การวางแผนว่าใครทำหน้าที่อะไร ? หรือ เรื่องภาษาที่ดูจะเป็นปัญหาสำคัญกับคนอื่น ๆ ยังดีที่มีซูเป็นคนกลางคอยประสานงานไม่งั้นไม่รู้จะดำเนินงานต่อไปยังไง ? ถึงบางช่วงมุมกล้องจะเหวี่ยงไปตามสถานการณ์จนดูไม่ทันแต่เข้าใจดีว่าผู้กำกับเองก็อยู่ในเหตุการณ์ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ถ่ายเฉย ๆ ยังถูก ซู ลากให้ช่วยยกหลังคาที่ถูกแรงพายุพัดจนเกือบจะตกลงไปในบ่อด้วยความระทึก
- แม้หน้างานที่เห็นจะเต็มไปด้วยความทุลักทุเลจากอีโก้ของแต่ละคนก็ดี สภาพแวดล้อมที่ยากจะคาดการณ์เอย หรือ การติดต่อหาลูกค้าตามที่ต่าง ๆ แม้จะมีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูถึงที่ก็ใช่ว่าจะราบรื่นตามที่หวัง เพราะต่างคนก็ร้อยพ่อพันแม่ก็ยากที่จะควบคุมไปในทางเดียวกันหมด เมื่อมากคนก็มากความก็ต้องจัดการแก้ไขกันไปทีละอย่าง มีฉากที่ชอบอย่างช่วงที่พี่ตูกับซูนั่งถกเถียงกันระหว่างพักเว้นจากการดูแลบ่อกุ้งแต่ละครั้งเราจะรู้สึกค่อย ๆ ซึมซับไปกับแนวคิดของทั้งคู่เหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความเป็นมนุษย์มากกว่าจะมองสถานะเป็นเพียงเจ้านายลูกน้องหรือนั่งดูทั้งคู่โต้วาทีกันอย่างออกรสแล้วตัดสินตามอารมณ์ว่าความคิดใครถูกเพราะทุกคนคือส่วนหนึ่งขององค์กรที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
- ยังดีที่มีการจ่าหัวว่าขณะนี้อยู่ในช่วงปีใด ? มันเลยช่วยเรียบเรียง Story ที่กำลังสาละวนอยู่กับการดำเนินธุรกิจฟาร์มกุ้งซะส่วนใหญ่ให้เข้าใจภาพยิ่งขึ้น จนกระทั่งเริ่มมีเส้นเรื่องของตัวซูเข้ามาเกี่ยวมากขึ้นใน Part หลัง ๆ ในช่วงที่ตั้งครรภ์กับ โจโจ สามีชาวพม่าจนต้องเดินทางไปพักอยู่กับแม่ที่ไต้หวันจนนึกถึงเรื่องที่ดูไปก่อนหน้านี้อย่าง XiXi (2024) ขึ้นมาทันที ตาม Timeline แต่ละปีจนถึงช่วงวิกฤติครั้งใหญ่ของโลกการระบาดของโควิด-19 แล้วยังซ้ำต่อด้วยการรัฐประหารของมิน อ่อง ลาย ในปีถัดไปอีกที พอเห็นคำบรรยายหลังจากหนังจบก็อดที่จะสะเทือนใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่อย่างน้อยที่ผ่านมาทำให้เราเห็นถึงความพยายาม ความร่วมมือในการก่อร่างสร้างธุรกิจจนเป็นรูปเป็นร่าง ถึงมีการกระทบกระทั่งจนเกือบวางมวยแต่ด้วยมันสมองหัวการค้าของพี่ตูกับความชำนาญในพื้นที่ของซูและคนอื่น ๆ ก็สามารถประคับประคองธุรกิจไปได้ แม้จะไม่ได้สวยงามตามที่หวังแต่อย่างน้อยก็เป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนที่อยากจะเริ่มต้นทำในสิ่งที่รักที่ชอบหรือสนใจลุกขึ้นมาทำด้วยความหวังเช่นกัน
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ : EMistique
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้