- โดยรวมชอบ ลึกซึ้ง กินใจ เกินคาดจากที่คิดไว้ตอนก่อนดูว่าจะเป็นหนังสารคดีที่พูดถึงแต่เรื่องศิลปะอย่างเดียว หลังจากดูจบคือมีส่วนที่คาดไว้เพียงแต่เป็นส่วนประกอบที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนให้ตัวละครนำอย่าง Xixi มีมิติที่หลากหลายให้สำรวจ ไม่ว่า จะเป็นในแง่ของการแสดงร่ายรำ , มุมมอง หรือ การกระทำผ่านความรู้สึกในแต่ละช่วงเวลาผสมคำพรรณนาจากปากของเจ้ากับผู้บันทึกภาพและกำกับอย่างฟ่านอู๋ที่ได้รู้จักกันที่งานเทศกาลเต้นรำในเบอร์ลินตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็กที่อยู่กับแม่จนโตขึ้นได้เจอกับชายชาวฝรั่งเศสเข้าในช่วงที่เธอกำลังศึกษาแล้วเกิด Spark กลางอากาศจนฝ่ายชายขอแต่งงานแล้วทำเรื่องพาเธอย้ายไปอยู่ด้วยกันที่ประเทศฝรั่งเศสจนได้กำเนิดลูกสาวที่ชื่อ นีน่า ขึ้นในเวลาต่อมา

- แม้เธอจะย้ายไปอยู่ประเทศใหม่ที่เปิดโอกาสให้เธอได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่คิดว่าต้องดีกว่าเดิมรวมถึงได้โอกาสทำความฝันแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสวยงามสะดวกโยธิน เพราะมีอุปสรรคที่รอต้อนรับเธอ ไม่ว่าจะเป็น ด้านภาษา , อาการ Culture Shock จากวัฒนธรรมที่ไม่ได้มีอะไรเหมือนกับสังคมที่เคยจากมา แล้วไหนจะปัญหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ ,ผู้ลี้ภัย , ข้อกฎหมาย หรือ การหางานทำหลังจากเริ่มปรับตัวได้ ทุกสิ่งที่ประดังประเดเหมือนเป็นการรับน้องเข้าสู่การเป็นพลเมืองในประเทศเสรีเพื่อแลกกับสิ่งที่เธอค้นหาและเรียกร้องมาโดยตลอดนั่นคือความฝัน 
 
- ระหว่างดูถึงจะเผลอวูบหลับไปตอนที่ Xixi ยืนโบกรถอยู่บนริมฟุตบาธหลังจากที่เธอตัดสินใจหอบกระเป๋าหนีออกจากบ้านสามีแล้วทิ้งให้ นีน่า ลูกสาวอยู่กับเขาเพื่อออกไปตามหาฝันกระทั่งตื่นขึ้นมาตอนที่ Xixi กำลังร่ายรำอยู่กับใครคนหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเป็นตัวนีน่า ลูกสาวหรือฟ่านอุ๋ผู้ถ่ายภาพตามที่เห็นบน Poster หรือเปล่า ? ในห้อง ๆ หนึ่ง เมื่อเริ่มจูนสติ ประติดประต่อตามลำดับก็สังเกตว่าตัวหนังไม่ได้เดินเรียงตาม Timeline ตรงตัวซะทีเดียว มีการเล่าย้อนด้วยการใส่ Footage ประกอบเป็นช่วง ๆ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นแต่ทั้งหมดที่ Run ไป 1 ชั่วโมง 40 นาทีก็เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะ Main หลักจะตกอยู่ที่ตัว Xixi  กำลังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างการค้นหาตัวตนกับการต่อสู้คดีขอสิทธิ์ความเป็นแม่ในการเลี้ยงดูลูกสาวกับอดีตสามีที่ไม่ขอทนกับพฤติกรรมอินดี้ไม่แคร์สื่อของเธอ รวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับฟ่านอู๋ที่ค่อย ๆ เติบโตมากกว่าแค่หยิบกล้องขึ้นมาถ่าย

- ถึงช่วงท้ายก่อนจะจบรู้สึกว่าจะยืดไปนิด คิดว่าถ้าจบตรงนั้นก็ได้เพราะปัญหาที่ Xixi ประสบก็ได้รับการเคลียร์จนหายข้อข้องใจ แต่ในเมื่อมีการไหลต่อเพื่อทบทวน Details ที่ผ่านมาหรือหาทางลงด้วยการใส่ภาพทิวทัศน์เป็นสัญญะสวย ๆ ก็รู้สึกว่าลงตัวและงดงามขึ้นกว่าเดิม รวมถึงชื่นชมในตัว Xixi ถึงความใจสู้ในโลกเสรีที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาโดยมีบางสิ่งที่ไปขีดกั้นความสามารถไม่ให้เธอบรรลุจุดสูงสุด แม้ปากจะบอกว่า Open แล้วก็ตาม ถึงจะถูกผู้คนมองว่าอีโก้สูงบ้าง บ้าสุดโต่งจนเพี้ยนในสายตาสังคมหรือแม้กระทั่งอดีตสามีแต่เธอกล้าที่จะเผชิญหน้าและแสดงตัวตนผ่านการเคลื่อนไหวร่างกายในเชิงศิลปะตามแบบที่เธอกำหนดออกมาให้โลกรู้ว่ากูเป็นใคร ? โดยมีกำลังใจสำคัญที่คอยเคียงข้างอย่างฟ่านอู๋และนีน่า ลูกสาวของเธอ

ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ : EMistique