“พิธา” ยอมรับการเมืองเรื่องไร้สาระไม่อยากโต้ ไม่รับฉายา "พระเอกเกาหลี"
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/236746
“พิธา” สวมเชิ๊ตผ้าขาวม้า กินสตูเนื้อร้านมิชลินดังเมืองอุดรฯ ยอมรับการเมืองเรื่องไร้สาระไม่อยากโต้ และ ไม่ขอรับฉายา "พระเอกเกาหลี"
นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนาย
คณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคประชาชน โดยภารกิจในช่วงเช้านาย
พิธาไป รับประทานอาหารที่ ร้านอาหารชื่อดังเมืองอุดร รางวัลมิชลีน 2 ปีซ้อน ชื่อร้านมาดามพาเท่ห์
ทันทีที่นาย
พิธามาถึงร้าน เจ้าของร้านถึงขั้นร้องกรี๊ดและวิ่งเข้าสวมกอดทันที ก่อนที่จะพานาย
พิธาเดินเข้าร้าน จากนั้นก็มีลูกค้าภายในร้านรวมถึงประชาชนที่ผ่านมาเข้ามาขอถ่ายรูปกับนาย
พิธาและนาย
คณิศร
นาย
พิธาเปิดเผยเหตุผลที่เลือกร้านที่นี่พอได้พูดคุยกับผู้สมัครนายก อบจ. โดยสั่งเมนู สตูเนื้อกับขนมปัง และ สั่งเครื่องดื่มเป็นกาแฟลาเต้ และบอกว่า “
มีร้านในเมืองอุดรในใจอยู่ 2-3 ร้าน จึงให้ว่าที่นายก อบจ. เป็นคนเคาะ เพราะมีความสนิทสนมกับเจ้าของร้านจึงเลือกมาที่นี่ ส่วนสาขาที่กรุงเทพฯ ตนก็ได้พาน้องพิพิมไปกินบ่อย“
นาย
พิธา ยังเล่าถึงเสื้อที่ใส่มาในวันนี้ซึ่งเป็นเสื้อลายผ้าขาวม้าสีฟ้า โดยบอกว่าเป็นเสื้อที่ประยุกต์มา แต่ได้ใส่ลงพื้นที่หลายครั้งแล้ว แล้วช่วงเดือนนี้ก็อยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ถ้าจำไม่ผิดช่วงปีที่แล้วก็อยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ตอนที่ได้ไปรำวงก็ใส่เสื้อตัวนี้ ใส่เสื้อซ้ำๆ จะได้ไม่มีขยะเพิ่ม
ส่วนการลงพื้นที่ 3 เวทีวันนี้ เป็นพื้นที่ ที่มีประชากรหนาแน่น ซึ่งการเลือกตั้งระดับจังหวัด ทุกพื้นที่สำคัญ แต่อาจจะต้องเรียงลำดับ เพราะไม่ได้จบสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้าก็ยังมีเวลา ค่อยๆ ไล่ไปทีละระดับ แต่ละพื้นที่ก็มีปัญหาที่ต่างกัน เดินสวนกับคนในพื้นที่ ก็บอกว่าอยากฟังวิธีการแก้ปัญหา ที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดอุดร ไม่อยากให้โต้กันไปมา มากเกินไป เพราะไม่รู้ว่ามาฟังแล้วได้อะไรกลับไปบ้าง และจะทำอะไรกับจังหวัดอุดรธานี
"
ได้ศึกษามาแล้ว งบ อบจ.อุดรฯ 1,200 ล้านบาท เกี่ยวกับสาธารณสุข ท่องเที่ยว เท่าไหร่ ถ้าได้เข้าไปเป็นนายกฯ จะจัดสรรอย่างไร ให้สอดคล้องกับความเดือดร้อน ของคนอุดรฯ แต่แน่นอนว่าก็ต้องมีการโต้ อะไรที่ไม่มีสาระ ก็ไม่ต้องโต้ แต่ถ้ามีสาระก็ต้องโต้ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีการเสนอมากกว่าการโต้ไปมา เพราะบทเรียนจากการเมืองทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ สะท้อนคนเบื่อการเมือง จากการด่าไปมา จึงไม่ไปเลือกตั้ง ถือเป็นจุดที่อันตราย จึงต้องค่อยๆ เปลี่ยนใจชาวอุดรฯ ให้ออกไปใช้สิทธิ"
ส่วนฉายา “
พระเอกเกาหลี” ที่นาย
ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยบนเวที นาย
พิธา บอกว่า ไม่รู้ว่าเรียกใคร หมายถึงคนอื่นมั้ง ผมไม่ถึงขนาดนั้นอยู่แล้ว แก่แล้วเดี๋ยวนี้อายุมาก ขอไม่รับดีกว่า เดี๋ยวคนหมั่นไส้
ส่วนการปราศรัยในวันนี้ นาย
พิธา ยอมรับว่ายังสองจิต สองใจ เพราะมีคอการเมืองจำนวนมาก อยากเห็นการตอบโต้ เพื่อความมีสีสันทางการเมือง แต่ขณะเดียวกัน รู้สึกว่า ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ยังตกระกำลำบากอยู่ตอนนี้ ก็อยากฟังว่านายกฯ อบจ. จะมาทำอะไรให้คนอุดรฯ และเรื่องของนโยบายท้องถิ่น จึงตัดสินใจว่าจะหาจุดสมดุลที่เหมาะสม อะไรที่มีสาระสำคัญก็คงจะโต้ตอบ อะไรที่ไม่มีสาระก็คงไม่โต้ ขณะเดียวกันก็จะเน้นเรื่องคุณสมบัติของแคนดิเดต นโยบายที่ตรงปัญหากับชาวอุดร
บก.ลายจุด จวกยับข้าราชการเชียงใหม่ กล่าวหาผู้ประสบภัยทำลายภาพลักษณ์ โพสต์ภาพโคลนหลังน้ำท่วม
https://ch3plus.com/news/social/ch3onlinenews/424844
บก.ลายจุด จวกยับข้าราชการ สั่งชาวบ้านลบโพสต์ สภาพโคลนหลังน้ำท่วมเชียงใหม่ อ้างทำภาพลักษณ์จังหวัดเสียหาย
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2567 นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ
บก.ลายจุด โพสต์ตำหนิเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ หลังสั่งผู้ประสบภัยลบโพสต์ กล่าวหาว่าทำภาพลักษณ์จังหวัดเสียหาย ข้อความระบุว่า
“
มันมีชุมชนในเชียงใหม่แห่งหนึ่ง น้ำท่วมมาแล้วเดือนหนึ่งแต่โคลนในซอยยังไม่มีใครขุดออกไป ชาวบ้านต้องสวมรองเท้าบูทเดินเข้าออกบ้าน แล้วปรากฎว่ามีเจ้าของบ้านท้ายซอยลงรูป Update ทุกวันว่าตอนนี้สภาพในชุมชนเป็นยังไง
จนมาวันหนึ่งมีคนแชร์ข้อมูลนี้ออกไป ทางเทศบาลเมืองเชียงใหม่ก็ส่งคนส่งรถมาจัดการให้เรียบร้อย น้ำที่เคยขังก็แห้ง ดินโคลนก็หายไป ชาวบ้านก็เริ่มขนขยะน้ำท่วมในบ้านออกมาทิ้งและเริ่มทำความสะอาดบ้านได้
แต่สิ่งที่เหลือเชื่อคือ มี จนท.อ้างเป็นประชาสัมพันธ์จังหวัดโทรมาตำหนิเจ้าของเฟสคนนั้นว่า การเขียนและใส่รูปบ้านของเขาในสภาพที่เต็มไปด้วยโคลนนั้นทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวเสียหาย คนจะไม่มาลอยกระทง ขอให้ลบข้อความนั้นออกไปเพื่อรักษาภาพลักษณ์อันดีงามของจังหวัด
สรุปนะครับ จังหวัดเชียงใหม่นอกจากต้องขนโคลนและขยะน้ำท่วมออกไปจากชุมชนแล้ว จะต้องขุดข้าราชการแบบนี้ออกไปจากระบบราชการ ตัวเองไม่ได้มาช่วยเขาขุดโคลนแต่ยังมาตำหนิและกล่าวหาผู้ประสบภัยว่าทำลายภาพลักษณ์ คือเป็นประชาสัมพันธ์จังหวัดก็ควรสื่อสารความคืบหน้าว่าขณะนี้ปัญหาต่างๆ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว แค่นั้น”
https://www.facebook.com/100000071610230/posts/9303205639691731/
ดุสิตโพล ปชช.เลือกนายกอบจ.จากภาพลักษณ์-เชื่อมั่นเพื่อไทย
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_803088/
“สวนดุสิตโพล” ประชาชนเลือก นายก อบจ.จากความชอบ ภาพลักษณ์ มากสุด เกินครึ่งเลือกคนเก่า อยากให้แก้ปัญหาไฟฟ้า ประปา ถนน อันดับแรก เชื่อมั่นเพื่อไทยแก้ท้องถิ่นดีสุด
“
สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศ เรื่อง “
นายก อบจ. กับการทำงานท้องถิ่น” ระหว่างวันที่ 11-15 พฤศจิกายน 2567 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,039 คน สำรวจทางภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างสนใจติดตามข่าวการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยละ 71.44 โดยตัดสินใจเลือกผู้สมัครจากความชอบ ภาพลักษณ์ ประวัติ นิสัย ร้อยละ 56.83, ความมุ่งมั่น ตั้งใจ พร้อมทำงาน ร้อยละ 49.25 และชอบพรรคที่สนับสนุน ชอบนโยบาย ร้อยละ 41.49
เรื่องที่อยากให้ท้องถิ่นพัฒนามากที่สุด ร้อยละ 62.02 พัฒนาไฟฟ้า ประปา ถนน,ร้อยละ 60.80 เศรษฐกิจ รายได้ คุณภาพชีวิต และ ร้อยละ 53.89 แก้ปัญหาอาชญากรรมและอบายมุข
ทั้งนี้ ร้อยละ 50.71 ระบุ จะเลือกจากผู้สมัครคนเก่า, ร้อยละ 39.36 เลือกผู้สมัครคนใหม่ อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองที่ประชาชนเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาท้องถิ่นมากที่สุด ร้อยละ 33.15 พรรคเพื่อไทย, ร้อยละ 30.68 พรรคประชาชน,ร้อยละ 15.41 พรรคภูมิใจไทย, ร้อยละ 12.92 พรคพลังประชารัฐ และ ร้อยละ 7.84 พรรคประชาธิปัตย์
JJNY : “พิธา”ไม่รับฉายา"พระเอกเกาหลี"│บก.ลายจุดจวกยับขรก.เชียงใหม่│ดุสิตโพลเลือกจากภาพลักษณ์│ฟิลิปปินส์รับมือ“หม่านหยี่”
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/236746
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคประชาชน โดยภารกิจในช่วงเช้านายพิธาไป รับประทานอาหารที่ ร้านอาหารชื่อดังเมืองอุดร รางวัลมิชลีน 2 ปีซ้อน ชื่อร้านมาดามพาเท่ห์
ทันทีที่นายพิธามาถึงร้าน เจ้าของร้านถึงขั้นร้องกรี๊ดและวิ่งเข้าสวมกอดทันที ก่อนที่จะพานายพิธาเดินเข้าร้าน จากนั้นก็มีลูกค้าภายในร้านรวมถึงประชาชนที่ผ่านมาเข้ามาขอถ่ายรูปกับนายพิธาและนายคณิศร
นายพิธาเปิดเผยเหตุผลที่เลือกร้านที่นี่พอได้พูดคุยกับผู้สมัครนายก อบจ. โดยสั่งเมนู สตูเนื้อกับขนมปัง และ สั่งเครื่องดื่มเป็นกาแฟลาเต้ และบอกว่า “มีร้านในเมืองอุดรในใจอยู่ 2-3 ร้าน จึงให้ว่าที่นายก อบจ. เป็นคนเคาะ เพราะมีความสนิทสนมกับเจ้าของร้านจึงเลือกมาที่นี่ ส่วนสาขาที่กรุงเทพฯ ตนก็ได้พาน้องพิพิมไปกินบ่อย“
นายพิธา ยังเล่าถึงเสื้อที่ใส่มาในวันนี้ซึ่งเป็นเสื้อลายผ้าขาวม้าสีฟ้า โดยบอกว่าเป็นเสื้อที่ประยุกต์มา แต่ได้ใส่ลงพื้นที่หลายครั้งแล้ว แล้วช่วงเดือนนี้ก็อยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ถ้าจำไม่ผิดช่วงปีที่แล้วก็อยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ตอนที่ได้ไปรำวงก็ใส่เสื้อตัวนี้ ใส่เสื้อซ้ำๆ จะได้ไม่มีขยะเพิ่ม
ส่วนการลงพื้นที่ 3 เวทีวันนี้ เป็นพื้นที่ ที่มีประชากรหนาแน่น ซึ่งการเลือกตั้งระดับจังหวัด ทุกพื้นที่สำคัญ แต่อาจจะต้องเรียงลำดับ เพราะไม่ได้จบสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้าก็ยังมีเวลา ค่อยๆ ไล่ไปทีละระดับ แต่ละพื้นที่ก็มีปัญหาที่ต่างกัน เดินสวนกับคนในพื้นที่ ก็บอกว่าอยากฟังวิธีการแก้ปัญหา ที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดอุดร ไม่อยากให้โต้กันไปมา มากเกินไป เพราะไม่รู้ว่ามาฟังแล้วได้อะไรกลับไปบ้าง และจะทำอะไรกับจังหวัดอุดรธานี
"ได้ศึกษามาแล้ว งบ อบจ.อุดรฯ 1,200 ล้านบาท เกี่ยวกับสาธารณสุข ท่องเที่ยว เท่าไหร่ ถ้าได้เข้าไปเป็นนายกฯ จะจัดสรรอย่างไร ให้สอดคล้องกับความเดือดร้อน ของคนอุดรฯ แต่แน่นอนว่าก็ต้องมีการโต้ อะไรที่ไม่มีสาระ ก็ไม่ต้องโต้ แต่ถ้ามีสาระก็ต้องโต้ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีการเสนอมากกว่าการโต้ไปมา เพราะบทเรียนจากการเมืองทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ สะท้อนคนเบื่อการเมือง จากการด่าไปมา จึงไม่ไปเลือกตั้ง ถือเป็นจุดที่อันตราย จึงต้องค่อยๆ เปลี่ยนใจชาวอุดรฯ ให้ออกไปใช้สิทธิ"
ส่วนฉายา “พระเอกเกาหลี” ที่นายทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยบนเวที นายพิธา บอกว่า ไม่รู้ว่าเรียกใคร หมายถึงคนอื่นมั้ง ผมไม่ถึงขนาดนั้นอยู่แล้ว แก่แล้วเดี๋ยวนี้อายุมาก ขอไม่รับดีกว่า เดี๋ยวคนหมั่นไส้
ส่วนการปราศรัยในวันนี้ นายพิธา ยอมรับว่ายังสองจิต สองใจ เพราะมีคอการเมืองจำนวนมาก อยากเห็นการตอบโต้ เพื่อความมีสีสันทางการเมือง แต่ขณะเดียวกัน รู้สึกว่า ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ยังตกระกำลำบากอยู่ตอนนี้ ก็อยากฟังว่านายกฯ อบจ. จะมาทำอะไรให้คนอุดรฯ และเรื่องของนโยบายท้องถิ่น จึงตัดสินใจว่าจะหาจุดสมดุลที่เหมาะสม อะไรที่มีสาระสำคัญก็คงจะโต้ตอบ อะไรที่ไม่มีสาระก็คงไม่โต้ ขณะเดียวกันก็จะเน้นเรื่องคุณสมบัติของแคนดิเดต นโยบายที่ตรงปัญหากับชาวอุดร
บก.ลายจุด จวกยับข้าราชการเชียงใหม่ กล่าวหาผู้ประสบภัยทำลายภาพลักษณ์ โพสต์ภาพโคลนหลังน้ำท่วม
https://ch3plus.com/news/social/ch3onlinenews/424844
บก.ลายจุด จวกยับข้าราชการ สั่งชาวบ้านลบโพสต์ สภาพโคลนหลังน้ำท่วมเชียงใหม่ อ้างทำภาพลักษณ์จังหวัดเสียหาย
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2567 นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด โพสต์ตำหนิเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ หลังสั่งผู้ประสบภัยลบโพสต์ กล่าวหาว่าทำภาพลักษณ์จังหวัดเสียหาย ข้อความระบุว่า
“มันมีชุมชนในเชียงใหม่แห่งหนึ่ง น้ำท่วมมาแล้วเดือนหนึ่งแต่โคลนในซอยยังไม่มีใครขุดออกไป ชาวบ้านต้องสวมรองเท้าบูทเดินเข้าออกบ้าน แล้วปรากฎว่ามีเจ้าของบ้านท้ายซอยลงรูป Update ทุกวันว่าตอนนี้สภาพในชุมชนเป็นยังไง
จนมาวันหนึ่งมีคนแชร์ข้อมูลนี้ออกไป ทางเทศบาลเมืองเชียงใหม่ก็ส่งคนส่งรถมาจัดการให้เรียบร้อย น้ำที่เคยขังก็แห้ง ดินโคลนก็หายไป ชาวบ้านก็เริ่มขนขยะน้ำท่วมในบ้านออกมาทิ้งและเริ่มทำความสะอาดบ้านได้
แต่สิ่งที่เหลือเชื่อคือ มี จนท.อ้างเป็นประชาสัมพันธ์จังหวัดโทรมาตำหนิเจ้าของเฟสคนนั้นว่า การเขียนและใส่รูปบ้านของเขาในสภาพที่เต็มไปด้วยโคลนนั้นทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวเสียหาย คนจะไม่มาลอยกระทง ขอให้ลบข้อความนั้นออกไปเพื่อรักษาภาพลักษณ์อันดีงามของจังหวัด
สรุปนะครับ จังหวัดเชียงใหม่นอกจากต้องขนโคลนและขยะน้ำท่วมออกไปจากชุมชนแล้ว จะต้องขุดข้าราชการแบบนี้ออกไปจากระบบราชการ ตัวเองไม่ได้มาช่วยเขาขุดโคลนแต่ยังมาตำหนิและกล่าวหาผู้ประสบภัยว่าทำลายภาพลักษณ์ คือเป็นประชาสัมพันธ์จังหวัดก็ควรสื่อสารความคืบหน้าว่าขณะนี้ปัญหาต่างๆ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว แค่นั้น”
https://www.facebook.com/100000071610230/posts/9303205639691731/
ดุสิตโพล ปชช.เลือกนายกอบจ.จากภาพลักษณ์-เชื่อมั่นเพื่อไทย
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_803088/
“สวนดุสิตโพล” ประชาชนเลือก นายก อบจ.จากความชอบ ภาพลักษณ์ มากสุด เกินครึ่งเลือกคนเก่า อยากให้แก้ปัญหาไฟฟ้า ประปา ถนน อันดับแรก เชื่อมั่นเพื่อไทยแก้ท้องถิ่นดีสุด
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศ เรื่อง “นายก อบจ. กับการทำงานท้องถิ่น” ระหว่างวันที่ 11-15 พฤศจิกายน 2567 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,039 คน สำรวจทางภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างสนใจติดตามข่าวการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยละ 71.44 โดยตัดสินใจเลือกผู้สมัครจากความชอบ ภาพลักษณ์ ประวัติ นิสัย ร้อยละ 56.83, ความมุ่งมั่น ตั้งใจ พร้อมทำงาน ร้อยละ 49.25 และชอบพรรคที่สนับสนุน ชอบนโยบาย ร้อยละ 41.49
เรื่องที่อยากให้ท้องถิ่นพัฒนามากที่สุด ร้อยละ 62.02 พัฒนาไฟฟ้า ประปา ถนน,ร้อยละ 60.80 เศรษฐกิจ รายได้ คุณภาพชีวิต และ ร้อยละ 53.89 แก้ปัญหาอาชญากรรมและอบายมุข
ทั้งนี้ ร้อยละ 50.71 ระบุ จะเลือกจากผู้สมัครคนเก่า, ร้อยละ 39.36 เลือกผู้สมัครคนใหม่ อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองที่ประชาชนเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาท้องถิ่นมากที่สุด ร้อยละ 33.15 พรรคเพื่อไทย, ร้อยละ 30.68 พรรคประชาชน,ร้อยละ 15.41 พรรคภูมิใจไทย, ร้อยละ 12.92 พรคพลังประชารัฐ และ ร้อยละ 7.84 พรรคประชาธิปัตย์