ก่อนที่เราจะมีตู้เย็น การเก็บรักษาอาหารในวัฒนธรรมต่างๆ มีหลายวิธี เช่น อาหารแดดเดียว ปลาแห้ง และในต่างประเทศก็มีวิธีพิเศษสำหรับน้ำนมที่เสียง่าย นั่นคือการจุ่ม กบ มันทั้งตัวลงในนมซะเลย!
.
ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีพื้นบ้านของชาวรัสเซียและชาวฟินแลนด์โบราณที่ไม่รู้ไปสรรหาวิธีนี้มาจากไหน แต่ดันได้ผลจริง เพราะพวกเขาใช้กบสีน้ำตาลธรรมดาที่มีชื่อว่า 'Rana temporaria' (รูปอยู่ในคอมเมนต์)
.
แต่อย่าทำเป็นเล่นไป เพราะไอ้ความสงสัยนี้แหละทำให้ทีมนักวิจัยจากปี 2013 ได้ทดลองว่าทำไมกบตัวนี้ถึงทำให้นมไม่เสียได้ยังไง และทีมก็ได้ศึกษาจนได้ตีพิมพ์งานออกมาจริงๆ ในวารสาร Journal of Proteome Research ของ ACS เลยทีเดียว ซึ่งเขาพบว่าบนผิวของกบน้ำตาลประกอบไปด้วยสารเปปไทด์มากถึง 76 ชนิด โดยเฉพาะสารเปปไทด์บางตัวอย่าง Brevinin 1Tb ที่มีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ได้ โดยเฉพาะเชื้อ Salmonella และ Staphylococcus aureus ทำให้ผิวหนังของกบตัวนี้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับยาปฏิชีวนะแบบปัจจุบันเลยทีเดียว นี่จึงเป็นสาเหตุให้นมไม่บูด ไม่เปรี้ยวตามแบบฉบับคนรัสเซียโบราณนั่นเอง
.
โดยสาเหตุก็มาจากที่อยู่อาศัยของกบตัวนี้ที่เป็นที่ชื้นแฉะ ทำให้การเติบโตของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่างๆ เติบโตเร็ว ทำให้กบ คางคก ซาลาแมนเดอร์ และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดอื่นๆ สร้างสารนี้ออกมาเพื่อป้องกันตัวนั่นเอง
.
นับเป็นภูมิปัญญาสุดฉลาดของชาวรัสเซีย ฟินแลนด์เลยจริงๆ ที่คิดค้นวิธีเก็บรักษาอาหารเอาไว้ได้ แต่ปัจจุบันนี้ก็อย่าหามาทำนะ เพราะถึงมันจะช่วยต้านเชื้อโรคได้ก็จริง แต่เราก็อาจได้เชื้ออื่นปนมากับอาหารด้วย ดังนั้นเพื่อสุขภาพท้องที่ดี งานนี้เลี่ยงไว้ก่อนจะดีกว่า
.
โลกตะลึง ! จริงหรือเปล่า? ชาวรัสเซียโบราณยืดอายุ ‘นม’ 🥛 ด้วยการจุ่ม 'กบ' ลงไปทั้งตัว!🐸
.
ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีพื้นบ้านของชาวรัสเซียและชาวฟินแลนด์โบราณที่ไม่รู้ไปสรรหาวิธีนี้มาจากไหน แต่ดันได้ผลจริง เพราะพวกเขาใช้กบสีน้ำตาลธรรมดาที่มีชื่อว่า 'Rana temporaria' (รูปอยู่ในคอมเมนต์)
.
แต่อย่าทำเป็นเล่นไป เพราะไอ้ความสงสัยนี้แหละทำให้ทีมนักวิจัยจากปี 2013 ได้ทดลองว่าทำไมกบตัวนี้ถึงทำให้นมไม่เสียได้ยังไง และทีมก็ได้ศึกษาจนได้ตีพิมพ์งานออกมาจริงๆ ในวารสาร Journal of Proteome Research ของ ACS เลยทีเดียว ซึ่งเขาพบว่าบนผิวของกบน้ำตาลประกอบไปด้วยสารเปปไทด์มากถึง 76 ชนิด โดยเฉพาะสารเปปไทด์บางตัวอย่าง Brevinin 1Tb ที่มีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ได้ โดยเฉพาะเชื้อ Salmonella และ Staphylococcus aureus ทำให้ผิวหนังของกบตัวนี้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับยาปฏิชีวนะแบบปัจจุบันเลยทีเดียว นี่จึงเป็นสาเหตุให้นมไม่บูด ไม่เปรี้ยวตามแบบฉบับคนรัสเซียโบราณนั่นเอง
.
โดยสาเหตุก็มาจากที่อยู่อาศัยของกบตัวนี้ที่เป็นที่ชื้นแฉะ ทำให้การเติบโตของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่างๆ เติบโตเร็ว ทำให้กบ คางคก ซาลาแมนเดอร์ และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดอื่นๆ สร้างสารนี้ออกมาเพื่อป้องกันตัวนั่นเอง
.
นับเป็นภูมิปัญญาสุดฉลาดของชาวรัสเซีย ฟินแลนด์เลยจริงๆ ที่คิดค้นวิธีเก็บรักษาอาหารเอาไว้ได้ แต่ปัจจุบันนี้ก็อย่าหามาทำนะ เพราะถึงมันจะช่วยต้านเชื้อโรคได้ก็จริง แต่เราก็อาจได้เชื้ออื่นปนมากับอาหารด้วย ดังนั้นเพื่อสุขภาพท้องที่ดี งานนี้เลี่ยงไว้ก่อนจะดีกว่า
.