HYBE: รากฐานทางการเงินมั่นคง แต่ภาพลักษณ์เริ่มสั่นคลอน

กระทู้ข่าว
ล่าสุดอีแจซัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ HYBE ได้ให้ความมั่นใจกับพนักงานในที่ประชุมบริษัท โดยกล่าวว่า “เรามีเงินสดในมือ 1.2 ล้านล้านวอน และการดำเนินธุรกิจของเรามีผลการดำเนินงานที่ดีในเชิงปริมาณ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวล” เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “เราได้จัดการกับสถานการณ์ ADOR อย่างสมเหตุสมผลและเป็นไปตามหลักการของเรา ดังนั้นหากคุณเชื่อมั่นและรอคอย ทุกอย่างจะค่อยๆ ถูกแก้ไขไปเอง”

คำพูดนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้พนักงานของ HYBE รู้สึกสบายใจมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนในด้านความมั่นคงทางการเงินของบริษัท ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งก็ได้กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อคิมแทโฮ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ (COO) ของ HYBE และ CEO ของค่าย Belift Lab ได้ปรากฏตัวในที่ประชุมการสอบสวนของสมัชชาแห่งชาติครั้งล่าสุด ซึ่งได้มีการเปิดเผยถึงเอกสาร “รายงานอุตสาหกรรมดนตรีประจำสัปดาห์” ซึ่งมีเนื้อหาเชิงลบเกี่ยวกับการโจมตีศิลปินจากค่ายอื่นๆ แม้กระทั่งศิลปินจาก HYBE เอง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเอกสารชุดนี้ถูกส่งต่อให้กับผู้บริหารระดับสูง รวมถึงบังชีฮยอก ประธานของ HYBE อีกด้วย

สถานการณ์นี้สร้างความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป โดยในตลาดหุ้นนั้นอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ความคิดเห็นของสาธารณชนกลับมุ่งไปในทางแง่ลบต่อ HYBE อย่างชัดเจน แฟนๆ ของศิลปินที่ถูกกล่าวถึงในเอกสารชุดนี้ รวมไปถึงแฟนคลับ K-POP ทั่วโลกต่างออกมาแสดงความไม่พอใจ แม้กระทั่งศิลปินบางรายภายใต้เครือของ HYBE เองก็ยังออกมาแสดงท่าทีวิจารณ์พฤติกรรมของบริษัทผ่านสื่อ Social Media ด้วยเช่นกัน

วลีที่ว่า “รากฐานดูมั่นคง แต่ความเชื่อมั่นกำลังพังทลาย” อาจสะท้อนถึงสถานการณ์ปัจจุบันของ HYBE ได้เป็นอย่างดี ในอุตสาหกรรมบันเทิงนั้น หากความเชื่อมั่นของสาธารณชนเสื่อมลง ก็จะส่งผลกระทบต่อรากฐานของบริษัทในที่สุด

ผลกระทบนี้อาจเริ่มจากเรื่องเล็กน้อย เช่น ผู้ที่มีความสามารถที่เลือกจะเข้ามาเป็นเด็กฝึกกับบริษัทอาจมีจำนวนที่ลดลง หากภาพลักษณ์ในเรื่องจริยธรรมหรือศักยภาพการเติบโตของบริษัทยังคงติดลบแบบนี้ ผู้ปกครองอาจมีความลังเลที่จะส่งบุตรหลานอายุน้อยเข้ามาเป็นเด็กฝึกของบริษัท

ผู้เชี่ยวชาญในวงการกล่าวว่า “มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของความสามารถในการแข่งขันของบริษัทบันเทิง หากไม่สามารถดึงดูดเด็กฝึกที่มีความสามารถตั้งแต่เนิ่นๆ บริษัทก็จะมีปัญหาในการพัฒนาศิลปินที่มีศักยภาพ”

นอกจากนี้ HYBE ยังอาจจะต้องเผชิญกับความท้าทายในการเจรจาต่อรองสัญญากับศิลปินในเครือของตัวเองอีกด้วย การต่อสัญญานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางการเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่จับต้องไม่ได้ เช่น เสรีภาพ ความซื่อสัตย์ และค่านิยมร่วมกัน ซึ่งล้วนมีความสำคัญ ส่วนทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ของศิลปินก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวของบริษัทบันเทิง แม้กระทั่งบริษัทที่มีขนาดใหญ่อย่าง HYBE

ถึงแม้ว่า HYBE จะยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสามารถรอให้ความขัดแย้งถูกลืมไปได้ อย่างน้อยก็ยังพอมีเวลาที่จะฟื้นฟูความไว้วางใจและฟื้นฟูการสนับสนุนจากแฟนคลับ ที่เป็นรากฐานสำคัญของบริษัทได้อีกครั้ง

แต่ถ้าหาก HYBE ยังคงพึ่งพาแต่เพียงรากฐานที่แข็งแกร่งและปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้ยังคงอยู่ ความเสียหายอาจขยายไปไกลกว่าความเชื่อมั่นในระยะสั้น ความเชื่อมั่นที่พังทลายลงอาจนำไปสู่ผลกระทบในเชิงลบในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่การดึงดูดเด็กฝึกเข้าบริษัท ไปจนถึงปัญหากับศิลปินและแฟนคลับของพวกเขา ซึ่งท้ายที่สุดอาจสั่นคลอนศักยภาพการเติบโตของ HYBE ได้

รากฐานที่แท้จริงสำหรับ HYBE อาจไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขทางการเงิน แต่เป็นค่านิยมที่จับต้องไม่ได้ เช่น ความเชื่อมั่น, ความเคารพ, ความฝัน, และความหวัง ซึ่งทั้งหมดนี้กำลังอยู่ในสภาวะที่ไม่มั่นคงอย่างรุนแรง

รายงานโดย ผู้สื่อข่าว อีจีฮเย



โพสต์ภาษาอังกฤษที่นำมาแปล:
https://x.com/juantokki/status/1854004985832652983?t=0W5M2kvpMWRrkg5d5pqA1A&s=19

แหล่งข่าวอ้างอิงฉบับภาษาเกาหลี:
https://m.thebell.co.kr/m/newsview.asp?svccode=00&newskey=202411041238493960102914

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่