บทเนียนราคาแพงให้เพื่อนร่วมเช่าร้านแต่มีปัญหามากมายเมื่อคืนร้านค่าทำร้านต้องคืนเพื่อนเท่าไหร่

สวัสดีค่ะขอเกรินนะคะ เราเป็นแม่ค้าขายของค่ะซึ่งในวันหนึงเพื่อนเราอยากจะมาขายของเหมือนกับที่เราขายและให้เราช่วยหาร้านให้  พอดีกับที่เราเพิ่งได้ได้ล็อกร้านใหม่มาเป็นทำเลที่โอเคเราเลยนึกถึงเพื่อนคนนี้ และชวนให้เค้ามาอยู่ร้านกับเราโดยตอนแรกเป็นการชวนเพื่อนสองคนและเราได้ร่วมคุยกันแล้วว่าจะแต่งร้านแบบไหนแนวไหนโดยทั้งหมดเพื่อนเราไม่ได้มีส่วนช่วยลงแรงในการทำร้านเลย เราซื้อทุกอย่างทั้งหมด โดยบอกว่าไม่ว่างผัดข้าวอยู่ คะเพื่อนเปิดร้านอาหารตามสั่ง ในตอนนั้นเราก็โอเคเดี๋ยวเราช่วยจัดการให้ และเริ่มไปสักพักได้รับคำตอบจากเพื่อนว่าเพื่อนอีกคนนึงจะไม่ได้มาร่วมทำร้านด้วยแล้ว  กลายเป็นว่าตอนนี้จะเหลือเพื่อนแค่หนึ่งคนขอสมมุติว่าชื่อเอ็นที่จะเข้ามาร่วมหุ้นพื้นที่ร้าน  เรื่องมันก็จะเริ่มไม่เหมือนเดิมเมื่อเมื่อทำร้านเสร็จ  เพื่อนเอ็นได้เอาแฟนเข้ามามีส่วนในร้าน และเริ่มให้แฟนเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเมื่อร้านตกแต่งเรียบร้อยเพื่อนเอ็นได้ปรึกษาว่าจะขายอะไรดีโดยเราแนะนำว่าลองขายเป็นกระเป๋าผ้าลดโลกร้อนสิหรืออะไรก็ได้ที่แบบเป็นของที่สามารถทำออเดอร์ได้เพื่อนก็บอกว่าเดี๋ยวจะลองดูและส่งรูปเสื้อผ้าต่างๆมาให้บอกว่าจะขายเสื้อผ้าแต่แล้วเพื่อนเอก็เริ่มสนใจสินค้าที่เริ่มเหมือนกับของเราคือกระเป๋าถักเราเลยแนะนำร้านหนึ่งที่เราเคยซื้อกระเป๋าถักให้เขาและเขาก็ดิวกัน พอจัดร้านแต่งร้านเสร็จเรียบร้อยแล้วเพื่อนเอ็นกลับไม่ได้มาขายกลายเป็นให้แฟนมานั่งขายแทนโดยที่แฟนไม่ใช่คนไทยเป็นคนอินเดียและเป็นคนที่มีอายุ ในตอนแรกเพื่อนเอ็นไม่ได้เอาของมาวางอะไรมากมายก็จะเน้นเสื้อผ้าเป็นหลักตามที่คุยไว้และมีกระเป๋าถักนิดหน่อยสักพักพอร้านเสร็จเรียบร้อยมีที่แขวนเพื่อนเอ็นเอากระเป๋าถักมาลงและแฟนเพื่อนเอ็นเป็นคนแขวนกระเป๋าแต่งร้านจัดร้านโดยที่การจัดร้าน จัดแต่สินค้าที่เอ็นนำมาแบบเต็มที่โดยที่ทางเราแทบจะไม่มีที่แขวนในตอนแรกและไม่เว้นช่วงให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าของเราโดยเราเริ่มรู้สึกว่าไม่โอเคแล้วเราเลยโทรไปหาเพื่อนว่าบอกแฟนเธอด้วยนะว่าให้จัดของแบ่งเราบ้างและเว้นช่องไฟให้ลูกค้าเห็นของเราบ้างแรกๆก็ โอเคพอผ่านไปได้ซักอาทิตย์แฟนเพื่อนเอ็น เริ่มทำเหมือนเดิมเอาแขวนหนักขึ้นพอเราเอาของแขวนตรงพื้นที่ที่เราจ่ายครึ่งเหมือนกัน แฟนเพื่อเอ็นกลับบอกว่าเรา พอแล้วจะแขวนอะไรนักหนาไม่ต้องแขวนแล้วแค่นี้ไม่พออีกหรอทั้งทั้งที่ฉันแขวนกระเป๋าแค่สองใบแต่แฟนเพื่อนเอ็น แขวนเต็มราวไปหมด 
นั่นคือประเด็นแรกที่เริ่มไม่โอเคกับคนแบบนี้
ประเด็นต่อมาเราเป็นคนที่พูดตรงตรงเคยมีครั้งหนึ่งที่คนร้านข้างๆแนะนำว่าให้เราแขวนของร้านนี้ได้เราก็เลยแขวนแต่แขวนเป็นแค่กระเป๋าใบเล็กๆวางสองใบเพราะว่าร้านด้านข้างปิดอยู่แต่มีกลุ่มเค้าอีกคนนึงมาถ่ายรูปแล้วส่งไปให้เจ้าของร้านดูบอกว่าเราแขวนของในพื้นที่เขาเราเลยโทรไปเคลียร์กับเจ้าของร้านนั้นว่าคนในกลุ่มนั้นเป็นคนบอกให้เราแขวนและเราก็ไม่ได้อยากจะแขวนแต่ประจวบที่ที่แขวนเราเต็มเลยมีกระเป๋าอยู่3ใบเลยใส่โซ่แล้วแขวนที่เล็กๆไม่เกิน15 ซม.
เราเลยโทรไปเคลียร์กับเจ้าของร้าน เราว่าคนแถวเนี่ยไม่ปกติเหมือนใครมาใหม่จะต้องมาเคารพมากราบไหว้มาคำนับเจ้าถิ่นแต่ผิดฉันไม่ใช่คนแบบนั้นฉันมาขายของฉันไม่ได้มาสนใจเจ้าที่ใครแล้วเจ้าที่แบบเนี่ยก็ไม่น่าคบ 

ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนในกลุ่มนั้นไปเกรงกลัวอะไรกับคนแบบนี้นักหนา คนทั้งกลุ่มถึงต้องเหมือนเป็นลูกกระจ๊อกคอยตามคอยรับคำคอยอีออทุกอย่างหลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้คุยกับพวกเขาอีกเลยและไม่สนใจแม้จะมองหน้าจนวันที่ฉันได้พาเพื่อนเข้ามาอยู่ร่วมกันในร้านเหตุมันก็เลยเริ่มเกิดขึ้นอีกครั้ง 
เราออกหน้าตอนที่แฟนเพื่อนเอาของไปวางเกินคนกลุ่มนั้นนิดเดียวเหมือนมันจะแกล้ง  ไม่น่าเชื่อเพื่อนเรากับแฟนเพื่อนที่เราเคยคุยเรื่องพวกนี้ว่าเราโดนอะไรมาบ้างกลับไปสนิทกับคนพวกนั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อกับหัวเราะต่อกระซิบทักทายกันเหมือนสนิทกันมานานแต่กับเรากลายเป็นคนที่มาทักหลังสุดและก็ไม่คุยได้คุยด้วยซ้ำหลังจากที่ได้บอกแฟนเขาไปว่าแขวนของให้เห็นของของเราบ้างทุกอย่างมันก็เริ่มเปลี่ยนไป 
ความสนิทการคุยกันจากคำว่าเพื่อนมันเริ่มห่างขึ้น  เรื่องวางของหนักขึ้นขายของเริ่มเหมือนของเรามากขึ้นและพฤติกรรมแฟนเพื่อนเอ็นเริ่มออก มากขึ้น 
มีวันนึงที่เราฝากร้านไว้กับเพื่อนอีกคนนึงแล้วเพื่อนเราเห็นพฤติกรรมแฟนเพื่อนเอ็นคือลูกค้าจับของเราแต่แฟนเพื่อนเอ็นกลับดึงลูกค้าให้ไปดูกระเป๋าของเขาแล้วเชียร์แต่ของเค้า 
ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวและหลายครั้งรวมถึงการขายของของเราแล้วเหมือนมีเจตนาที่จะลืมส่งเงินให้บางครั้งที่ลูกค้าจ่ายเงินสินค้าเราให้กับมือเขาแล้วเขาบางทีก็ลืมหรือจงใจอันนี้ก็ไม่รู้ของๆเราก็เริ่มหายบ่อยขึ้นและบางทีลูกค้าจากที่เคยจับๆของเราก็กำลังจะลอง ก็ถูกกวัวมือให้เดินเข้าไปดูของๆเค้าในร้านเราก็เห็นพฤติกรรมที่แบบรับไม่ได้ก็คือดึงลูกค้าไปเป็นของตัวเองเหมือนเดิม 
อีกอย่างหนึ่งคือจัดของด้านข้างผนังหนึ่งเป็นของตัวเองวางเรียงเต็มไปหมดแต่ของด้านหลัง เป็นพื้นที่ของเราซึ่งไว้วางของโชว์ของเรากลับมานั่งและทำให้เราวางของได้น้อยลงเราเลยถามว่า ทำไมไม่ไปนั่งฝั่งนั้นแฟนเพื่อนเอ็นตอบกลับมาว่ามันบังกระเป๋า  แล้วหุ่นด้วยขยับให้มาบังทางเราหมด เพื่อที่จะได้เห็นสินค้าเค้ามากขึ้น
มาถึงตรงนี้เพื่อนๆคิดว่าไงคะ 
ดอกที่สองเราทำเงินตก 100 ตรงหน้าร้านเราก็เดินหาอยู่ว่าเงินหายไปไหนพอเราหันไปเจอเราเลยเดินไปเก็บว่าเจอเงินแล้วแฟนเพื่อนเอ็นกลับบอกว่าเงินผมเลยบอกว่าเงินเราๆทำตกไว้ เรากำลังหาอยู่  แล้วแฟนเพื่อนก็บอกว่างั้นแบ่งกันคนละ 50 เราอึ้งไปเลยเราไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน ด้วยความที่แฟนเพื่อนเป็นผู้ใหญ่มีอายุไม่คิดว่าจะออกมาจากปาก คุณเป็นอินเดียคุณคิดแบบนั้นหรอเรางงมากเลย  แล้วบางทีก็ชอบแว๊บบ่อยหายจากร้านไปนานๆปกติถ้าอยู่ร้านคุณก็ควรที่จะต้องช่วยกันในการขายของแต่คุณกลับเดินหายไปเป็นชั่วโมงแล้วป้ายราคาก็ไม่เคยติดทำให้เราต้องโทรไปถามบ่อยครั้ง ของของเราก็ต้องขายอยู่เราก็ต้องมาขายของให้คุณในเวลาเดียวกันโดยที่คุณไปเดินช้อปปิ้งของมาเติมอันเนี่ย มันไม่โอเค มันควรเอาของมาก่อนเปิดร้าน เราก็พลาดลูกค้าที่มาซื้อของเราเพราะเราไปดูแลลูกค้าคุณแทน เรามีร้านข้างในด้วยแล้วเดินไปมา2ร้าน อยู่คนเดียวมันไม่ทัน  แล้วสิ่งสุดท้ายที่ทำให้ความเป็นเพื่อนขาดผึงลงคือเราเริ่มรู้สึกว่าเพื่อนเราเอาของมาขายเหมือนเราเยอะไปแล้วเราเลยบอกเพื่อนว่าทำไมไม่ลองขายของเหมือนร้านอื่นที่เค้าขายบ้างล่ะนอกร้านน่ะที่เค้าขายกันน่ะไม่ใช่ว่าจะต้องไปเลียนแบบแฟนๆเป็นอินเดียทำไมไม่เอาของมาขายเพื่อนเราตอบกลับมาว่าไปขายของเหมือนเค้าเดี๋ยวเค้าก็ว่าเอาหรอกแล้วมันบอกว่า จะเอารองเท้ามาขายซึ่งร้านเราก็ขายส่งอยู่มันก็ไม่ควรไหม
 นั่นเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่เราต้องคิดว่าพอแล้วกับคนแบบนี้และเพื่อนๆในกลุ่มของเราก็คิดว่าควรให้เค้าไปหาร้านใหม่ได้แล้วหรือไปเช่าที่อื่นที่ไม่ใช่ร้านเรา เพราะของเค้าเริ่มเยอะมากจนทั้งร้านเป็นของเค้าไปแล้ว(เราทนปวดหัว เครียด นอนไม่หลับมาเป็นปีระยะเวลาที่แฟนเพื่อนเอ็นเข้ามาเพื่อนเอ็นไม่เคยถามสักเราโอเคมัยกับที่เอาแฟนเข้ามา  อย่างยอดขายร้านที่เพื่อนขอเช่าถ้าเรายุ่งอีกร้าไม่เข้าไปดูกระเป๋าเราไม่เคยได้ขายเค้าจับแต่ของเค้าให้ลูกค้า) ซึ่งไหนตอนแรกบอกแฟนเก่งอย่างนั้นนี่จะได้ช่วยเราขายด้วย แต่ตรงข้ามหมดเลย
เราเลยได้ปรึกษาผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้าของร้านและเค้าให้คำแนะนำมาว่าให้อัญเชิญออกจากร้านไปเลยแล้วเราได้บอกล่วงหน้าเค้าหนึ่งเดือนกับอีก 15 วัน แล้วเราต้องจ่ายคืนเพื่อนเอ็นที่ทำร้านไปเท่าไหร่คะ จากยอดหาร2เท่ากัน 22,100 /2=11,050.- คือยอดนี้ที่เพื่อนเอ็นจ่ายค่าทำร้าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่