JJNY : ครูบ้านนอกชี้ความสำคัญ│กลุ่มพนักงานบริการ บุกทำเนียบ│หวั่นสถานการณ์ ต.อ.กลางลุกลาม│อิหร่านเปิดภาพระดมยิงอิสราเอล

ครูบ้านนอก ชี้ความสำคัญทัศนศึกษา จี้แก้ต้นเหตุ เลิกผักชีโรยหน้า
https://www.matichon.co.th/education/news_4822633

ครูบ้านนอก ชี้ความสำคัญทัศนศึกษา จี้แก้ต้นเหตุ เลิกผักชีโรยหน้า

สร้างความสะเทือนใจไปตามๆ กันกับโศกนาฏกรรมรสบัสไฟไหม้ที่คร่าชีวิตครูและนักเรียน 23 ศพและบาดเจ็บอีก 3 ราย ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

ล่าสุดครูสุรศักดิ์ คำท้าว เจ้าของเพจ SuraBale -สุรเบล ครูวิทยาศาสตร์ชื่อดังในโลกออนไลน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ครูวิทย์อารมณ์ดี” และ “ครูวิทย์ชิดโซเชียลมีเดีย” ได้โพสต์แสดงความอาลัยและข้อคิดกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า 

ทำไมโลกนี้ ถึงได้ใจร้ายจัง

ในฐานะครู 
ไม่มีใครอยากพาเด็ก ๆ ออกไปเสี่ยง ทั้งเหนื่อย ทั้งกังวล แต่คุณรู้ไหม เด็กบ้านนอกอย่างเรา แค่เห็น 7-11 ก็ดีใจจนแทบบ้า วิ่งไปช้อปยังกับห้างสรรพสินค้า บางสถานที่เราอาจจะเคยไปนับร้อยครั้ง แต่เด็ก ๆ คือครั้งเดียวในชีวิต การที่เขาได้เดินทางกับเพื่อน ร้อง เล่น เต้น รำ เรียนรู้นอกห้องเรียน นอกวิดีโอที่เคยเห็น สัมผัสของจริง คงเป็นเหตุผลที่ครูยอมเหนื่อย ยอมเสี่ยง พาลูกๆ ของคนอื่นออกไปทัศนะศึกษา

ในฐานะพ่อ
บอกได้คำเดียวว่าใจสลาย ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดกับครอบครัวเรา เราคงแหลกสลาย ไม่มีวันทำใจได้ ทุกครั้งที่ลูกไป ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เรากังวล กินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่มันคือการเรียนรู้ร่วมกับเพื่อนๆ ของเขา เราพาลูกไปได้ทุกที่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าลูกอยากไปทุกที่กับเรา ยิ่งเขาโตขึ้น เขายิ่งต้องมีสังคม ต้องมีเพื่อน ต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง นั้นเป็นสิ่งที่คนเป็นพ่อ แม่ อย่างเราต้องยอมรับ สักวันหนึ่งเขาต้องเติบโตและยืนด้วยขาของตัวเอง รักหนู วัตตา วาริณ ❤️
 
ในฐานะเพจเล็ก ๆ ทางการศึกษา
ไปจัดการมาตรฐานความปลอดภัยของรถครับ เด็กเล็กถ้าจะไป ก็ไปใกล้ ๆ ละก็เลิกเอารูป เอาคลิปที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตมาเผยแพร่ได้ละ ทำใจไม่ได้ครับ
ปล. ถอดบทเรียนเสร็จก็อย่ามาให้ทำรายงาน นู้น นี่ นั้น เน้อ ครับ งานเยอะอยู่แล้ว เลิกผักชีโรยหน้าเมื่อไหร่ การศึกษาพัฒนาเมื่อนั้น
 
ด้วยความเคารพ
สุรเบล
 
ขอบคุณ FB : SuraBale -สุรเบล 


 
กลุ่มพนักงานบริการ บุกทำเนียบ เร่งพรบ.คุ้มครองผู้ให้บริการทางเพศ โวยถูกแช่แข็ง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9440495

กลุ่มพนักงานบริการ บุกหน้าทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้เร่ง พ.ร.บ.มาตรการคุ้มครองผู้ให้บริการทางเพศ หลังถูกแช่แข็ง ล่าช้า
 
เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 2 ต.ค.67 ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ประตู 4 กลุ่มพนักงานบริการ มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ โดยมีพนักงานบริการจากจังหวัดอุดร เชียงใหม่ และกรุงเพทมหานคร ได้มาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ฉันมาทวงกฎหมายของฉันคืน” เพื่อติดตามร่างกฎหมายคุ้มครองพนักงานบริการทางเพศ ว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ดำเนินการพ.ร.บ.มาตรการคุ้มครองผู้ให้บริการทางเพศ ถึงขั้นตอนไหนแล้ว
พร้อมอ่านแถลงการณ์ ยื่นข้อเรียกร้อง 2 ข้อ คือ ภาครัฐต้องเร่งจัดทำร่างกฎหมายคุ้มครองพนักงานบริการทางเพศ และให้มีตัวแทนพนักงานบริการทางเพศได้มีส่วนร่วมฝนการร่างกฎหมายดังกล่าว
 
ตัวแทนมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์และเครือข่ายพนักงานบริการ กล่าวว่า ปัญหาของพนักงานบริการต้องเผชิญมาในทุกรูปแบบอยู่รอบๆตัว พนักงานบริการไม่มีความปลอดภัยและถูกเอาเปรียบ พนักงานบริการทำงานเพื่อปากท้องเพื่อครอบครัว แต่เหตผลนี้ไม่เพียงพอที่จะไม่ให้ถูกจับ พนักงานบริการถูกล่อซื้อและรีดไถโดยคนที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ส่วนใหญ่พนักงานบริการไม่มีปากมีเสียงต้องยอมจ่ายเพราะกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี
โดยต้องการเรียกร้องให้คุ้มครองเหมือนแรงงานอื่นๆ โดยจัดทำร่างกฎหมายคุ้มครองพนักงานบริการที่จะไปยกเลิกความผิดอาญาของพนักงานบริการและคุ้มครองนี่เป็นข้อเรียกร้องที่ใหญ่ที่ยาก จนร่างกฎหมายนั้นล่าช้า พนักงานบริการต้องหาเหตุผลมากมายเพียงใด ที่จะทำให้พนักงานบริการมีสิทธิเหมือนทุกคน
 
มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์และเครือข่ายพนักงานบริการทั่วประเทศ จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง
 
นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีเข้ารับหนังสือข้อเรียกร้องจาก มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์และเครือข่ายพนักงานบริการ



สะเทือน! หุ้นโลกร่วง น้ำมัน-ทองพุ่ง หวั่นสถานการณ์ ต.อ.กลางลุกลาม
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4822621

สะเทือน! หุ้นโลกร่วง น้ำมัน-ทองพุ่ง หวั่นสถานการณ์ ต.อ.กลางลุกลาม
 
สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เพิ่มสูงขึ้นหลังอิหร่านเปิดฉากยิงขีปนาวุธชุดใหญ่กว่า 200 ลูกถล่มอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกพากันร่วงลง ขณะที่ราคาน้ำมันและทองคำพุ่งสวนทาง
 
ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังการโจมตี ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 0.4% มาปิดที่ 42,156.97 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 0.9% ปิดที่ 5,708.75 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแดก ลดลง 1.5% ปิดที่ 17,910.35 จุด
เช่นเดียวกับตลาดหุ้นหลักๆ ในยุโรปที่ปรับตัวลดลงเช่นกัน ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส ร่วงลง 0.8% มาปิดที่ 7,574.07 จุด ดัชนี DAX ของเยอรมนี ลดลง 0.6% ปิดที่ 19,213.14 จุด ด้านดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษสวนทาง ปรับขึ้น 0.5% ปิดที่ 8,276.85 จุด โดยเป็นเพียงตลาดหลักในยุโรปแห่งเดียวที่ปิดในแดนบวก ซึ่งเป็นผลมาจากแรงหนุนของตลาดพลังงาน
 
ขณะที่ราคาน้ำมันโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้น 2.4% มาอยู่ที่ 69.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือเพิ่มขึ้น 2.6% ไปอยู่ที่ 73.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
 
ราคาทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ก็ปรับเพิ่มขึ้นราว 1% ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่อยู่ที่มากกว่า 2,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เล็กน้อย
 
ก่อนหน้านี้หุ้นยุโรปเปิดตลาดสูงขึ้น หลังจากอัตราเงินเฟ้อประจำปีของเขตยูโรชะลอตัว ขณะที่หุ้นสหรัฐปิดตลาดลดลง เนื่องจากการพุ่งขึ้นล่าสุดของตลาดหมดพลังลง ก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งน่าจะช่วยชี้ให้เห็นทิศทางของอัตราดอกเบี้ยได้มากขึ้น
ด้านบรรยากาศเศรษฐกิจสหรัฐยังย่ำแย่ลง เนื่องจากคนงานท่าเรือในสหรัฐที่ท่าเรือชายฝั่งตะวันออกและอ่าวเม็กซิโกนัดหยุดงานประท้วง ซึ่งอาจทำให้สหรัฐต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อวัน และอาจทำให้เกิดเงินภาวะเฟ้อตามมา
 
โจ แมซโซลา นักยุทธศาสตร์จาก Charles Schwab กล่าวว่า ทุกคนต่างจับตาดูความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น และการประท้วงที่ท่าเรือในสหรัฐ ขณะรอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการจ้างงานและการผลิตของสหรัฐชุดแรกในสัปดาห์นี้
ข้อมูลทางการระบุว่าอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางยุโรป (EBC) ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021

จิอานลุยจิ มันดรุซซาโต นักเศรษฐศาสตร์จาก EFG Asset Management กล่าวว่า การลดลงนี้เปิดโอกาสให้ ECB ลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในวันที่ 17 ตุลาคม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่