JJNY : 4in1 สุดทน เลื่อนเปิดสถานบันเทิง│ตลาดโลกป่วน!│EICชี้กลุ่มที่มีปัญหาทางศก.มากที่สุด│'อิสราเอล'เจอB.1.1.529รายแรก

พนักงานบริการ สุดทน เลื่อนเปิดสถานบันเทิง ชวนส่งรองเท้าไปทำเนียบ ตบหน้ารัฐบาล
https://www.khaosod.co.th/politics/news_6753132
 

 
พนักงานบริการ สุดทนรัฐ เลื่อนเปิดสถานบันเทิงไปเรื่อย รณรงค์ส่งรองเท้าไปทำเนียบ ตบหน้ารัฐบาล ตัวแทนกลุ่มป้อง น้องโอลีฟ ชี้ทุกคนต้องเอาตัวรอด

วันที่ 26 พ.ย.64 พนักงานบริการ จ.เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง ,กรุงเทพฯ, สมุทรสาคร ,อุดรธานี, มุกดาหาร ,พัทยา, ภูเก็ต, กระบี่ และ มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ ร่วมกันทำจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลเพื่อขอให้เยียวยาพนักงานบริการหลังจากรัฐบาลมีคำสั่งปิดสถานบริการ

ในจดหมายเปิดผนึกระบุว่า กลุ่มพนักงานบริการที่รวมกลุ่มกันเพื่อทำกิจกรรมสิทธิของพนักงานบริการ สมาชิกในกลุ่ม คือ คนทำงานบริการในสถานบริการ บาร์ คาราโอเกะ อะโกโก้ อาบอบนวด นวดสปา และคนทำงานในพื้นที่อิสระ รวมไปถึงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยในการทำงานและได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน ให้ได้รับสิทธิ ไม่ถูกเลือกปฏิบัติและตีตรา
 
แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ มกราคม ปี 2563 จนกระทั่งตอนนี้ เป็นเวลากว่า 23 เดือน ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศไทยทั้งธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่ต้องปิดตัวลง ลูกจ้างถูกไล่ออก เกิดภาวะตกงานทั่วประเทศ
 
อีกทั้งการบริหารจัดการแก้ไขของรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพและล่าช้า แม้ว่ารัฐบาลจะได้ออกมาตรการต่าง ๆ มาช่วยเหลือประชาชน เช่น โครงการเราไม่ทิ้งกัน เรารักกันเราชนะ คนละครึ่ง หรือเงินช่วยเหลือจากประกันสังคม ซึ่งพบว่าเงินเยียวยาไม่เพียงพอ ไม่ทั่วถึงกับแรงงานในทุก ๆ กลุ่ม เช่น พนักงานบริการที่ไม่มีประกันสังคม กลุ่มแรงงานข้ามชาติและชาติพันธ์ โครงการเยียวยาต่าง ๆ ที่รัฐมีนั้นไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา อีกทั้งยังเลือกปฏิบัติไม่ทั่วทั้งประเทศ ไม่ได้ทุกกลุ่ม
 
ในจดหมายระบุว่า ผลกระทบที่เกิดกับพนักงานบริการและครอบครัวที่ต่อเนื่องยาวนาน คือ ตกงานไม่มีรายได้ จากการถูกสั่งปิดร้าน พนักงานบริการไม่มีประกันสังคมเข้าไม่ถึงเงินว่างงาน อีกทั้งรัฐมีคำสั่งให้ปิดสถานบริการก่อนจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้เปิดแต่ไม่เยียวยา รัฐบาลไม่มีแนวทางช่วยเหลือและแก้ปัญหาอย่างชัดเจน สภาพจิตใจย่ำแย่ เครียด
 
“สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนว่าจะได้กลับไปทำงานอีกเมื่อไร ความไม่ชัดเจนของรัฐบาลสร้างผลกระทบทางจิตใจอย่างหนัก พนักงานบริการประสบปัญหาเงินเก็บหมดไป หนี้สินเพิ่มพูน ทางออกไม่มี ไม่ได้เงินเยียวยา เกิดผลกระทบหนักมากขึ้นต่อพนักงานบริการที่เป็นหลักครอบครัว เป็นแม่ หางานใหม่ไม่ได้เพราะภาคธุรกิจอื่น ๆ ก็ปิดตัวลง” จดหมายถึงรัฐบาลระบุ

ในจดหมายระบุด้วยว่าการแพร่ระบาด โควิด19 ระลอก 3 รัฐบาลมีคำสั่งให้ปิดสถานบริการ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2564 และเลื่อนเปิดสถานบริการจาก วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ออกไปเป็นวันที่ 16 มกราคม 2565 รัฐบาลมีคำสั่งเลื่อนเปิดมาแล้วถึง 4 ครั้ง เป็นระยะเวลายาวนานถึง 220 วันโดยรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาและไม่มีความชัดเจน ไม่มีการช่วยเหลือ มีแต่คำสั่งปิด และเลื่อนเวลาเปิดสถานบริการและไม่มีการช่วยเหลือพนักงานบริการ
 
เราได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาล เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 ไม่มีคำตอบ จนกระทั่งเราต้องไปเรียกร้องหน้าทำเนียบ วันที่ 29 มิถุนายน 2564 ได้รับคำตอบว่า รัฐบาลเยียวยาแล้วให้ร่วมโครงการที่รัฐบาลมี ซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่ารัฐบาลไม่ได้ฟังเสียงผลกระทบของพนักงานบริการว่าเราเข้าถึง ไม่ทั่วถึงและเพียงพอ
 
ดังนั้น พนักงานบริการยังยืนยันข้อเรียกร้องเดียว คือ ให้รัฐดำเนินการเยียวยาพนักงานบริการเนื่องจากคำสั่งปิดสถานบริการตามมาตราการของภาครัฐ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ต่อเดือน ให้กับพนักงานบริการ และคนทำงานในสถานบริการ ทุกคนจนกว่าสถานบริการจะกลับมาเปิดดำเนินกิจการได้ ทั้งนี้รวมไปถึงคนทำงานในสถานบริการที่มีการจ้างงานชั่วคราวหรือรายครั้งและครอบคลุมถึงคนทำงานที่เป็นชาติพันธุ์และแรงงานข้ามชาติ
 
“เพราะฉะนั้นในครั้งนี้เราพนักงานบริการจึงออกจดหมายเปิดผนึก โดยมีพนักงานบริการ ในสถานบริการ อาบอบนวด อะโกโก้ บาร์ คาราโอเกะ นวดสปา และพนักงานบริการอิสระออนไลน์ เรียกร้องให้รัฐบาลรับฟังเสียงเรา เพื่อทวงถามให้รัฐบาลรักษาหน้าที่ เร่งดำเนินการเยียวยาให้กับพนักงานบริการตามข้อเรียกร้องดังกล่าวโดยเร่งด่วน”
 
ไหม จันตา ผู้ประสานงานเครือข่ายพนักงานบริการ มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ กล่าวว่าพนักงานบริการจำนวนมากต้องกลับไปอยู่บ้านในต่างจังหวัด ขณะที่อีกจำนวนไม่น้อยไม่มีบ้านจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด บางคนทำงานออนไลน์ แต่ไม่มีใครอยากพูดเพราะกลัวตำรวจมักล่อซื้อ แต่สำหรับคนสูงอายุที่เคตยทำงานตามบาร์ พอปิดตัวก็ไปสมัครงานที่ไหนไม่ได้ ต้องอาศัยข้าวของหรืออาหารที่มีคนแจกมาเก็บตุนไว้เพื่ออยู่รอดไปวันๆ และพยายามใช้จ่ายให้น้อยที่สุด ทุกคนหวังว่าวันที่ 1 ธันวาคมจะได้กลับเข้าไปทำงาน แต่ก็ถูกเลื่อนออกไปอีก จนไม่มีใครเชื่อรัฐบาลอีกแล้ว
 
“เราอยากทำมากกว่าจดหมายเปิดผนึก จึงทำคลิปและชักชวนทุกคนร่วมกันส่งรองเท้าไปยังรัฐบาล เพื่อเป็นสัญลักษณ์ตบหน้า และอยากให้เห็นว่าพนักงานบริการไม่ยอมแล้ว”ไหม กล่าว
 
ไหม ยังได้แสดงความเห็นกรณีที่ น.ส.อรัญญา อภัยโส หรือ น้องโอลีฟ อายุ 23 ปี แม่ค้าขนมโตเกียวเนยกรอบ ถูกวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ตักเตือนเรื่องการแต่งกายวาบหวิว ว่าทุกคนมีสิทธิทำมาหากินและทุกคนต่างก็ต้องเอาตัวรอดในยุคปัจจุบันซึ่งการแต่งตัวในลักษณะดังกล่าวเป็นจุดขายของเขา แม้บางคนแค่มาดูและไม่ซื้อก็ตาม และในมุมมองศีลธรรมต้องก็ควรดูหลายแง่มุม
 
ทำไมพอดาราใส่โป๊ก็ยังสามารถทำมาหากินได้และไม่มีใครด่า แต่พอคนหาเช้ากินค่ำทำบ้างกลับกลับกลายเป็นประเด็นที่ถูกนำไปเชื่อมกับศีลธรรม ซึ่งเรื่องในลักษณะนี้พนักงานบริการเคยโดนมาแล้วเพราะการไม่แยกแยะ
 

 
ตลาดโลกป่วน! "โควิดกลายพันธุ์" ทุบ หุ้น-น้ำมัน-คริปโทฯ ร่วงหนัก
https://www.bangkokbiznews.com/business/974231

"โควิดกลายพันธุ์" สายพันธุ์ B.1.1.529 ทุบตลาดทั่วโลก ทั้งดัชนีหุ้น ราคาน้ำมัน คริปโทเคอร์เรนซี ร่วงหนักตามกัน ยกเว้น "ทองคำ" ซึ่งเป็นสินทรัพย์เดียวที่พุ่งแรง เพราะฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุน จนต้องหันไปหาการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยแทน

ภาวะตลาดทุนวันนี้ (26 พ.ย.) ปั่นป่วนไปทั่วโลก หลังนักวิทยาศาสตร์พบโควิดกลายพันธุ์ที่มีแนวโน้มหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ และมีชื่อสายพันธุ์ว่า B.1.1.529 ซึ่งถูกพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้
 
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนในหลายประเทศพากันตื่นตระหนก และส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษประกาศระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศของทวีปแอฟริกาเป็นการชั่วคราว ได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้
 
ขณะเดียวกัน ประเทศต่าง ๆ เริ่มหวั่นเกรงว่า โควิดกลายพันธุ์นี้อาจเป็นต้นตอการระบาดระลอกใหม่ในหลายประเทศ ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขตึงเครียด ขณะที่หลายคนเลี่ยงฉีดวัคซีน อาจเพิ่มความซับซ้อนในการเปิดเศรษฐกิจ และพรมแดนอีกครั้ง
 
• ทุบตลาดหุ้นโลก
 
ณ เวลา 18.02 น.ตามเวลาไทยวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 846 จุด หรือ -2.37% แตะที่ 34,903 จุด หลุดจากระดับ 35,000 จุด

ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเปิดซื้อขายปรับตัวลงอย่างหนักในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานการตรวจพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ที่ผู้เชี่ยวชาญเผยว่าอาจจะดื้อต่อวัคซีนในปัจจุบัน
 
ดัชนีหลัก ๆ อย่าง STOXX600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 473.99 จุด ลดลง 7.73 จุด หรือ -1.60% และลงไปถึง -2.4% ระหว่างการซื้อขายรอบเช้าวันนี้
ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดวันนี้ที่ 15,383.90 จุด ลดลง 534.08 จุด หรือ -3.36% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดตลาดวันนี้ที่ 6,814.90 จุด ลดลง 260.97 จุด หรือ -3.69%

ส่วนในเอเชีย ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 28,751.62 จุด ร่วงลง 747.66 จุด หรือ -2.53% ซึ่งเป็นระดับปิดตลาดต่ำที่สุดในรอบ 1 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา
 
ดัชนี Hang Seng ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 24,080.52 จุด ลดลง 659.64 จุด หรือ -2.67%
 
ด้านดัชนี SET ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ที่ 1,610.61 จุด ลดลง 37.85 จุด หรือ -2.30% ปรับลงต่ำที่สุดในรอบ 3 เดือน จากวันที่ 26 ส.ค. ซึ่งปิดที่ 1,601.91 จุด

• คริปโทฯ ก็ไม่รอด
 
ขณะที่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน “บิตคอยน์” เงินดิจิทัลยอดนิยมอันดับ 1 ของโลก ดิ่งลง 7.8% ในวันนี้ แตะที่ 54,377 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 20% จากระดับนิวไฮเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 69,000 ดอลลาร์เมื่อต้นเดือนนี้
ก่อนหน้านี้ บรรดากลุ่มโปรบิตคอยน์ระบุว่า คริปโทฯ สกุลนี้เปรียบเสมือน “ทองคำดิจิทัล” หรือสินทรัพย์ปลอดภัยในรูปแบบดิจิทัล คล้ายกับทองคำแท่ง
ขณะที่คริปโทฯ สกุลอื่น ๆ ก็ร่วงลงตามทิศทางของบิตคอยน์ในวันนี้ด้วยเช่นกัน อย่าง “เอเธอเรียม” คริปโทฯ ยอดนิยมอันดับ 2 ร่วงกว่า 11% แตะที่ 4,007 ดอลลาร์ ถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบสัปดาห์ ส่วน “เอ็กซ์อาร์พี” (XRP) ร่วงลง 10% มาอยู่ที่ประมาณ 95 เซ็นต์
 
นักวิเคราะห์จาก Bitbank ระบุว่า บิตคอยน์อาจปรับตัวขึ้นได้แค่เพียงในกรอบแคบ ๆ และตลาดควรเตรียมตัวรับมือกับโอกาสที่บิตคอยน์อาจจะร่วงลงอย่างหนักมากกว่าเดิม

• ราคาน้ำมันล่วงหน้าวูบตาม
 
ขณะที่ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลดลงอย่างหนักตามไปด้วย ทั้งสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือน ม.ค. 65 และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือน ม.ค. 65
 
สาเหตุหลักมาจากนักลงทุนกังวลว่าไวรัสกลายพันธุ์ตัวใหม่ อาจกระทบความต้องการใช้น้ำมัน หากหลายประเทศใช้มาตรการคุมเข้มรอบใหม่อีกครั้ง
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเบรนท์ ร่วงลง 5.3% แตะที่ 77.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ระหว่างการซื้อขายช่วงเช้าวันศุกร์ในยุโรป ขณะที่น้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ร่วงกว่า 6.2% แตะที่ 73.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
 
อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์ประเภทเดียวที่ราคาเพิ่มขึ้นในวันนี้คือ “ทองคำ” เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากขึ้นหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าในช่วงนี้
ณ เวลา 17.00 น.ตามเวลาไทย ราคาทองคำฟิวเจอร์ หรือสัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.2% แตะที่ 1,805.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
 
“ตลาดกลัวว่าไวรัสโควิดกลายพันธุ์ตัวนี้ที่พบในแอฟริกาใต้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหนักกว่าไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่พบเมื่อปีที่แล้ว และปัจจัยนี้หนุนให้ความต้องการทองคำสูงขึ้น” ปีเตอร์ เฟอร์ทิก นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย Quantitative Commodity Research (QCR) กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่