ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% นำอัตราดอกเบี้ยลงสู่อัตรา 4.25% ถึง 4.50% Dot Plot ชี้ปีหน้าลดแค่ 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% น้อยกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนหน้าที่คาดว่าจะมีการลด 4 ครั้ง พาวเวลล์ย้ำการตัดสินใจในปีหน้าขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เข้ามาใหม่ ตลาดผิดหวัง หุ้นสหรัฐร่วงทุกดัชนี
วันที่ 18 ธันวาคม 2024 เวลา 14.00 น. ตามเวลา EDT สหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 02.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม ตามเวลาประเทศไทย ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เผยผลการประชุมตัดสินใจนโยบายการเงินว่า ที่ประชุมมีมติไม่เอกฉันท์ 11 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 เบซิสพอยต์ (Basis Point) หรือ 0.25% นำอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตรา 4.50% ถึง 4.75% สู่อัตรา 4.25% ถึง 4.50% โดยมีกรรมการ 1 คนเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50% ถึง 4.75%
การลดอัตราดอกเบี้ย 25 เบซิสพอยต์ในครั้งนี้ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับลดครั้งที่ 3 ติดต่อกัน รวมในปีนี้ มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแล้ว 100 เบซิสพอยต์
แต่สิ่งที่ไม่เป็นไปตามคาดและสร้างความผิดหวังให้ตลาดคือ มีการส่งสัญญาณว่าในปีหน้าจะมีการลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาดก่อนหน้านี้
แถลงการณ์ FOMC
แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า ตัวชี้วัดล่าสุดบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราที่มั่นคง ตั้งแต่ช่วงต้นปี สภาพตลาดแรงงานโดยทั่วไปผ่อนคลายลง และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อมีพัฒนาการที่มุ่งหน้าไปสู่อัตราเป้าหมาย 2% ของคณะกรรมการ แต่ยังคงสูงอยู่บ้างเล็กน้อย
คณะกรรมการพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานสูงสุดและเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่อัตรา 2% ในระยะยาว คณะกรรมการพิจารณาเห็นว่าความเสี่ยงในการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานและความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สมดุล ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังไม่แน่นอน และคณะกรรมการให้ความสำคัญกับความเสี่ยงทั้งสองด้านของภารกิจคู่ขนาน (Dual Mandate)
เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว คณะกรรมการจึงตัดสินใจลดช่วงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางลง 0.25% เป็น 4.25% ถึง 4.50%
“ในการพิจารณาขอบเขตและระยะเวลาของการปรับช่วงเป้าหมายของอัตราผลตอบแทนของธนาคารกลางเพิ่มเติม คณะกรรมการจะประเมินข้อมูลที่เข้ามา แนวโน้มพัฒนาการ และความสมดุลของความเสี่ยง อย่างรอบคอบ คณะกรรมการจะยังคงลดการถือครองพันธบัตรกระทรวงการคลัง พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหลักทรัพย์ค้ำประกันโดยหน่วยงานรัฐต่อไป คณะกรรมการมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะสนับสนุนการจ้างงานในระดับเต็มศักยภาพ และนำอัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2%”
“ในการประเมินจุดยืนที่เหมาะสมของนโยบายการเงิน คณะกรรมการจะติดตามผลกระทบของข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่เข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการจะเตรียมพร้อมที่จะปรับจุดยืนของนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากเกิดความเสี่ยงที่อาจขัดขวางการบรรลุเป้าหมายของคณะกรรมการ การประเมินของคณะกรรมการจะพิจารณาข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงข้อมูลสภาวะตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ และพัฒนาการด้านการเงินและด้านการระหว่างประเทศ” ถ้อยแถลงของ FOMC ระบุ
Dot Plot ชี้ปีหน้าลดน้อยกว่าที่เคยคาด
รายงานการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือด็อตพล็อต (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่า ค่ากลาง (Median) ของการคาดการณ์การลดดอกเบี้ยในปี 2025 อยู่ที่ 0.50% ซึ่งหมายถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% โดยมีเจ้าหน้าที่ 5 คนจากทั้งหมด 19 คนเห็นควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.75% ขึ้นไป
การคาดการณ์ครั้งนี้คาดการณ์การลดดอกเบี้ยน้อยกว่าในการคาดการณ์ก่อนหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง
พาวเวลล์ย้ำรอดูข้อมูลในอนาคต
เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวในการแถลงผลการประชุมและตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในปี 2025 จะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เข้ามาใหม่ ไม่ใช่ข้อมูลผลลัพธ์ในปัจจุบัน
“ผมคิดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าจะไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเขียนไว้ในวันนี้ แต่เราจะตอบสนองต่อข้อมูล นั่นเป็นแค่ความรู้สึกโดยทั่วไปว่าคณะกรรมการคิดว่าอะไรน่าจะเหมาะสม” พาวเวลล์กล่าวเมื่อถูกถามถึง Dot Plot ที่บ่งชี้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปี 2025 ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง
“สำหรับการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมนั้น เราจะพิจารณาถึงความคืบหน้าเพิ่มเติมในเรื่องเงินเฟ้อ ตลอดจนความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน และตราบใดที่เศรษฐกิจและตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง เราก็สามารถระมัดระวังได้มากขึ้นในการพิจารณาลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้” ประธานเฟดกล่าว
การตอบรับของตลาด
หลังทราบผลการตัดสินใจนโยบายการเงินและคาดการณ์การลดดอกเบี้ยในปี 2025 ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ ตลาดผิดหวัง ดัชนีหุ้นสหรัฐร่วงลงทั้งดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) ดัชนีแนสแดก คอมโพสิต (Nasdaq Composite) และดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average) ซึ่งส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 10 วันติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1974
ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ส่วนราคาท่องคำร่วงลงแรง...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/world-news/news-1718746 
เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตลาดเศร้า Dot Plot ชี้ปีหน้าลดแค่ 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25%
วันที่ 18 ธันวาคม 2024 เวลา 14.00 น. ตามเวลา EDT สหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 02.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม ตามเวลาประเทศไทย ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เผยผลการประชุมตัดสินใจนโยบายการเงินว่า ที่ประชุมมีมติไม่เอกฉันท์ 11 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 เบซิสพอยต์ (Basis Point) หรือ 0.25% นำอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตรา 4.50% ถึง 4.75% สู่อัตรา 4.25% ถึง 4.50% โดยมีกรรมการ 1 คนเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50% ถึง 4.75%
การลดอัตราดอกเบี้ย 25 เบซิสพอยต์ในครั้งนี้ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับลดครั้งที่ 3 ติดต่อกัน รวมในปีนี้ มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแล้ว 100 เบซิสพอยต์
แต่สิ่งที่ไม่เป็นไปตามคาดและสร้างความผิดหวังให้ตลาดคือ มีการส่งสัญญาณว่าในปีหน้าจะมีการลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาดก่อนหน้านี้
แถลงการณ์ FOMC
แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า ตัวชี้วัดล่าสุดบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราที่มั่นคง ตั้งแต่ช่วงต้นปี สภาพตลาดแรงงานโดยทั่วไปผ่อนคลายลง และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อมีพัฒนาการที่มุ่งหน้าไปสู่อัตราเป้าหมาย 2% ของคณะกรรมการ แต่ยังคงสูงอยู่บ้างเล็กน้อย
คณะกรรมการพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานสูงสุดและเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่อัตรา 2% ในระยะยาว คณะกรรมการพิจารณาเห็นว่าความเสี่ยงในการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานและความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สมดุล ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังไม่แน่นอน และคณะกรรมการให้ความสำคัญกับความเสี่ยงทั้งสองด้านของภารกิจคู่ขนาน (Dual Mandate)
เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว คณะกรรมการจึงตัดสินใจลดช่วงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางลง 0.25% เป็น 4.25% ถึง 4.50%
“ในการพิจารณาขอบเขตและระยะเวลาของการปรับช่วงเป้าหมายของอัตราผลตอบแทนของธนาคารกลางเพิ่มเติม คณะกรรมการจะประเมินข้อมูลที่เข้ามา แนวโน้มพัฒนาการ และความสมดุลของความเสี่ยง อย่างรอบคอบ คณะกรรมการจะยังคงลดการถือครองพันธบัตรกระทรวงการคลัง พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหลักทรัพย์ค้ำประกันโดยหน่วยงานรัฐต่อไป คณะกรรมการมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะสนับสนุนการจ้างงานในระดับเต็มศักยภาพ และนำอัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2%”
“ในการประเมินจุดยืนที่เหมาะสมของนโยบายการเงิน คณะกรรมการจะติดตามผลกระทบของข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่เข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการจะเตรียมพร้อมที่จะปรับจุดยืนของนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากเกิดความเสี่ยงที่อาจขัดขวางการบรรลุเป้าหมายของคณะกรรมการ การประเมินของคณะกรรมการจะพิจารณาข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงข้อมูลสภาวะตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ และพัฒนาการด้านการเงินและด้านการระหว่างประเทศ” ถ้อยแถลงของ FOMC ระบุ
Dot Plot ชี้ปีหน้าลดน้อยกว่าที่เคยคาด
รายงานการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือด็อตพล็อต (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่า ค่ากลาง (Median) ของการคาดการณ์การลดดอกเบี้ยในปี 2025 อยู่ที่ 0.50% ซึ่งหมายถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% โดยมีเจ้าหน้าที่ 5 คนจากทั้งหมด 19 คนเห็นควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.75% ขึ้นไป
การคาดการณ์ครั้งนี้คาดการณ์การลดดอกเบี้ยน้อยกว่าในการคาดการณ์ก่อนหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง
พาวเวลล์ย้ำรอดูข้อมูลในอนาคต
เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวในการแถลงผลการประชุมและตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในปี 2025 จะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เข้ามาใหม่ ไม่ใช่ข้อมูลผลลัพธ์ในปัจจุบัน
“ผมคิดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าจะไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเขียนไว้ในวันนี้ แต่เราจะตอบสนองต่อข้อมูล นั่นเป็นแค่ความรู้สึกโดยทั่วไปว่าคณะกรรมการคิดว่าอะไรน่าจะเหมาะสม” พาวเวลล์กล่าวเมื่อถูกถามถึง Dot Plot ที่บ่งชี้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปี 2025 ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง
“สำหรับการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมนั้น เราจะพิจารณาถึงความคืบหน้าเพิ่มเติมในเรื่องเงินเฟ้อ ตลอดจนความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน และตราบใดที่เศรษฐกิจและตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง เราก็สามารถระมัดระวังได้มากขึ้นในการพิจารณาลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้” ประธานเฟดกล่าว
การตอบรับของตลาด
หลังทราบผลการตัดสินใจนโยบายการเงินและคาดการณ์การลดดอกเบี้ยในปี 2025 ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ ตลาดผิดหวัง ดัชนีหุ้นสหรัฐร่วงลงทั้งดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) ดัชนีแนสแดก คอมโพสิต (Nasdaq Composite) และดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average) ซึ่งส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 10 วันติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1974
ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ส่วนราคาท่องคำร่วงลงแรง...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/world-news/news-1718746