KAGURABACHI : 51 "ซามูระ"
[แฟลชแบลค]
- จิฮิโระ กับ ซามูระ เคยเจอกันเมื่อสมัยจิฮิโระยังเป็นเด็ก (อายุ 15 พ่อตายแล้ว)
- ซามูระ คุยกับชิบะ ว่าเขาอยากจะเห็นหน้าของลูกชายคุนิชิเกะสักครั้ง แต่ไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะซามูระตาบอด
- ชิบะจึงถามถึงสาเหตุที่ซามูระทำให้ตัวเองตาบอด ซึ่งซามูระให้คำตอบว่า
ซามูระ : เหตุผลส่วนใหญ่มาจากความเชื่อของตัวฉันเอง
ความหลงไหลในโลกใบนี้เช่นความโกรธ และความปรารถนานำพามนุษย์ไปลงนรก
สิ่งเหล่านั้นทำให้การตัดสินใจใช้ใบดาบของเราแย่ลงเพื่อกำจัดสิ่งเหล่านั้น ฉันจึงทำให้ตัวเองตาบอด
- จิฮิโระที่นั่งฟังทั้งสองคุยกันก็จำได้ว่าพ่อเคยบอกเขาไว้ ว่าซามูระคือนักดาบที่ใช้ดาบได้เร็วที่สุด
- ซามูระเดินมาหาจิฮิโระ และกล่าวกับจิฮิโระตอนที่จิฮิโระลงดาบฟันบางอย่าง ว่าจิฮิโระมีความลังเลตอนลงดาบ ให้ส่งดาบให้เขา เขาจะแสดงให้ดู
กลับมาปัจจุบัน
- พวกนักอาคมที่กำลังเข้ามาทำลายวัดที่เป็นที่หลบซ่อนของซามูระกำลังระดมกำลังต่อสู้
- บรรดาพระ ที่ใช้พลังได้พยายามปกป้องไม่ให้ศัตรูเข้าถึงตัวซามูระ และผู้ถือครองดาบอาคม
- ฮาคุริที่อยู่ในเหตุการณ์ถามอุรุฮะ ว่าได้ยินมาจากจิฮิโระว่าคุณซามูระ ตาบอด
- ฮาคุริไม่มั่นใจว่า ซามูระ จะต่อสู้ได้อย่างเก่งกาจเพราะตาที่มองไม่เห็น
- จากตอนนี้จะได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว ซามูระ เป็นอาจารย์ของ อุรุฮะ เช่นกัน แม้จะผ่านมานานขนาดนี้อุรุฮะ ก็ยองรับว่าตัวเขาไม่ได้ใกล้เคียงความเร็วของอาจารย์เขาเลย
อุรุฮะ : ด้วยทักษะของเขา จะไม่มีสักชีวิตสูญเสียที่นี่
- ตัดกลับมาที่ซามูระ ที่กำจัดศัตรูลงได้อย่างง่ายดายด้วยความเร็วที่ไม่มีผู้ตามทัน
- เมื่อศัตรูบางส่วนรู้ตัวว่า ซามูระ ตาบอดและใช้การยจับเสียงในการโจมตี พวกมันก็เริ่มตั้งหลักและถอยออกไปเปลี่ยนเป็นการโจมตีด้วยอาคมจากระยะไกลแทน
- แต่ทว่า ซามูระ ที่มีเทคนิคที่ฝึกมาอย่างชำนาญ เขาได้ยินเสียงสะท้อนจากการที่เขาโจมตีใส่ศัตรูและวาดภาพว่าศัตรูจะไปอยู่ตรงไหน
- เมื่อศัตรูถูกโจมตี ก็มีนักอาคมสองคนที่หยิบหินบางอย่างสีดำออกมาและบอกว่า ถ้าใช้สิ่งนี้ ซามูระ จะไม่มีทางโต้กลับได้
- แต่ยังไม่ทันที่มันจะได้ใช้ ก็โดนซามูระ ฟันตายหมดแล้ว
เซย์อิจิ ซามูระ
อดีตเจ้าของสัญญาดาบอาคม หนึ่งในหกเล่ม : ดาบ "โทบิมูเนะ"
เล่าเรื่อง Kagurabachi แบบย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จิฮิโระ ใช้ชีวิตฝึกฝนอยู่กับผู้เป็นพ่อที่เป็นช่างตีดาบอาคมชื่อดัง วันหนึ่งเขาหวังว่าจะได้เป็นช่างตีดาบที่เก่งกาจเหมือนกับพ่อ
พ่อเขามีนิสัยกวน ๆ กับลูกชายอย่างจิฮิโระที่มีนิสัยเอาจริงเอาจัง พวกเขาคิดว่าวันเหล่านี้จะคงอยู่ตลอดไป แต่ทันใดนั้นก็เกิดโศกนาฎกรรม วันอันมืดมนที่เปื้อนไปด้วยเลือด จิฮิโระเติบโตมาท่ามกลางรอยแค้น เขามีชีวิตอยู่เพื่อแก้แค้นใครก็ตามที่ฆ่าพ่อเขา
สรุปไทม์ไลน์คร่าว ๆ (แบบไม่ละเอียดนะคะ แนะนำให้อ่านมาก่อนหากจะเริ่มตาม)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้18 ปีก่อนสงคราม 'เซเทย์' เริ่มต้นและสิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน ดาบอาคมทั้งหกเล่มถูกสร้างขึ้นโดย คุนิชิเกะ โรคุฮิระ (พ่อพระเอก) และดาบดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการยุติสงครามนั้น โดยเฉพาะดาบเล่มที่หก "Magatsumi"
ในช่วงสงครามองค์กร "แดนเทวา" (Kamunabi) ได้ก่อตั้งขึ้น คุนิชิเกะ ได้รับความช่วยเหลือจากผู้นำแดนเทวา หลายคนในการค้นหาสถานที่เงียบสงบเพื่อซ่อนตัว คุนิชิเกะ นำดาบทั้งหกเล่มไปซ่อนไว้ในห้องใต้ดินใต้ที่ทำงานของเขา จิฮิโระ โรคุฮิระ เกิดก่อนสงครามจะสิ้นสุดลง
ช่วงประมาณ 10 ปีก่อน หลังสงครามสิ้นสุดลงไม่นาน "ตระกูลเคียวนางิ" ถูกตามล่าจนเกือบจะสูญพันธ์ุเนื่องจากข่าวลือที่ว่าถ้าเกิดกินเนื้อของคนที่อยู่ในตระกูลนี้จะสามารถเป็นอมตะได้ และดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นจริงซะด้วย เพราะตระกูลเคียวนางิ มีพลังในการรักษาตนเอง และผู้อื่น เด็กสาววัยเพียง 13 ปี เป็นคนเดียวที่สามารถหนีมาจากการล่าสังหารหมู่นั่นได้ ในเวลาต่อมา เก็นอิจิ โชโจ ถูกขึ้นแบลคลิสโดยองค์กรแดนเทวา
แปดปีก่อน ซามูระ ได้พบกับชิบะ และจิฮิโระ และสรุปได้ว่าชิบะเป็นคนช่วยคุนิชิเกะ ไว้ในเรื่องการหาที่ซ่อนตัว
สี่ปีก่อนองค์กร "อัครอัคคี" (Hishaku) ที่เป็นกลุ่มนักอาคมพิเศษชั้นยอดกลุ่มเล็ก ๆ ก่อตั้งขึ้น
สามปีก่อน จอมอาคมแห่งอัครอัคคี บุกโจมตีบ้านโรคุฮิระ ฆ่าพ่อของจิฮิโระ และขโมยดาบอาคมทั้งหกเล่มไป
จิฮิโระรอดชีวิตมาได้ด้วยดาบอาคมลับ เล่มที่เจ็ด "เอ็นเท็น" เขาสาบานว่าจะตามล้างแค้นและนำดาบทั้งหมดกลับคืนมา
ชาร์ เด็กสาวตระกูลเคียวนางิ คนเดียวที่รอดชีวิตออกมาได้ เป็นเบาะแสสำคัญในการตามหาดาบอาคม ซึ่งปัจจุบันเธออยู่ในความดูแลของจิฮิโระ
ชาร์บอกเรื่องสำคัญเกี่ยวกับดาบอาคมเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า "คุเรกุโมะ (Cloud Gouger)" ปัจจุบันครอบครองโดย เก็นอิจิ โชโจ
ภายหลังจิฮิโระสามารถจัดการกับโชโจได้สำเร็จ คุเรกุโมะ หักออกเป็นสองส่วน จิฮิโระเสียแขนขวาไป แม้ชาร์พยายามรักษาแล้ว เเต่เหมือนพลังของเธอยังไม่มากพอ
ไม่นานผู้นำของ แดนเทวา ประชุมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จิฮิโระสังหารโชโจ และเรียนรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของ จิฮิโระ กับดาบเอ็นเท็นเล่มที่เจ็ดของเขา ผลสรุปการประชุมคือให้ส่งหญิงสาว ฮิยูกิ คางาริ นักสู้ที่แช็งแกร่งไปสู้กับจิฮิโระ และนำดาบเอ็นเท็นกลับมา
จิฮิโระ ร่วมมือกับ "ฮาคุริ ซาซานามิ" เพื่อนำดาบอาคมชินอูจิ (ชื่อดาบแท้จริงคือ "มาคัตสึมิ") กลับมา ผู้นำตระกูลซาซานามิตั้งใจจะเอาดาบเล่มนี้ไปเปิดประมูลขายในอีกไม่กี่วันก่อนงานประมูลจะเริ่ม เคียวระ ผู้นำตระกูลซาซานามิ เปิดเผยว่าดาบอาคมชินอุจิอยู่ในโกดังของเขา มีการเปิดฉากต่อสู้ขึ้น เมื่อเคียวระรู้ว่า ฮาคุริ แปรพันธมิตรไปอยู่ข้างจิฮิโระ เคียวระจึงจับฮาคุริเป็นตัวประกัน จิฮิโระไม่มีทางเลือก ยอมสละเอ็นเท็นดาบของเขาเพื่อช่วยเพื่อนแทน แต่เขายังสามารถควบคุมเอ็นเท็นจากระยะไกลได้ โดยให้ข้อมูลว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เอ็นเท็น ก็เป็นดาบของเขา
เมื่อมาถึงงานประมูล ตระกูลซาซานามิตั้งค่าหัวจิฮิโระไว้มากถึง 50 ล้านเยน สถานการณ์ชิงดาบคืนวุ่นวายมาก (ขอไม่ลงละเอียดแนะนำให้ไปอ่าน) ฮาคุริ ส่งจิฮิโระไปที่โกดังเก็บของของเคียวระ จิฮิโระทำลายดาบ คุเรกุโมะ ที่ปัจจุบันมันก็อยู่ในสภาพหักอยู่แล้วเป็นครั้งสุดท้ายด้วยพลังสายฟ้าเพื่อนำเอาเอ็นเท็นของเขากลับมา ระหว่างการต่อสู้ เคียวระหยิบดาบชินอูจิ "มาคัตสึมิ" ออกมาใช้ต่อสู้ แต่ดาบดังกล่าวโจมตีจิดใจของเคียวระ เคียวระวางมาคัตสึมิลงโดยยังคงรักษาความรู้สึกของตัวเองไว้และเสียชีวิตไป ดอกไม้ที่มากับดาบมาคัตสึมิ เบ่งบานรอบศพของเคียวระ (เคียวระไม่ได้ทำสัญญาใช้ดาบโดยตรงแต่เป็นการใช้ดาบผ่านพลังวิญญาณ หรือก็คือพลังอาคมนั่นแหละ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้เป็นผู้ครอบครองดาบเล่มนี้โดยตรงแต่ใช้มันได้ผ่านตัวแปร)
หลังจบการต่อสู้ จิฮิโระเจรจากับฮิยูกิ และมอบมาคัตสึมิให้เธอกับองค์กรของเธอ เพื่อแลกกับการให้เขาเข้ารวมองค์กร แดนเทวา ซึ่งฮิยูกิเห็นด้วยและช่วยเหลือจิฮิโระต่อไป ถัดมาจิฮิโระ และฮาคุริ เดินทางมาพบ อุรุฮะ ที่สถานนีรถไฟแล้วทั้งสามคนก็พูดถึงแผนการที่จะไปยังวัดเซ็นคุทสึจิเพื่อไปพบกับซามูระ และนำดาบอีกสองเล่มกลับมาในคราวเดียวดัน จิฮิโระ เตือนอุรุฮะให้คิดถึงเรื่องของพ่อเขาไว้ ทำให้อุรุฮะรู้สึกมีพลังและเต็มใจจะช่วยต่อสู้เคียงข้างจิฮิโระ (อุรุฮะเป็นผู้ถือดาบ Kumeyuri (คุเมะยูริ) หนึ่งในหกดาบอาคม ช่วงสงคราม)
[SPOIL] KAGURABACHI : 51 "ซามูระ"
สรุปไทม์ไลน์คร่าว ๆ (แบบไม่ละเอียดนะคะ แนะนำให้อ่านมาก่อนหากจะเริ่มตาม)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้