เพียงระลึกรู้ เห็นทุกข์ เมื่อเห็นทุกข์นั้น ทุกข์นั้นก็ไม่ใช่เรา เป็นเพียงสิ่งที่ถูกเห็น และมีความดับไปเป็นธรรมดา เกิดขึ้นโดยอาศัยเหตุ บังคับไม่ได้
เมื่อเห็นความดับไป สิ่งที่อาศัยนั้นก็ย่อมดับ ละสมุทัย เพราะสิ่งหนึ่งเกิดลอยๆไม่ได้ เมื่อเหตุดับ สิ่งนั้นย่อมดับไป
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี่จึงมี เพียงระลึกรู้ ไม่ใช่การใช้ตัวตนเข้าไปบังคับกดข่มเพื่อดับตัวตน เข้าไปจัดการแทรกแซง มีความพอใจ ไม่พอใจเป็นที่ตั้ง อันนี้ไม่ได้ไม่ดี อันนี้ได้ สิ่งนี้ดี ทำมัน จัดการมันเสีย
มีแต่ทุกข์ที่เกิด มีแต่ทุกข์ที่ดับ หาแก่นสารไม่ได้ ไม่น่าปรารถนา ยิ่งดิ้นรนยิ่งทุกข์ เมื่อระลึกสังเกตุเห็น อาการความเคลื่อนความไหว ความมีตัวตน
ความพ้นการถูกชักจูงลากไปๆก็ปรากฏ
พ้นการทำ การจัดการ สังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลง ความแปรปรวนในกายนี้เท่านั้น อย่างอื่นใดรู้ไปเพื่อตัวตน ไม่ใช่ทางสลัดออก หรือสิ้นไปแห่งทุกข์ ก็เป็นเรื่องความสนุก เรื่องของตัณหา
สังเกตุเข้ามาในกายเสมอๆ ไม่ใช่ความความจำมาเพิ่มเป็นกรูรู้มากมาย แต่ไม่รู้ตัวเอง
เพียงระลึกรู้
เมื่อเห็นความดับไป สิ่งที่อาศัยนั้นก็ย่อมดับ ละสมุทัย เพราะสิ่งหนึ่งเกิดลอยๆไม่ได้ เมื่อเหตุดับ สิ่งนั้นย่อมดับไป
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี่จึงมี เพียงระลึกรู้ ไม่ใช่การใช้ตัวตนเข้าไปบังคับกดข่มเพื่อดับตัวตน เข้าไปจัดการแทรกแซง มีความพอใจ ไม่พอใจเป็นที่ตั้ง อันนี้ไม่ได้ไม่ดี อันนี้ได้ สิ่งนี้ดี ทำมัน จัดการมันเสีย
มีแต่ทุกข์ที่เกิด มีแต่ทุกข์ที่ดับ หาแก่นสารไม่ได้ ไม่น่าปรารถนา ยิ่งดิ้นรนยิ่งทุกข์ เมื่อระลึกสังเกตุเห็น อาการความเคลื่อนความไหว ความมีตัวตน
ความพ้นการถูกชักจูงลากไปๆก็ปรากฏ
พ้นการทำ การจัดการ สังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลง ความแปรปรวนในกายนี้เท่านั้น อย่างอื่นใดรู้ไปเพื่อตัวตน ไม่ใช่ทางสลัดออก หรือสิ้นไปแห่งทุกข์ ก็เป็นเรื่องความสนุก เรื่องของตัณหา
สังเกตุเข้ามาในกายเสมอๆ ไม่ใช่ความความจำมาเพิ่มเป็นกรูรู้มากมาย แต่ไม่รู้ตัวเอง