หนี้เสียพุ่งไม่หยุด ใกล้แตะ 1.2 ล้านล้าน ‘บ้าน-รถ’ ยังพีค เครดิตบูโรห่วงคุมไม่อยู่
https://www.matichon.co.th/economy/news_4801268
หนี้เสียพุ่งไม่หยุด ใกล้แตะ 1.2 ล้านล้าน ‘บ้าน-รถ’ ยังพีค เครดิตบูโรห่วงคุมไม่อยู่
เมื่อวันที่ 19 กันยายน นาย
สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยในปัจจุบัน ดูจากข้อมูลสิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 หรือ 7 เดือนที่ผ่านมาพบว่า ตัวเลขหนี้ครัวเรือนในฐานข้อมูลสถิติเครดิตบูโรเท่ากับ 13.6 ล้านล้านบาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากดูด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล พบขยับขึ้นต่อเนื่องจาก 1.16 ล้านล้านบาท เพิ่มเป็น 1.19 ล้านล้านบาท คิดเป็น 8.7% ของหนี้รวม และเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนและมีแนวโน้มไหลต่อไปถึง 1.2 ล้านล้านบาทในไม่ช้า
“
สำหรับหนี้เสีย 3 ลำดับแรก ณ เดือนกรกฎาคม ได้แก่ หนี้เสียจากสินเชื่อบ้าน อยู่ที่ 228,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% หนี้เสียจากสินเชื่อรถยนต์ 262,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% หนี้เสียจากบัตรเครดิต 69,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.0% เมื่อเทียบเดือนมิถุนายน 2567″ นายสุรพลกล่าว
นาย
สุรพลกล่าวว่า ด้าน SM หรือหนี้ที่ค้างชำระ 31-90 วัน ซึ่งเป็นหนี้ที่กำลังจะเสีย เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ปรับลดลงมาจากไตรมาสก่อนอย่างมากจนเหลือ 5 แสนล้านบาท แต่ผ่านไป 1 เดือนเข้าเดือนกรกฎาคมกลับเพิ่มเป็น 6.7 แสนล้านบาท หรือเพิ่ม 1.7 แสนล้านบาท ในนี้มาจากสินเชื่อบ้านเพิ่มจาก 1.43 แสนล้านบาท เป็น 1.69 แสนล้านบาท โตขึ้น 18% สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มจาก 8.5 หมื่นล้านบาท เป็น 1.13 แสนล้านบาทโตขึ้น 33% สินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจโดยมีลูกหนี้เป็นบุคคลธรรมดาหรือคนตัวเล็กตัวน้อยกู้ จาก 2.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป็น 4.4 หมื่นล้านบาท โตขึ้น 69% ขณะที่สินเชื่อรถยนต์, บัตรเครดิตนิ่งๆ กับลดลง
นาย
เผด็จ เผจิญศิวกรณ์ รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด กล่าวในช่วงหนึ่งบนเวทีสัมมนากรุงเทพจตุรทิศ : Property เจอหนี้ 10 ปี อสังหาฯไทยกลับไปไม่เหมือนเดิมว่า ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจไทยคนมีหนี้เพิ่มมากกว่ารายได้เพิ่ม มีหนี้ต่อครัวเรือนสูง การเติบโตของรายได้เป็นแบบเคเชฟ แต่จังหวัดมีจุดท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเร็วกว่าพื้นที่อื่น ตอนนี้สิ่งน่ากังวลคือหนี้ SM กำลังจะเป็นหนี้เสีย โดยอันดับแรกเป็น หนี้บัตรเครดิต รองลงมา บ้าน และ รถยนต์ โดยคนยอมเป็นหนี้เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่อง ยอมจ่ายดอกเบี้ยแพง เป็นปัจจัยและพฤติกรรมเปลี่ยนไป
“
ตอนนี้ภูเขาหนี้ไปกระจุกตัวที่เจนวาย มีหนี้ครบ ทั้งบุคคล รถ บ้าน บัตรเครดิต พร้อมเต็มที่ที่จะเผชิญหนี้ต่อไปในโลกอนาคต และปัญหาหนี้ก็มีแนวโน้มจะขยายไปสู่เจนเอ็กซ์ จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้การกู้ซื้อบ้านยากขึ้น ทำให้มียอดการปฏิเสธสินเชื่อ หรือรีเจ็กต์เรตสูงถึง 80% คนมีบ้าน 2-3 หลังเริ่มมีปัญหาการชำระหนี้ สะท้อนว่าคนกำลังเข้าขั้นวิกฤต และแนวโน้มหนี้ SM จะไหลเป็นหนี้เสียมากขึ้น ซึ่งปัจจัยกระทบต่ออสังหาฯ คือเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย หนี้ครัวเรือน รีเจ็กต์เรต” นาย
เผด็จกล่าว
นาย
เผด็จกล่าวว่า การแก้หนี้ครัวเรือนไม่ใช่เป็นการหว่านนโยบายออกไป และไม่มีมาตรการไหนแก้ได้เบ็ดเสร็จสมบูรณ์ ต้องมีการคิดอย่างรอบคอบ
ขอฝากนโยบายรัฐบาลชุดใหม่หาวิธีการจะทำอย่างไรให้ลูกหนี้มีรายได้ ประชาชนมีรายได้อย่างยั่งยืน ต้องย้อนไปดูจากเศรษฐกิจมหาภาค และทำให้คนมีรายได้ระยะยาว..
สภาอุตสาหกรรมภาคใต้ ไม่เห็นด้วย ขึ้นค่าแรง 400 บาท
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9421049
สภาอุตสาหกรรมภาคใต้ ไม่เห็นด้วย ขึ้นค่าแรง 400 บาท ชี้ควรขึ้นตามความเหมาะสมแต่ละพื้นที่ วันนี้ผู้ประกอบการ เจอทั้ง ไฟ น้ำมันแพง ไหนจะทุนจีนอีก
นาย
อดิศร ตันเองชวน ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ และกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) เตรียมประชุมในวันที่ 20 ก.ย. เพื่อพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ครั้งที่ 3 ในปี 2567 ตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ที่จะให้มีผลในวันที่ 1 ต.ค. นี้ โดยใช้เสียงที่ประชุม 2 ใน 3 แม้ฝ่ายนายจ้างจะไม่เข้าร่วมผ่านมติเห็นชอบ
เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคาร และภาคเอกชนอื่น ๆ ต่างไม่เห็นด้วย แต่รัฐบาลใหม่ที่เข้ามายังมีความพยายามที่จะปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทอีกครั้ง
ในนามภาคเอกชน เรายังคงยืนกรานเช่นเดิมว่าไม่เห็นด้วย เราอยากให้รัฐบาลฟังเสียงจากตัวแทนผู้ประกอบการ ตัวแทนลูกจ้าง และหน่วยงานภาครัฐ ปัจจุบันที่ประชุมกัน ลูกจ้างเองก็ไม่ได้ต้องการให้ขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ
วันนี้หากรัฐบาลจะปรับให้ได้ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท จะส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรม หรือภาคเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี จะมีเจออุปสรรคเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งทุกวันนี้มีข่าวการปิดโรงงานมากขึ้น ทุกเดือนก็มีโรงงานปิดกิจการลง
วันนี้ภาคการผลิตต้องเจอกับต้นทุนสูงรอบด้าน เช่น พลังงาน ไฟฟ้า น้ำมัน โดยเฉพาะทุกวันนี้ต้องเจอกับสินค้าจีนที่เข้ามาตีตลาดไทย ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีลำบากมาก การปรับค่าแรงเป็น 400 บาททั่วประเทศ จะกระทบธุรกิจกลุ่มเอสเอ็มอีอย่างรุนแรง ซึ่งสภาอุตสาหกรรมเป็นห่วงในเรื่องนี้
การปรับ ควรปรับขึ้นในบางอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบ อยากให้รัฐบาลไปดูอุตสาหกรรมภาคการผลิต หรืออุตสาหกรรมที่ต่อยอดจากภาคเกษตร ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่ำ ใช้แรงงานคนเป็นหลัก สภาพเศรษฐกิจและจีดีพีแต่ละจังหวัดโตไม่เท่ากัน รัฐบาลควรไปดูในจุดนี้ ว่าจังหวัดไหนปรับได้ จังหวัดไหนควรยึดตามหลักเกณฑ์ของอนุกรรมการไตรภาคีได้
ส.ส.ไอซ์ รักชนก ยัน ไม่ใช่คนในคลิป สูบบุหรี่ไฟฟ้าในสภา.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4801419
ส.ส.ไอซ์ รักชนก ยัน ไม่ใช่คนในคลิป สูบบุหรี่ไฟฟ้าในสภา
เพิ่งจบไปสำหรับอภิปรายดุเดือดเรื่องตลาดบางบอน ของ น.ส.
รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม.พรรคประชาชน โดยล่าสุดมีประเด็นอีกครั้ง
เมื่อโลกออนไลน์เผยแพร่คลิป ผู้หญิงมัดผม ขณะสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรัฐสภา อีกทั้งยังสูบทั้งที่มีป้ายเตือน โดยระบุว่า “
ส.ส.คนดีกว่าใครพรรคไหนสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรัฐสภาในที่ห้ามสูบ? #สสคนดี”
โดยส.ส.
ไอซ์ ได้ตอบกลับโพสต์ดังกล่าวว่า
“
ดูเหมือนเจ้าของโพสต์เอง ก็ไม่รู้ว่าคนในคลิปเป็นใคร แต่พยายามจะชี้นำว่าเป็น ส.ส. แล้วให้คนคิดไปเองว่าเป็นไอซ์ โดยการให้เพื่อนๆของคุณช่วยกันทวิตช่วยกันนำไปในทางนั้น ขอถามเลยละกันว่า คลิปก็ไม่ได้ถ่ายเอง ด้วยซ้ำ แล้วมั่นใจได้ไงว่าคนในคลิปเป็น ส.ส.? แล้วสส.คนดีหมายถึงใคร พูดให้ชัดเลยก็ดีค่ะ
ขอยืนยันนะคะว่า ในคลิปไม่ใช่ไอซ์ ไม่เคยดูดพอตหรือบุหรี่ และเข้าสภาก็ไม่ได้แต่งตัวแบบนี้ค่ะ ถ้าใครเห็นคลิป หรือมีการเมนชั่นว่าเป็นไอซ์อีก ฝากแก้ไขข้อมูลด้วยนะคะ
แล้วกล้าทำกล้ารับหน่อยค่ะ พยามจะทำให้คนคิดว่าเป็นไอซ์ให้ได้ แต่พอไอซ์ออกมาชี้แจงก็หาว่าร้อนตัว ขลาดแท้ ถ้าจะโจมตีกันเอางานการมาโจมตีกันดีกว่า สาดเฟคนิวส์ใส่กันแบบนี้พรรคเพื่อไทยเองก็เคยเจ็บปวดมาก่อนอย่าใช้วิธีนี้เลยค่ะ”
จากกรณีดังกล่าวหลายคนมองว่า ไม่ควรสูบบุหรี่ในอาคาร ทั้งที่มีป้ายเตือน รวมถึงให้แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐสภาตรวจกฃล้องวงจรปิด เพื่อพิสูจน์ว่าคือใครกันแน่ เช่น “ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้คุณไอซ์หาตัวคนในคลิปเลยนะ เพราะสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็ผิดกม. สูบในที่ห้ามสูบอีก ไม่ว่ามุมไหนก็ผิด,ให้ จนท.รัฐสภา ติดต่อขอหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่า จริง ไม่จริง,แค่การแต่งตัวก็ไม่ใช่ส.ส.แล้วค่ะ”
https://www.facebook.com/nanaicez112/videos/1742400886520611/
JJNY : หนี้เสียพุ่งไม่หยุด│สภาอุตฯ ใต้ ไม่เห็นด้วย│ส.ส.ไอซ์ รักชนก ยันไม่ใช่คนในคลิป│แคว้นของอิตาลีน้ำท่วมหนัก 2 ปีติด
https://www.matichon.co.th/economy/news_4801268
หนี้เสียพุ่งไม่หยุด ใกล้แตะ 1.2 ล้านล้าน ‘บ้าน-รถ’ ยังพีค เครดิตบูโรห่วงคุมไม่อยู่
เมื่อวันที่ 19 กันยายน นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยในปัจจุบัน ดูจากข้อมูลสิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 หรือ 7 เดือนที่ผ่านมาพบว่า ตัวเลขหนี้ครัวเรือนในฐานข้อมูลสถิติเครดิตบูโรเท่ากับ 13.6 ล้านล้านบาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากดูด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล พบขยับขึ้นต่อเนื่องจาก 1.16 ล้านล้านบาท เพิ่มเป็น 1.19 ล้านล้านบาท คิดเป็น 8.7% ของหนี้รวม และเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนและมีแนวโน้มไหลต่อไปถึง 1.2 ล้านล้านบาทในไม่ช้า
“สำหรับหนี้เสีย 3 ลำดับแรก ณ เดือนกรกฎาคม ได้แก่ หนี้เสียจากสินเชื่อบ้าน อยู่ที่ 228,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% หนี้เสียจากสินเชื่อรถยนต์ 262,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% หนี้เสียจากบัตรเครดิต 69,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.0% เมื่อเทียบเดือนมิถุนายน 2567″ นายสุรพลกล่าว
นายสุรพลกล่าวว่า ด้าน SM หรือหนี้ที่ค้างชำระ 31-90 วัน ซึ่งเป็นหนี้ที่กำลังจะเสีย เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ปรับลดลงมาจากไตรมาสก่อนอย่างมากจนเหลือ 5 แสนล้านบาท แต่ผ่านไป 1 เดือนเข้าเดือนกรกฎาคมกลับเพิ่มเป็น 6.7 แสนล้านบาท หรือเพิ่ม 1.7 แสนล้านบาท ในนี้มาจากสินเชื่อบ้านเพิ่มจาก 1.43 แสนล้านบาท เป็น 1.69 แสนล้านบาท โตขึ้น 18% สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มจาก 8.5 หมื่นล้านบาท เป็น 1.13 แสนล้านบาทโตขึ้น 33% สินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจโดยมีลูกหนี้เป็นบุคคลธรรมดาหรือคนตัวเล็กตัวน้อยกู้ จาก 2.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป็น 4.4 หมื่นล้านบาท โตขึ้น 69% ขณะที่สินเชื่อรถยนต์, บัตรเครดิตนิ่งๆ กับลดลง
นายเผด็จ เผจิญศิวกรณ์ รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด กล่าวในช่วงหนึ่งบนเวทีสัมมนากรุงเทพจตุรทิศ : Property เจอหนี้ 10 ปี อสังหาฯไทยกลับไปไม่เหมือนเดิมว่า ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจไทยคนมีหนี้เพิ่มมากกว่ารายได้เพิ่ม มีหนี้ต่อครัวเรือนสูง การเติบโตของรายได้เป็นแบบเคเชฟ แต่จังหวัดมีจุดท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเร็วกว่าพื้นที่อื่น ตอนนี้สิ่งน่ากังวลคือหนี้ SM กำลังจะเป็นหนี้เสีย โดยอันดับแรกเป็น หนี้บัตรเครดิต รองลงมา บ้าน และ รถยนต์ โดยคนยอมเป็นหนี้เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่อง ยอมจ่ายดอกเบี้ยแพง เป็นปัจจัยและพฤติกรรมเปลี่ยนไป
“ตอนนี้ภูเขาหนี้ไปกระจุกตัวที่เจนวาย มีหนี้ครบ ทั้งบุคคล รถ บ้าน บัตรเครดิต พร้อมเต็มที่ที่จะเผชิญหนี้ต่อไปในโลกอนาคต และปัญหาหนี้ก็มีแนวโน้มจะขยายไปสู่เจนเอ็กซ์ จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้การกู้ซื้อบ้านยากขึ้น ทำให้มียอดการปฏิเสธสินเชื่อ หรือรีเจ็กต์เรตสูงถึง 80% คนมีบ้าน 2-3 หลังเริ่มมีปัญหาการชำระหนี้ สะท้อนว่าคนกำลังเข้าขั้นวิกฤต และแนวโน้มหนี้ SM จะไหลเป็นหนี้เสียมากขึ้น ซึ่งปัจจัยกระทบต่ออสังหาฯ คือเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย หนี้ครัวเรือน รีเจ็กต์เรต” นายเผด็จกล่าว
นายเผด็จกล่าวว่า การแก้หนี้ครัวเรือนไม่ใช่เป็นการหว่านนโยบายออกไป และไม่มีมาตรการไหนแก้ได้เบ็ดเสร็จสมบูรณ์ ต้องมีการคิดอย่างรอบคอบ
ขอฝากนโยบายรัฐบาลชุดใหม่หาวิธีการจะทำอย่างไรให้ลูกหนี้มีรายได้ ประชาชนมีรายได้อย่างยั่งยืน ต้องย้อนไปดูจากเศรษฐกิจมหาภาค และทำให้คนมีรายได้ระยะยาว..
สภาอุตสาหกรรมภาคใต้ ไม่เห็นด้วย ขึ้นค่าแรง 400 บาท
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9421049
สภาอุตสาหกรรมภาคใต้ ไม่เห็นด้วย ขึ้นค่าแรง 400 บาท ชี้ควรขึ้นตามความเหมาะสมแต่ละพื้นที่ วันนี้ผู้ประกอบการ เจอทั้ง ไฟ น้ำมันแพง ไหนจะทุนจีนอีก
นายอดิศร ตันเองชวน ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ และกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) เตรียมประชุมในวันที่ 20 ก.ย. เพื่อพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ครั้งที่ 3 ในปี 2567 ตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ที่จะให้มีผลในวันที่ 1 ต.ค. นี้ โดยใช้เสียงที่ประชุม 2 ใน 3 แม้ฝ่ายนายจ้างจะไม่เข้าร่วมผ่านมติเห็นชอบ
เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคาร และภาคเอกชนอื่น ๆ ต่างไม่เห็นด้วย แต่รัฐบาลใหม่ที่เข้ามายังมีความพยายามที่จะปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทอีกครั้ง
ในนามภาคเอกชน เรายังคงยืนกรานเช่นเดิมว่าไม่เห็นด้วย เราอยากให้รัฐบาลฟังเสียงจากตัวแทนผู้ประกอบการ ตัวแทนลูกจ้าง และหน่วยงานภาครัฐ ปัจจุบันที่ประชุมกัน ลูกจ้างเองก็ไม่ได้ต้องการให้ขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ
วันนี้หากรัฐบาลจะปรับให้ได้ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท จะส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรม หรือภาคเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี จะมีเจออุปสรรคเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งทุกวันนี้มีข่าวการปิดโรงงานมากขึ้น ทุกเดือนก็มีโรงงานปิดกิจการลง
วันนี้ภาคการผลิตต้องเจอกับต้นทุนสูงรอบด้าน เช่น พลังงาน ไฟฟ้า น้ำมัน โดยเฉพาะทุกวันนี้ต้องเจอกับสินค้าจีนที่เข้ามาตีตลาดไทย ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีลำบากมาก การปรับค่าแรงเป็น 400 บาททั่วประเทศ จะกระทบธุรกิจกลุ่มเอสเอ็มอีอย่างรุนแรง ซึ่งสภาอุตสาหกรรมเป็นห่วงในเรื่องนี้
การปรับ ควรปรับขึ้นในบางอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบ อยากให้รัฐบาลไปดูอุตสาหกรรมภาคการผลิต หรืออุตสาหกรรมที่ต่อยอดจากภาคเกษตร ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่ำ ใช้แรงงานคนเป็นหลัก สภาพเศรษฐกิจและจีดีพีแต่ละจังหวัดโตไม่เท่ากัน รัฐบาลควรไปดูในจุดนี้ ว่าจังหวัดไหนปรับได้ จังหวัดไหนควรยึดตามหลักเกณฑ์ของอนุกรรมการไตรภาคีได้
ส.ส.ไอซ์ รักชนก ยัน ไม่ใช่คนในคลิป สูบบุหรี่ไฟฟ้าในสภา.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4801419
ส.ส.ไอซ์ รักชนก ยัน ไม่ใช่คนในคลิป สูบบุหรี่ไฟฟ้าในสภา
เพิ่งจบไปสำหรับอภิปรายดุเดือดเรื่องตลาดบางบอน ของ น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม.พรรคประชาชน โดยล่าสุดมีประเด็นอีกครั้ง เมื่อโลกออนไลน์เผยแพร่คลิป ผู้หญิงมัดผม ขณะสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรัฐสภา อีกทั้งยังสูบทั้งที่มีป้ายเตือน โดยระบุว่า “ส.ส.คนดีกว่าใครพรรคไหนสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรัฐสภาในที่ห้ามสูบ? #สสคนดี”
โดยส.ส.ไอซ์ ได้ตอบกลับโพสต์ดังกล่าวว่า
“ดูเหมือนเจ้าของโพสต์เอง ก็ไม่รู้ว่าคนในคลิปเป็นใคร แต่พยายามจะชี้นำว่าเป็น ส.ส. แล้วให้คนคิดไปเองว่าเป็นไอซ์ โดยการให้เพื่อนๆของคุณช่วยกันทวิตช่วยกันนำไปในทางนั้น ขอถามเลยละกันว่า คลิปก็ไม่ได้ถ่ายเอง ด้วยซ้ำ แล้วมั่นใจได้ไงว่าคนในคลิปเป็น ส.ส.? แล้วสส.คนดีหมายถึงใคร พูดให้ชัดเลยก็ดีค่ะ
ขอยืนยันนะคะว่า ในคลิปไม่ใช่ไอซ์ ไม่เคยดูดพอตหรือบุหรี่ และเข้าสภาก็ไม่ได้แต่งตัวแบบนี้ค่ะ ถ้าใครเห็นคลิป หรือมีการเมนชั่นว่าเป็นไอซ์อีก ฝากแก้ไขข้อมูลด้วยนะคะ
แล้วกล้าทำกล้ารับหน่อยค่ะ พยามจะทำให้คนคิดว่าเป็นไอซ์ให้ได้ แต่พอไอซ์ออกมาชี้แจงก็หาว่าร้อนตัว ขลาดแท้ ถ้าจะโจมตีกันเอางานการมาโจมตีกันดีกว่า สาดเฟคนิวส์ใส่กันแบบนี้พรรคเพื่อไทยเองก็เคยเจ็บปวดมาก่อนอย่าใช้วิธีนี้เลยค่ะ”
จากกรณีดังกล่าวหลายคนมองว่า ไม่ควรสูบบุหรี่ในอาคาร ทั้งที่มีป้ายเตือน รวมถึงให้แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐสภาตรวจกฃล้องวงจรปิด เพื่อพิสูจน์ว่าคือใครกันแน่ เช่น “ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้คุณไอซ์หาตัวคนในคลิปเลยนะ เพราะสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็ผิดกม. สูบในที่ห้ามสูบอีก ไม่ว่ามุมไหนก็ผิด,ให้ จนท.รัฐสภา ติดต่อขอหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่า จริง ไม่จริง,แค่การแต่งตัวก็ไม่ใช่ส.ส.แล้วค่ะ”
https://www.facebook.com/nanaicez112/videos/1742400886520611/