ขยายความจากทู้แล้วเพิ่ม
-------------------------------------------------------------------------------------
ข้อนี้ควรระวังให้ดี
การไปสอนกรรมฐานคนอื่นทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีอภิญญา
ไม่สามารถชี้สภาวะได้อย่างแม่นยำ อาจทำให้คนหลงทางได้
จะไปบอกหรือแนะนำครูบาอาจารย์องค์ใดก็ควรระวัง
เพราะบางทีอาจไม่ถูกจริตคนนั้น ทำให้เสียโอกาสเสียเวลาไปในการฝึก
ในสมัยพุทธกาลก็มีพระที่สอนกรรมฐานให้ลูกศิษย์
ให้กรรมฐานผิดกองไปลูกศิษย์จึงยังไม่บรรลุ
ต้องให้ไปเรียนกรรมฐานกับอีกองค์หนึ่งถึงสำเร็จ
สมัยนี้ก็มีสำนักต่างๆ มากมายซึ่งส่วนมากก็สอนได้เฉพาะแนวทางที่ตนเองฝีกมา
จะให้ไปแนะนำกรรมฐานกองอื่นก็คงทำไมได้
จึงเห็นคนที่ชอบปฏิบัติธรรมเที่ยวไปเสาะแสวงหาวิธีที่เหมาะกับตน บางคนไปมาหลายสำนัก
แต่ยังไม่เจอที่ถูกจริตเลยก็มี สับสนไปหมด
อาจเป็นเพราะไม่เจอครูบาอาจารย์ที่มีอภิญญาและมีบารมีมาก มีบุญสัมพันธ์ ที่สามารถสอนกรรมฐานได้หลายกองเหมือนในอดีต
ลูกศิษย์ต้องเลือกครูบาอาจารย์เอาเองซึ่งก็ไม่รู้ว่ากรรมฐานที่เลือกนั้นถูกจริตหรือไม่
ต้องลองพิสูจน์ดูเอง
เหมือนในพันทิปมีคนมาถามวิธีปฏิบัติธรรม ก็เห็นมีคนไปแนะนำตามแนวทางที่ตนเองฝึกมาหรือ
แะนำครูบาอาจารย์ที่ตนเองศรัทธา ข้อนี้ต้องระวังให้มาก อาจทำให้ผู้ถามสับสนได้
และจะให้เหมือนสมัยพุทธกาลที่มีพระใบลานเปล่าที่ตอนนั้นยังไม่มีอภิญญา
แต่สามารถสอนกรรมฐานจนพระบรรลุธรรมมากมาย สมัยนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
ถ้ามีแสดงว่าคงเก่งเหมือนพระใบลานเปล่า เป็นพระใบลานเปล่า2 ไป
และสมัยนี้ไม่มีการท่องจำคำพระศาสดาแล้วมาบอกต่อ
บรรลุธรรมจากการฟังธรรมฟังประโยคต่างๆ อีกแล้ว
ต้องอาศัยความเพียรในการปฏิบัติธรรมแทน บัวเหล่าที่ 1 ไม่มีอีกแล้ว
ส่วนมากพระที่เก่งๆ ระดับวิปัสสนาจารย์ส่วนมากจะมีอภิญญาทั้งนั้น
สามารถชี้สภาวะธรรมต่างๆ ได้
ไม่ได้บอกว่าคนที่ไม่มีอภิญญาไม่ควรสอนธรรมหรือแนะนำ
แต่ควรระวังให้มากหากตนเองไม่มีประสบการณ์
การไปแนะนำอาจส่งผลเสียก็เป็นได้
อย่ามีแต่ความหวังดีเพียงอย่างเดียว ต้องใคร่ครวญให้ดีก่อนบอกกรรมฐานใคร
ถ้าจะสอนจะแนะนำควรสอนเท่าที่ตนเองมีประสบการณ์ในกรรมฐานกองนั้นๆ ถ้าผู้ถาม ถามถึงกรรมฐานกองนั้นโดยตรง
หรือตอบหลักการคร่าวๆ ก็คงพอทำได้
คนไม่มีอภิญญาแนะกรรรมฐานสอนกรรมฐาน
-------------------------------------------------------------------------------------
ข้อนี้ควรระวังให้ดี
การไปสอนกรรมฐานคนอื่นทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีอภิญญา
ไม่สามารถชี้สภาวะได้อย่างแม่นยำ อาจทำให้คนหลงทางได้
จะไปบอกหรือแนะนำครูบาอาจารย์องค์ใดก็ควรระวัง
เพราะบางทีอาจไม่ถูกจริตคนนั้น ทำให้เสียโอกาสเสียเวลาไปในการฝึก
ในสมัยพุทธกาลก็มีพระที่สอนกรรมฐานให้ลูกศิษย์
ให้กรรมฐานผิดกองไปลูกศิษย์จึงยังไม่บรรลุ
ต้องให้ไปเรียนกรรมฐานกับอีกองค์หนึ่งถึงสำเร็จ
สมัยนี้ก็มีสำนักต่างๆ มากมายซึ่งส่วนมากก็สอนได้เฉพาะแนวทางที่ตนเองฝีกมา
จะให้ไปแนะนำกรรมฐานกองอื่นก็คงทำไมได้
จึงเห็นคนที่ชอบปฏิบัติธรรมเที่ยวไปเสาะแสวงหาวิธีที่เหมาะกับตน บางคนไปมาหลายสำนัก
แต่ยังไม่เจอที่ถูกจริตเลยก็มี สับสนไปหมด
อาจเป็นเพราะไม่เจอครูบาอาจารย์ที่มีอภิญญาและมีบารมีมาก มีบุญสัมพันธ์ ที่สามารถสอนกรรมฐานได้หลายกองเหมือนในอดีต
ลูกศิษย์ต้องเลือกครูบาอาจารย์เอาเองซึ่งก็ไม่รู้ว่ากรรมฐานที่เลือกนั้นถูกจริตหรือไม่
ต้องลองพิสูจน์ดูเอง
เหมือนในพันทิปมีคนมาถามวิธีปฏิบัติธรรม ก็เห็นมีคนไปแนะนำตามแนวทางที่ตนเองฝึกมาหรือ
แะนำครูบาอาจารย์ที่ตนเองศรัทธา ข้อนี้ต้องระวังให้มาก อาจทำให้ผู้ถามสับสนได้
และจะให้เหมือนสมัยพุทธกาลที่มีพระใบลานเปล่าที่ตอนนั้นยังไม่มีอภิญญา
แต่สามารถสอนกรรมฐานจนพระบรรลุธรรมมากมาย สมัยนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
ถ้ามีแสดงว่าคงเก่งเหมือนพระใบลานเปล่า เป็นพระใบลานเปล่า2 ไป
และสมัยนี้ไม่มีการท่องจำคำพระศาสดาแล้วมาบอกต่อ
บรรลุธรรมจากการฟังธรรมฟังประโยคต่างๆ อีกแล้ว
ต้องอาศัยความเพียรในการปฏิบัติธรรมแทน บัวเหล่าที่ 1 ไม่มีอีกแล้ว
ส่วนมากพระที่เก่งๆ ระดับวิปัสสนาจารย์ส่วนมากจะมีอภิญญาทั้งนั้น
สามารถชี้สภาวะธรรมต่างๆ ได้
ไม่ได้บอกว่าคนที่ไม่มีอภิญญาไม่ควรสอนธรรมหรือแนะนำ
แต่ควรระวังให้มากหากตนเองไม่มีประสบการณ์
การไปแนะนำอาจส่งผลเสียก็เป็นได้
อย่ามีแต่ความหวังดีเพียงอย่างเดียว ต้องใคร่ครวญให้ดีก่อนบอกกรรมฐานใคร
ถ้าจะสอนจะแนะนำควรสอนเท่าที่ตนเองมีประสบการณ์ในกรรมฐานกองนั้นๆ ถ้าผู้ถาม ถามถึงกรรมฐานกองนั้นโดยตรง
หรือตอบหลักการคร่าวๆ ก็คงพอทำได้