ควรมีพ่อแม่เมื่อพร้อม?

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้มาเล่าเรื่องที่เกิดในวัย19ย่าง20ปีให้ฟังค่ะ ท้าวความก่อนว่าตอนนี้พ่อเราจะ54ปีนี้ เป็นทหารบก แม่เราจะ46ปีนี้ ไม่ได้ทำงานตั้งแต่อายุ25(ตั้งแต่รู้ว่าท้องเรา) ท่านทั้ง2หย่ากันตั้งแต้เราอนุบาล1 จากนั้นมาแม่ก็ไม่ได้เงินแบบรายเดือน(หลักหมื่น)จากพ่อ ได้เป็นรายสัปดาห์ละ1,500บาทแทน แม่ก็เริ่มใช้ความรุนแรงสารพัดกับเรามากขึ้นทุกปีจนเราม.1ถึงหยุด(เพราะเราเริ่มหาวิธีหนีเอง) ม.1เทอม2เราย้ายไปเรียนตจว.พักอาศัยกับป้า(พี่สาวแม่) ระหว่างนั้นแม่ก็ไม่ทำงานอยู่ดี ทั้งที่ไม่ได้ติดขัดอะไร ป้าเราอายุมากกว่าแม่แกยังทำงานเลย พอเราจบม.3 เราเห็นว่าแม่สงบขึ้น จึงกลับไปอยู่ด้วย สรุแไม่ได้โดนตี แต่โดนด่าทุกๆวันแทน เราเพิ่งเริ่มได่เงินจากพ่อเพราะเปิดบช.เอง1,000/สัปดาห์ แต่แม่ก็ขอเหมือนเดิม อ้างว่าให้ช่วยออกค่ากับข้าว แต่ให่เรสกินน้อย บางสัปดาห์เรากินกับข้าวของเขาแค่2วัน นอกนั้นกินมาม่า ไม่เคยได้ไปเที่ยวแบบคนอื่น ไม่มีเงินเก็บ แต่ยังดีที่มีเพื่อนดี วีคไหนเงินเหลือน้อย เพื่อนก็จะเลี้ยงข้าว เลี้ยงขนม เรารู้สึกแย่ที่ทำไมเพื่อนต้องมาเลี้ยงเราเหมือนเราเป็นลูก แต่ก็พยายามช่วยเหลือเพื่อนในเรื่องอื่นๆ จนพอเราม.5เทอม1 เราป่วยปอดอักเสบ แม่หาว่าเราสูบบุหรี่ไฟฟ้า เราไม่เคยสูบเลยด้วยซ้ำ มีแต่ได้ควันจากเขาตั้งแต่3ปีที่แล้ว เขาก็ไม่เชื่อ ขนาดหมออธิบายก็ไม่เชื่อ รพ.ที่เรารักษาตัวก็ใช้สิทธิราชการของพ่อ อยู่ใกล้บ้านมาก แม่ก็มาเยี่ยมแค่ครั้งเดียว แม่อ้างว่าไม่มีวินให้กลับบ้าน ไม่อยากมาอีก แต่พ่อเราที่ทำงานขึ้นเหนือล่องใต้ กลับสามารถที่จะมาหาเราได้ พอหายดี ผ่านมา2เดือน แม่เราอยู่ดีๆน้ำหนักลดฮวบ นอนติดเตียง กินไรไม่ได้ เราพาแม่ส่งER หมอสรุปว่าแม่เป็นวัณโรค ต้องอยู่ห้องแยก รักษาโดยใช้สิทธิบัตรทอง แม่ไม่ให้ความร่วมมือกับหมอเลย หมอให้กินนมทดแทนอาหารแม่ก็ตีมึนไม่กิน ไม่ยอมพูดหรือบอกเหตุผลว่าทำไมไม่กิน หมอโทรตามเรา เราก็ถาม แม่บอกว่าไม่อร่อย จะอ้วก จะกินข้าว คือเรางงมาก จนหมอต้องบังคับ ถึงยอมกิน แม่บังคับ+โทรจิกให้เราไปเยี่ยมทุกวัน เราท้อมาก ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อด้วย เราเกรดไม่ดีเลย เราฝันอยากเป็นทนาย เราก็ต้องไป บางทีเพื่อนคนเดิมใจดีก็ให้เงินค่ารถไปหาแม่ แถมเราต้องซื้อแพมเพิสไปให้แม่ใส่ด้วย เราหมดเงินมาก จนต้องขอบริจาคแพมเพิสซึ่งมีคนบริจาคให้เยอะมาก เราดีใจ เราเริ่มมีความหวัง เราก็พยายามไปเยี่ยมแม่บ่อยๆ จนพอแม่ออกจากรพ. แม่ก็ด่าเราๆ ว่าเราอกตัญญูบลาๆ เราต้องอดทน สรุปแม่ทรุดเพราะเรามารู้ที่หลังว่าแม่ล้วงคอเอายาออกตลอด ไม่ก็เอายาทิ้งเวลาเราไปโรงเรียน นอนรพ.อีกตามเคย เราเลยให้ป้ามาเยี่ยมเขาบ้าง ป้าก็เอาพี่สาว(คนละพ่อ)มาด้วย พี่สาวเรารับสภาพแม่ไม่ได้ ด่าเราสารพัด ว่าเราปล่อยให้แม่เป็นแบบนี้ได้ไง เราหมดคำพูด ระหว่างนั้นเราเลยแก้เครียดด้วยการกดงานในแอพtempทำร้านตี๋น้อยกะกลางคืน สรุปเครียดกว่าเดิม55555 ก็เลยไปมูที่พระพิฆเนศห้วยขวาง ไม่รู้ว่าเกี่ยวไหม 1เดือนต่อมา แม่เดินได้ อาการดีขึ้น กินข้าวได้ปกติ และอีก1เดือนถัดมา เราเลิกกับแฟน และเจอแฟนคนปจบ.ภายใน2สัปดาห์ที่เลิกไป งงมาก เขาให้เราไปอยู่ด้วย เราเลยเลือกที่จะไปๆมาๆ จนตอนนี้คบกันมาครบ1ปีกับอีก3เดือนแล้ว และเมื่อ2สีคที่แล้ว เราเพิ่งมีเวลาไปตรวจตาขวาที่เรามองไม่ค่อยชัด หมอส่งเราไปคลีนิกนอกเวลา เราตกใจมาก เพราะต้องเสียเงิน เราเลือกที่จะโทรหาพ่อ แต่พ่อเราบอกว่าไม่มีเงิน เราเลยโทรหาแฟน แฟนเราบอกให้เข้าไปเลย เดี๋ยวเลิกงานไปจ่ายให้ ค่าหมอทึ่ต้องจ่ายวันนั้น550บาท เราพยายามปลอบใจว่าพ่อเราก็คงไม่มีจริงๆ จากนั้นแฟนก็พาเราไปกินข้าว เราเลยตัดสินใจบอกไปว่าหมอบอกว่าต้องผ่าตัดตาขวา มีค่าใช้จ่ายที่เบิกไม่ได้ประมาณ30k แฟนเราคิดไม่เกิน2นาที แล้วตอบว่าจะจ่ายให้ แต่พอเราหายดี ให้เราทำงานแล้วใช้คืน เราอึ้งมาก เรามีแผนในหัวว่าถ้าแฟนเราไม่จ่ายให้ (เพราะอะไรเขาต้องจ่ายให้)เราก็คงปล่อยให้ตาบอดไป แต่ดีใจมาก เลยต้องไปคุยกับแม่ เพื่อให้แม่ไปเป็นผปค.เซ็นอนุญาตผ่าตัดให้ 1วีคถัดมาหมอก็ผ่าตัดให้
ราคาจริงๆ33Kด้วยซ้ำ เราท้อแทน แต่แม่หรือพ่อเราก็ไม่มีใครขอบคุณแฟนเราเลย เราขอบคุณแฟนหลายริบมาก เพราะมันเป็นเงินของเขา พ่อเรามาพูดทีหลังตอน้ราโทรไปหาว่า มันเป็นหน้าที่ของพี่เขาที่ต้องช่วยเรา? เราแบบเฟลสุดที่พ่อพูดแบบนี้ ในระหว่างที่นอนพักฟื้น แฟนเราก็มาเฝ้าตั้งแต่สายๆจนเกือบ1ทุ่ม ซื้อของกินที่เรามาให้ นั่งฟังเราพูดไปเรื่อย แต่แม่ก็มาแค่วันสุดท้ายที่เรากำลังจะกลับบ้าน เราไม่ซี แม่ขอเงินพ่อเพื่อมาหาเราและก็บ่นๆว่าถ้าไม่มาหาเรา ก็กลัวเราน้อยใจ? แต่ขากลับเราก็ต้องให้เงินกลับเหมือนเดิม เป็นการทีแฟนกับแม่เรา้จอดันแบบกระทันหันมาก ถึงตอนนั้นแม่กฌยังไม่เอ่ยขิบคุณแฟนเราบ้างเลย เห็นใบเสร็จก็ทำเป็นตกใจว่าอ่อ33Kเอง และมาพูดตอนอยู่กับเราแค่คนเดียวว่าถ้าเราทำตัวดีกว่านี้ เขาจะควักเงินสดจ่ายให้เลย? เราไม่รู้ว่าแม่จะพูดแบบนี้ไปทำไมในเมื่อทั้งแม่ทั้งพ่อเรา เราเห็นเต็ม2ตาว่าไม่มีใครมีเงินในบช.เลย แฟนเราก็บอกว่าให้เราอดทน ไม่ต้องไปเชื่อแม่มาก 
ก่อนหน้านี้แม่เราก็ชอบให้เราบอกแฟนว่าให้ซื้อทอง ซื้อมอไซค์ ซื้อรถยนต์ให้หน่อย เราไม่พูดไม่บอก เพราะงงว่าทำไมแม่มาสอนเราแบบนี้ หลายๆเรื่องที่ผ่านมาในชีวิตเรา เราเพิ่งรู้ว่าแม่สอนเราแบบผิดๆมาตลอด เช่น เวลาพูดกับผู้ใหญ่ ไม่ให้จ้องหน้า แต่พอเราได้สัมภาษณ์เข้าม.4 กรรมการถามว่าทำไมเราไม่มองหน้าผู้สัมภาษณ์ เราแบบคิดในใจว่า อ้าว ต้องมองเหรอวะ แม่ชอบต่อยตาขวาเรา เพราะหน้าเราเหมือนพ่อ พูดกรอกหูเราทุกวันว่าให้เราไปทำตา ฉีดปากใหม่ แต่พอตอนนี้เราได้ผ่าตัดตาเพราะกระจกตาโดนกระแทกสะสมมานานจนมองไม่เห็น เราไม่รู้ว่าแม่จะคิดได้บ้างหรือเปล่า ลูกชายใครก็ไม่รู้ต้องมาจ่ายค่าตาให้เรา เราหวังว่าแม่จะคิดได้ //อีกเรื่องคือ เวลากินข้าวต้องใช้ช้อนส้อมที่ลายเดียวกันเท่านั้น,เวลาหยิบอะไรห้ามหยิบตรงกลาง,นิ้วเท้าต้องชิดกัน,ห้ามแต่งหน้า,ห้ามกินของแพง,ห้ามล็อคประตูห้อง,ห้ามเดินข้างหลังแม่ เพราะจะทำให้แม่ตกใจ,ห้ามทำอะไรเงียบๆและเสียงดัง?,ห้ามคุยโทรศัพท์กับเพื่อน,ต้องเอาเงินของตัวเองมาให้แที่ม่ตลอด,ต้องอาบน้ำหลังผู้ใหญ่,ห้ามแต่งตัวโทนสีดำ,ห้ามชมแม่คนอื่นต่อหน้าแม่,ห้ามพูดถึงดารา ศิลปิน นักร้อง ต่อหน้าแม่,ห้ามสอนหรือบอกแม่ ถ้าไม่รู้แกจะถามเอง,ห้ามพูดถึงพ่อในด้านที่ดี,ห้ามพูดถึงครอบครัวฝั่งป้า,ห้ามกล่าวถึงพี่สาวเราในด้านไม่ดี คือเยอะมาก แม่เราชอบและรักพี่สาวมาก แต่พี่สาวเราไม่เห็นจะสนใจแม่เลย ไม่เคยส่งเงิน ส่งข้อความหรืออะไรมาหาแม่ แต่แม่เราก็ยังรัก และเลือกทีาจะโอนเงินที่ได้จากพ่อตัวเอง(เงินฌาปณกิจ)ให้พี่เราหลักหมื่น ที่เรารู้เพราะแฟนเก่าของพี่สาวเราบอก และตัวพี่สาวเราก็บอกเราเองว่าจริง และพี่สาวเราก็เอาเงินให้ป้าใช้หนี้ เพราะป้าเป็นคนเลี้ยงเขามา 
เราสัญญากับตัวเองว่าเราจะไม่มีลูกเลย เพราะไม่อยากให้ลูกลำบากแบบเรา และเราต้องเรียนจบทำงานดีๆให้ได้ เราจะไม่ส่งต่อวงจรนรกนี้ให้ใครอีกเด็ดขาด เราสงสารตัวเองกับแฟนมากทีาต้องมาลำบากแบบนี้ 
ปล.ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ  
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่