ด่วน! เตรียมรับมือ ‘แม่นํ้าเจ้าพระยา’ เริ่มเปลี่ยนสี คาดมวลนํ้ามหาศาลภาคเหนือถึง ‘กทม.’ เย็นนี้
https://www.dailynews.co.th/news/3817475/
จากสถานการณ์น้ำภาคเหนือที่ถูกระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยขณะนี้พบว่าสีของน้ำมีลักษณะขุ่นและแดงเเข้ม คาดการณ์ว่ามวลน้ำเหนือจะมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงเย็นวันนี้
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” ได้ลงพื้นที่สำรวจระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ สะพานพุทธ ทั้งฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนคร พบว่า ระดับยังไม่เพิ่มขึ้นสูงมากเมื่อเทียบกับระดับรอยน้ำเดิมที่มีอยู่ แต่สีของน้ำในแม่น้ำ มีลักษณะขุ่น มีสีแดงเเข้มหมือนดินโคลน ซึ่งแตกต่างจากเมื่อวาน (1ก.ย.) ที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีสีปกติ ไม่มีสีแดงเข้ม
ส่วนที่บริเวณท่านิเวศน์วรดิษฐ์ เขตพระนคร ระดับน้ำยังคงมีระดับต่ำกว่าขีดเดิมอยู่พอสมควร อีกทั้ง กทม.ยังได้ทดลองตั้งกำแพงกั้นน้ำสำเร็จรูป (HYDRO FENCE) ไว้เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมหากระดับน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กทม. รายงานค่าระดับน้ำแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออกวันนี้ ( 2 ก.ย. 67 ) ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง (สายใต้) (ระดับวิกฤติ +1.80) เวลา 07:00 น. ระดับ +0.91 ม.รทก. ระดับน้ำปกติ ที่ประตูระบายน้ำแสนแสบ (มีนบุรี) (ระดับวิกฤติ +0.90) เวลา 07:00 น. ระดับ -0.08 ม.รทก. ระดับน้ำปกติ และที่ ประตูระบายน้ำลาดกระบัง (ระดับวิกฤติ +0.60) เวลา 07:00 น. ระดับ -0.25 ม.รทก. ระดับน้ำปกติ
ส่วนฐานน้ำขึ้นสูงสุดแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าสถานีกองบัญชาการกองทัพเรือวันนี้ ( 2 ก.ย. 67 ) เช้า ระดับ +0.61 ม.รทก. เวลา 05:15 น. บ่าย ระดับ +1.08 ม.รทก. เวลา 20:23 น.
สำหรับปริมาณน้ำผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ ( 2 ก.ย. 67 ) นครสวรรค์ 1,551 ลบ.ม./วินาที , เขื่อนเจ้าพระยา 1,399 ลบ.ม./วินาที,เขื่อนพระรามหก-ลบ.ม./วินาที และ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร (เฉลี่ย 1,365 ลบ.ม./วินาที)
ส.ว.นันทนา ชี้ปัญหาโครงสร้าง วางบรรทัดฐานคุณสมบัติรมต.เข้ม องค์กรอิสระอำนาจล้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_4768867
นันทนา มอง เป็นเรื่องลำบาก หลัง 11 ว่าที่ รมต.มีชนักติดหลัง ชี้ต้องลดอำนาจศาล รธน.ตัดสิทธิ์การเมือง-ยุบพรรค ล้นเกินจนเบียดบังนิติบัญญัติ-บริหาร โอดถ้าใช้จริยธรรมตัดสิน คงต้องฟูมฟักตั้งแต่เกิด
เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่รัฐสภา น.ส.
นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อดีต สว. ตั้งข้อสังเกตว่าว่าที่รัฐมนตรี 11 คน อาจมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เนื่องจากคดีติดอยู่ในองค์กรอิสระ ว่า การตรวจสอบคุณสมบัติผู้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพราะจากประสบการณ์ที่เห็น ตั้งพลาดเพียงคนเดียว อาจหมายถึงผู้ที่แต่งตั้งจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งตนเห็นว่าตรงนี้เป็นปัญหาในเชิงโครงสร้าง เพราะองค์กรอิสระมีอำนาจกว้างขวาง และอำนาจล้นเกินฝ่ายบริหาร สามารถปลดผู้นำสูงสุดของรัฐบาลได้ รวมถึงยังล้นเกินมาถึงฝ่ายนิติบัญญัติสามารถยุบพรรคการเมืองได้ ดังนั้น ทางแก้คือการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้จำกัดขอบเขตขององค์กรอิสระ เพื่อไม่ให้มีอำนาจล้นเกิน และยึดหลักการคานอำนาจระหว่างกัน การคานและถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน
ส่วนบทบัญญัติในขณะนี้ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ใช่หรือไม่ น.ส.
นันทนา ระบุว่า เป็นเรื่องที่ลำบาก เพราะความจริงแล้วเรื่องจริยธรรมเป็นการตรวจสอบบุคคลในสาขาอาชีพของตัวเอง ซึ่งโทษจะเป็นไปอย่างเหมาะสม แต่โทษผิดจริยธรรมร้ายแรงที่ถึงขั้นตัดสิทธิ์ตลอดชีวิตตามรัฐธรรมนูญ หรือเรียกว่าใบดำนั้น ตนยังสงสัยว่าได้สัดส่วนกับความผิดหรือสิ่งที่ถูกตีความว่าเป็นจริยธรรมที่ผิดพลาดไปหรือไม่ จึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรต้องหันกลับมาทบทวน โดยเฉพาะเรื่องโทษให้เป็นไปตามสัดส่วนที่เหมาะสม
เมื่อถามว่า ดีหรือไม่ที่ในครั้งนี้ จะทำให้การตรวจสอบผู้ที่มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเข้มข้นขึ้น น.ส.
นันทนา กล่าวว่า ความจริงแล้วเรื่องคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เราก็อยากได้คนที่มีประวัติที่สะอาด ซื่อสัตย์สุจริต พร้อมๆกับคุณสมบัติด้านอื่น เช่น ความรู้ความสามารถและศักยภาพด้านต่างๆ แต่ไม่ใช่การตรวจสอบภูมิหลัง แล้วนำมาเป็นดัชนีชี้วัดเพียงตัวเดียวในการขึ้นดำรงตำแหน่ง ถ้าเป็นเช่นนี้หมายความว่าคนที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งคงต้องฟูมฟักกันตั้งแต่เกิด คุณสมบัติไม่ด่างพร้อยหรือมีอะไรเสียหาย ซึ่งการวินิจฉัยแบบนี้ และบทลงโทษถือว่าไม่ได้สัดส่วน ไม่ควรย้อนพฤติกรรมในอดีตมาชี้ว่ามีพฤติกรรมผิดจริยธรรมร้ายแรง ดังนั้นควรต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมและได้สัดส่วน แต่ยอมรับว่าควรต้องมีบทบัญญัติจริยธรรม จะบอกว่าไม่สนใจเรื่องนี้ก็ไม่ได้ ไม่ควรตรวจสอบการเฉพาะเรื่องเล็กเรื่องน้อย
เมื่อถามว่าอะไรเป็นเรื่องเล็กน้อย และกรณีของนาย
พิชิต ชื่นบาน ถือว่าเล็กน้อยหรือไม่ น.ส.
นันทนา กล่าวว่า กรณีของนายพิชิตเป็นตัวอย่างหนึ่งที่หัวหน้ารัฐบาลมองว่าอาจจะไม่ร้ายแรงที่จะตั้งเข้ามาได้ หรือกรณีของนักการเมืองอีกหลายคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตด้วยเหตุการณ์ที่ทำมาในอดีต และไม่ได้สัมพันธ์กับสิ่งที่เป็นการกระทำในปัจจุบัน ตนคิดว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ได้รับโทษนั้น
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 4.80 จุด วอลุ่ม 1.8 หมื่นล้าน รับแรงกดดันกลุ่ม Energy ปรับลงตามราคาน้ำมัน
https://siamrath.co.th/n/563129
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 4.80 จุด วอลุ่ม 1.8 หมื่นล้าน พักตัวต่อเนื่อง รับแรงกดดันกลุ่ม Energy ปรับลงตามราคาน้ำมัน
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.67 SET ปิดเช้าที่ 1,354.27 จุด ลดลง 4.80 จุด (-0.35%) มูลค่าซื้อขายราว 18,828.43 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีแกว่งไซด์เวย์ในแดนลบ ทำระดับสูงสุด 1,357.98. จุด และต่ำสุด 1,352.11 จุด
นาย
กรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.กรุง ศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมาแกว่งไซด์เวย์ ในลักษณะพักตัวลงต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน แม้ว่าจะผ่านช่วงผันผวนจากการ Rebalance ดัชนี MSCI ไปแล้ว แต่ยังมีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่ม Energy จากราคาน้ำมันปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม คาดว่า SET ยังคงสร้างฐานที่ระดับ 1,350 จุดก่อนจะฟื้นตัวขึ้น โดยแนวโน้มช่วงบ่ายคาดยังแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ ให้แนวต้าน 1,365-1,373 จุด และแนวรับ 1,350 จุด แนะนำรอติดตามสภาผู้แทนราษฎรการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณราณรายจ่ายประจำปี 68 ในวาระที่ 2 และ 3 วันที่ 3-5 ก.ย.นี้
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,046.33 ล้านบาท ปิดที่ 6.15 บาท ลดลง 0.45 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 817.39 ล้านบาท ปิดที่ 141.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 766.99 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AWC มูลค่าการซื้อขาย 763.33 ล้านบาท ปิดที่ 3.30 บาท ลดลง 0.02 บาท
#หุ้นไทย #ข่าววันนี้ #ราคาน้ำมัน #งบประมาณ
JJNY : ด่วน!เตรียมรับมือ‘แม่นํ้าเจ้าพระยา’เริ่มเปลี่ยนสี│ส.ว.นันทนาชี้ปัญหาโครงสร้าง│หุ้นไทยปิดเช้าลบ│“ปูติน”กล่าวหา ตต.
https://www.dailynews.co.th/news/3817475/
จากสถานการณ์น้ำภาคเหนือที่ถูกระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยขณะนี้พบว่าสีของน้ำมีลักษณะขุ่นและแดงเเข้ม คาดการณ์ว่ามวลน้ำเหนือจะมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงเย็นวันนี้
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” ได้ลงพื้นที่สำรวจระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ สะพานพุทธ ทั้งฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนคร พบว่า ระดับยังไม่เพิ่มขึ้นสูงมากเมื่อเทียบกับระดับรอยน้ำเดิมที่มีอยู่ แต่สีของน้ำในแม่น้ำ มีลักษณะขุ่น มีสีแดงเเข้มหมือนดินโคลน ซึ่งแตกต่างจากเมื่อวาน (1ก.ย.) ที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีสีปกติ ไม่มีสีแดงเข้ม
ส่วนที่บริเวณท่านิเวศน์วรดิษฐ์ เขตพระนคร ระดับน้ำยังคงมีระดับต่ำกว่าขีดเดิมอยู่พอสมควร อีกทั้ง กทม.ยังได้ทดลองตั้งกำแพงกั้นน้ำสำเร็จรูป (HYDRO FENCE) ไว้เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมหากระดับน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กทม. รายงานค่าระดับน้ำแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออกวันนี้ ( 2 ก.ย. 67 ) ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง (สายใต้) (ระดับวิกฤติ +1.80) เวลา 07:00 น. ระดับ +0.91 ม.รทก. ระดับน้ำปกติ ที่ประตูระบายน้ำแสนแสบ (มีนบุรี) (ระดับวิกฤติ +0.90) เวลา 07:00 น. ระดับ -0.08 ม.รทก. ระดับน้ำปกติ และที่ ประตูระบายน้ำลาดกระบัง (ระดับวิกฤติ +0.60) เวลา 07:00 น. ระดับ -0.25 ม.รทก. ระดับน้ำปกติ
ส่วนฐานน้ำขึ้นสูงสุดแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าสถานีกองบัญชาการกองทัพเรือวันนี้ ( 2 ก.ย. 67 ) เช้า ระดับ +0.61 ม.รทก. เวลา 05:15 น. บ่าย ระดับ +1.08 ม.รทก. เวลา 20:23 น.
สำหรับปริมาณน้ำผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ ( 2 ก.ย. 67 ) นครสวรรค์ 1,551 ลบ.ม./วินาที , เขื่อนเจ้าพระยา 1,399 ลบ.ม./วินาที,เขื่อนพระรามหก-ลบ.ม./วินาที และ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร (เฉลี่ย 1,365 ลบ.ม./วินาที)
ส.ว.นันทนา ชี้ปัญหาโครงสร้าง วางบรรทัดฐานคุณสมบัติรมต.เข้ม องค์กรอิสระอำนาจล้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_4768867
นันทนา มอง เป็นเรื่องลำบาก หลัง 11 ว่าที่ รมต.มีชนักติดหลัง ชี้ต้องลดอำนาจศาล รธน.ตัดสิทธิ์การเมือง-ยุบพรรค ล้นเกินจนเบียดบังนิติบัญญัติ-บริหาร โอดถ้าใช้จริยธรรมตัดสิน คงต้องฟูมฟักตั้งแต่เกิด
เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อดีต สว. ตั้งข้อสังเกตว่าว่าที่รัฐมนตรี 11 คน อาจมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เนื่องจากคดีติดอยู่ในองค์กรอิสระ ว่า การตรวจสอบคุณสมบัติผู้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพราะจากประสบการณ์ที่เห็น ตั้งพลาดเพียงคนเดียว อาจหมายถึงผู้ที่แต่งตั้งจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งตนเห็นว่าตรงนี้เป็นปัญหาในเชิงโครงสร้าง เพราะองค์กรอิสระมีอำนาจกว้างขวาง และอำนาจล้นเกินฝ่ายบริหาร สามารถปลดผู้นำสูงสุดของรัฐบาลได้ รวมถึงยังล้นเกินมาถึงฝ่ายนิติบัญญัติสามารถยุบพรรคการเมืองได้ ดังนั้น ทางแก้คือการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้จำกัดขอบเขตขององค์กรอิสระ เพื่อไม่ให้มีอำนาจล้นเกิน และยึดหลักการคานอำนาจระหว่างกัน การคานและถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน
ส่วนบทบัญญัติในขณะนี้ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ใช่หรือไม่ น.ส.นันทนา ระบุว่า เป็นเรื่องที่ลำบาก เพราะความจริงแล้วเรื่องจริยธรรมเป็นการตรวจสอบบุคคลในสาขาอาชีพของตัวเอง ซึ่งโทษจะเป็นไปอย่างเหมาะสม แต่โทษผิดจริยธรรมร้ายแรงที่ถึงขั้นตัดสิทธิ์ตลอดชีวิตตามรัฐธรรมนูญ หรือเรียกว่าใบดำนั้น ตนยังสงสัยว่าได้สัดส่วนกับความผิดหรือสิ่งที่ถูกตีความว่าเป็นจริยธรรมที่ผิดพลาดไปหรือไม่ จึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรต้องหันกลับมาทบทวน โดยเฉพาะเรื่องโทษให้เป็นไปตามสัดส่วนที่เหมาะสม
เมื่อถามว่า ดีหรือไม่ที่ในครั้งนี้ จะทำให้การตรวจสอบผู้ที่มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเข้มข้นขึ้น น.ส.นันทนา กล่าวว่า ความจริงแล้วเรื่องคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เราก็อยากได้คนที่มีประวัติที่สะอาด ซื่อสัตย์สุจริต พร้อมๆกับคุณสมบัติด้านอื่น เช่น ความรู้ความสามารถและศักยภาพด้านต่างๆ แต่ไม่ใช่การตรวจสอบภูมิหลัง แล้วนำมาเป็นดัชนีชี้วัดเพียงตัวเดียวในการขึ้นดำรงตำแหน่ง ถ้าเป็นเช่นนี้หมายความว่าคนที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งคงต้องฟูมฟักกันตั้งแต่เกิด คุณสมบัติไม่ด่างพร้อยหรือมีอะไรเสียหาย ซึ่งการวินิจฉัยแบบนี้ และบทลงโทษถือว่าไม่ได้สัดส่วน ไม่ควรย้อนพฤติกรรมในอดีตมาชี้ว่ามีพฤติกรรมผิดจริยธรรมร้ายแรง ดังนั้นควรต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมและได้สัดส่วน แต่ยอมรับว่าควรต้องมีบทบัญญัติจริยธรรม จะบอกว่าไม่สนใจเรื่องนี้ก็ไม่ได้ ไม่ควรตรวจสอบการเฉพาะเรื่องเล็กเรื่องน้อย
เมื่อถามว่าอะไรเป็นเรื่องเล็กน้อย และกรณีของนายพิชิต ชื่นบาน ถือว่าเล็กน้อยหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า กรณีของนายพิชิตเป็นตัวอย่างหนึ่งที่หัวหน้ารัฐบาลมองว่าอาจจะไม่ร้ายแรงที่จะตั้งเข้ามาได้ หรือกรณีของนักการเมืองอีกหลายคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตด้วยเหตุการณ์ที่ทำมาในอดีต และไม่ได้สัมพันธ์กับสิ่งที่เป็นการกระทำในปัจจุบัน ตนคิดว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ได้รับโทษนั้น
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 4.80 จุด วอลุ่ม 1.8 หมื่นล้าน รับแรงกดดันกลุ่ม Energy ปรับลงตามราคาน้ำมัน
https://siamrath.co.th/n/563129
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 4.80 จุด วอลุ่ม 1.8 หมื่นล้าน พักตัวต่อเนื่อง รับแรงกดดันกลุ่ม Energy ปรับลงตามราคาน้ำมัน
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.67 SET ปิดเช้าที่ 1,354.27 จุด ลดลง 4.80 จุด (-0.35%) มูลค่าซื้อขายราว 18,828.43 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีแกว่งไซด์เวย์ในแดนลบ ทำระดับสูงสุด 1,357.98. จุด และต่ำสุด 1,352.11 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.กรุง ศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมาแกว่งไซด์เวย์ ในลักษณะพักตัวลงต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน แม้ว่าจะผ่านช่วงผันผวนจากการ Rebalance ดัชนี MSCI ไปแล้ว แต่ยังมีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่ม Energy จากราคาน้ำมันปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม คาดว่า SET ยังคงสร้างฐานที่ระดับ 1,350 จุดก่อนจะฟื้นตัวขึ้น โดยแนวโน้มช่วงบ่ายคาดยังแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ ให้แนวต้าน 1,365-1,373 จุด และแนวรับ 1,350 จุด แนะนำรอติดตามสภาผู้แทนราษฎรการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณราณรายจ่ายประจำปี 68 ในวาระที่ 2 และ 3 วันที่ 3-5 ก.ย.นี้
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,046.33 ล้านบาท ปิดที่ 6.15 บาท ลดลง 0.45 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 817.39 ล้านบาท ปิดที่ 141.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 766.99 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AWC มูลค่าการซื้อขาย 763.33 ล้านบาท ปิดที่ 3.30 บาท ลดลง 0.02 บาท
#หุ้นไทย #ข่าววันนี้ #ราคาน้ำมัน #งบประมาณ