สวัสดีค่า
ได้เวลามารีวิวทริปกันอีกแว้ววววค่ะ
ดรีมมีโอกาสได้ไปเที่ยวจังหวัดยะลากับนราธิวาส กับทางพันทิปและ ททท. มาค่ะ
แว๊บแรกที่รู้ว่าจะได้ไปสองจังหวัดนี้ คือ ทั้งดีใจและตื่นเต้นพร้อมๆกัน
ดรีมคือกดไลค์ที่พักที่ยะลามาก็นาน ทะเลหมอกอัยเยอร์เวงก็อยากไป
เคยว่าจะชวนพี่ที่ทำงานเก่าสาวยะลาคนงามไปเที่ยวด้วยกัน แต่ก็ไม่เคยวางแผนจริงจังสักที
แถม "กรือโป๊ะ" (ข้าวเกรียบปลา) ก็ชอบกินมานานแล้วเหมือนกัน อยากไปซื้อถึงถิ่น
พอรู้ว่าเป็นสองจังหวัดนี้ คือแบบ เห้ย….ได้ไปแล้วอ่า ดีใจมั่กๆ จะได้มีโอกาสไปเที่ยว ไปถ่ายรูปสวยๆกับสองจังหวัดนี้แล้ว เย้!!!
วันนี้จึงได้ฤกษ์มารีวิวสองจังหวัดนี้กันแล้วค่ะ ไปดูกันเลยยยยยย
ทริปนี้เราไปกัน 4 วัน 3 คืนค่ะ
เป็นวันพฤหัสที่ 1 สิงหา - วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหา
นั่งเครื่องบินของแอร์เอเชียไปลงที่สนามบินนราธิวาส
เครื่องออกประมาณ 10.30 ถึงสนามบินนราธิวาสประมาณ 12.00 (มีเลทนิดหน่อยค่ะ สัก 10 นาที)
เห็นทะเลแล้ว ฟ้าใส แดดดีมากเลย
ถึงสนามบินนราธิวาสแล้วค่ะ วู้วหู้วววว
รอรับกระเป๋ากันแป๊บนึงน้า
แล้วเราก็ออกเดินทางไปหาของอร่อยกินกันค่ะ
เราไปกินมื้อเที่ยงกันที่ร้าน “บ้านสองฤดู” เป็นร้านข้าวยำที่เป็นสูตร 120 ปี จากรุ่นสู่รุ่นกันเลยทีเดียว

และถึงแม้ว่าเราจะมาถึงร้านในช่วงที่เลยเวลามื้อเช้า (06.00-10.00) ที่เป็นเวลาสามารถสั่งข้าวยำ ได้แล้วก็ตาม
แต่ทางร้านก็ไม่ลืมที่จะเก็บเซตมื้อเช้าไว้ให้เราได้ลองลิ้มรสกันด้วยค่ะ
โดยทางร้าน มีเจ้าของร้านคนสวยและใจดีมีน้องกอไก่อยู่เคียงข้าง คุณป้ากะยะห์ (สมศรี เต็งมา)
มาต้อนรับและให้ข้อมูลอาหารต่างๆของทางร้านด้วยค่ะ
โดยในเซตนี้คร่าวๆก็จะมี
- นาซิดาแฆ
- ข้าวมันเนื้อ
- ข้าวยำ (สูตรอายุ 120ปี)
- ยำมะม่วง(มหาชนก)
- หมี่ผัด
- ปลาตาโตย่าง
- เนื้อย่างขมิ้น
- ข้าวเหนียวปลาเค็ม+มะพร้าว
- ข้าวเหนียวดำคลุกมะพร้าว + ปลาโอต้มหวานทอด
- มันต้ม มะพร้าว+น้ำตาล




นี่เห็นแค่นี้ก็ละลานตาแล้วค่ะ นี่มันไม่ใช่มื้อเช้าง่ายๆ ธรรมดาๆ ซะแล้ว
แต่เป็นมื้อ Brunch ที่อลังการ จัดเต็มมาก 555
ไม่พอค่ะ ยังไม่พอ ยังมีเซตอาหารตามสั่งมาให้พวกเรา อีกหนึ่งเซทใหญ่จุกๆด้วยค่ะ





ขอดรีมถ่ายรูปกับน้อง กอไก่ บ้างค่า
อิ่มหนำสำราญกันแล้ว เราจะเดินทางไปอำเภอเบตง ยะลากันต่อค่ะ
ระหว่างทาง เราแวะถ่ายรูปท่ามกลางบรรยากาศฝนพรำกันที่ สะพานโต๊ะกูแช ซึ่งเป็นสะพานที่ใช้ข้ามทะเลสาบป่าฮาลาบาลา กันค่ะ
ฝนพรำแล้วยังไง วิวสวยฉ่ำใจก็แล้วกัน
แล้วในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงถิ่นใต้สุดแดนสยาม ที่อำเภอเบตง ยะลากันแล้วค่ะ
โดยบริเวณนั้นก็เป็นจุดผ่านแดนไทย-มาเลเซีย ด้วย



มาถึงนี้ต้องขอถ่ายรูปกับป้ายสักหน่อย
ปกติไม่ชอบถ่ายรูปกับป้ายอะไรเลย แต่คิดว่าโอกาสจะมาเที่ยวที่นี่ไม่ได้มีบ่อยๆ ต้องแชะภาพสวยๆสักหน่อยแว้ว
ท่า Signature สิน่า Ok,Betong!
และแล้วก็ได้เวลามื้อค่ำกันแล้วค่ะ มาเบตงทั้งที
ถ้าพลาดชิมไก่เบตง ก็อาจจะพูดได้ไม่เต็มปาก ว่ามาถึงเบตงแล้ว
วันนี้เราไปจัดมื้อค่ำกันที่ร้านอาหารจีนเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 35 ปี
เป็นอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งที่มีนักท่องเที่ยวมาลองชิมกันไม่ขาดสาย เราไปกันที่ร้าน “ต้าเหยิน” ค่ะ
โดยอาหารที่เราได้ลิ้มลองก็จะมีไก่สับเบตง ซึ่งเป็นไก่ที่เลี้ยงเฉพาะถิ่นของที่นี่
อีกหนึ่งจานที่ดังไม่แพ้กัน คือ หมูสามชั้นที่ปรุงกับเครื่องยาจีนหอมๆ อย่าง “เคาหยก”
แล้วก็ยังมี ซี่โครงสวรรค์ ปลาจีนนึ่งซีอิ๊ว ถั่วเจี๋ยน เต้าหู้ทอด และผัดหมี่เบตง ค่ะ
(ดรีมซื้อเส้นหมี่เบตงมาลองทำกินเองด้วย เส้นน่ะอร่อย แต่ดรีมจะผัดอร่อยมั้ย ไม่แน่ใจเลยค่ะ

)






พออิ่มท้องแล้ว เราก็ไปเดินเล่นกันต่อแถววงเวียนหอนาฬิกา ที่มีตู้ไปรษณีย์ที่สูงและใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ
เดินสะดวก แต่ละจุดเที่ยวตรงนี้ใกล้ๆกันไปหมด

นอกจากนี้ เรายังสามารถข้ามถนน ตรงแถวหน้าร้านต้าเหยินเพื่อแวะไปถ่ายรูปกับ Street Art สวยๆ ได้เลยเหมือนกันค่ะ


ที่อุโมงค์มงคลฤทธิ์ เวลาธรรมดาเปิดให้รถวิ่งปกติทั่วไปเลยค่ะ
แต่วันที่เราไป ทางจังหวัดกำลังเตรียมจัดงานวิ่งยะลามาราธอน เลยสามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปสวยๆได้สะดวกแบบนี้เลย






ได้เวลาพักผ่อนกันแล้วค่ะ คืนนี้เรานอนกันที่โรงแรมแกรนด์วิวแลนด์มาร์ค
ห้องพักสะดวกสบาย สะอาด แถมอยู่ละแวกอุโมงค์มงคลฤทธิ์ด้วย
สถานที่แถวนี้ พออยู่ใกล้ๆกันไปหมด ดรีมรู้สึกเดินเที่ยวได้สบายเลยค่ะ ชอบมากๆ







[SR] >>> ล่องยะลา เยือนนรา(ธิวาส) โปรดเรียกชั้นว่า "เจ้าหญิงกรือโป๊ะ" ^_^ <<<
ได้เวลามารีวิวทริปกันอีกแว้ววววค่ะ
ดรีมมีโอกาสได้ไปเที่ยวจังหวัดยะลากับนราธิวาส กับทางพันทิปและ ททท. มาค่ะ
แว๊บแรกที่รู้ว่าจะได้ไปสองจังหวัดนี้ คือ ทั้งดีใจและตื่นเต้นพร้อมๆกัน
ดรีมคือกดไลค์ที่พักที่ยะลามาก็นาน ทะเลหมอกอัยเยอร์เวงก็อยากไป
เคยว่าจะชวนพี่ที่ทำงานเก่าสาวยะลาคนงามไปเที่ยวด้วยกัน แต่ก็ไม่เคยวางแผนจริงจังสักที
แถม "กรือโป๊ะ" (ข้าวเกรียบปลา) ก็ชอบกินมานานแล้วเหมือนกัน อยากไปซื้อถึงถิ่น
พอรู้ว่าเป็นสองจังหวัดนี้ คือแบบ เห้ย….ได้ไปแล้วอ่า ดีใจมั่กๆ จะได้มีโอกาสไปเที่ยว ไปถ่ายรูปสวยๆกับสองจังหวัดนี้แล้ว เย้!!!
วันนี้จึงได้ฤกษ์มารีวิวสองจังหวัดนี้กันแล้วค่ะ ไปดูกันเลยยยยยย
ทริปนี้เราไปกัน 4 วัน 3 คืนค่ะ
เป็นวันพฤหัสที่ 1 สิงหา - วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหา
นั่งเครื่องบินของแอร์เอเชียไปลงที่สนามบินนราธิวาส
เครื่องออกประมาณ 10.30 ถึงสนามบินนราธิวาสประมาณ 12.00 (มีเลทนิดหน่อยค่ะ สัก 10 นาที)
เห็นทะเลแล้ว ฟ้าใส แดดดีมากเลย
ถึงสนามบินนราธิวาสแล้วค่ะ วู้วหู้วววว
รอรับกระเป๋ากันแป๊บนึงน้า
แล้วเราก็ออกเดินทางไปหาของอร่อยกินกันค่ะ
เราไปกินมื้อเที่ยงกันที่ร้าน “บ้านสองฤดู” เป็นร้านข้าวยำที่เป็นสูตร 120 ปี จากรุ่นสู่รุ่นกันเลยทีเดียว
และถึงแม้ว่าเราจะมาถึงร้านในช่วงที่เลยเวลามื้อเช้า (06.00-10.00) ที่เป็นเวลาสามารถสั่งข้าวยำ ได้แล้วก็ตาม
แต่ทางร้านก็ไม่ลืมที่จะเก็บเซตมื้อเช้าไว้ให้เราได้ลองลิ้มรสกันด้วยค่ะ
โดยทางร้าน มีเจ้าของร้านคนสวยและใจดีมีน้องกอไก่อยู่เคียงข้าง คุณป้ากะยะห์ (สมศรี เต็งมา)
มาต้อนรับและให้ข้อมูลอาหารต่างๆของทางร้านด้วยค่ะ
โดยในเซตนี้คร่าวๆก็จะมี
- นาซิดาแฆ
- ข้าวมันเนื้อ
- ข้าวยำ (สูตรอายุ 120ปี)
- ยำมะม่วง(มหาชนก)
- หมี่ผัด
- ปลาตาโตย่าง
- เนื้อย่างขมิ้น
- ข้าวเหนียวปลาเค็ม+มะพร้าว
- ข้าวเหนียวดำคลุกมะพร้าว + ปลาโอต้มหวานทอด
- มันต้ม มะพร้าว+น้ำตาล
นี่เห็นแค่นี้ก็ละลานตาแล้วค่ะ นี่มันไม่ใช่มื้อเช้าง่ายๆ ธรรมดาๆ ซะแล้ว
แต่เป็นมื้อ Brunch ที่อลังการ จัดเต็มมาก 555
ไม่พอค่ะ ยังไม่พอ ยังมีเซตอาหารตามสั่งมาให้พวกเรา อีกหนึ่งเซทใหญ่จุกๆด้วยค่ะ
ขอดรีมถ่ายรูปกับน้อง กอไก่ บ้างค่า
อิ่มหนำสำราญกันแล้ว เราจะเดินทางไปอำเภอเบตง ยะลากันต่อค่ะ
ระหว่างทาง เราแวะถ่ายรูปท่ามกลางบรรยากาศฝนพรำกันที่ สะพานโต๊ะกูแช ซึ่งเป็นสะพานที่ใช้ข้ามทะเลสาบป่าฮาลาบาลา กันค่ะ
ฝนพรำแล้วยังไง วิวสวยฉ่ำใจก็แล้วกัน
แล้วในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงถิ่นใต้สุดแดนสยาม ที่อำเภอเบตง ยะลากันแล้วค่ะ
โดยบริเวณนั้นก็เป็นจุดผ่านแดนไทย-มาเลเซีย ด้วย
มาถึงนี้ต้องขอถ่ายรูปกับป้ายสักหน่อย
ปกติไม่ชอบถ่ายรูปกับป้ายอะไรเลย แต่คิดว่าโอกาสจะมาเที่ยวที่นี่ไม่ได้มีบ่อยๆ ต้องแชะภาพสวยๆสักหน่อยแว้ว
ท่า Signature สิน่า Ok,Betong!
และแล้วก็ได้เวลามื้อค่ำกันแล้วค่ะ มาเบตงทั้งที
ถ้าพลาดชิมไก่เบตง ก็อาจจะพูดได้ไม่เต็มปาก ว่ามาถึงเบตงแล้ว
วันนี้เราไปจัดมื้อค่ำกันที่ร้านอาหารจีนเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 35 ปี
เป็นอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งที่มีนักท่องเที่ยวมาลองชิมกันไม่ขาดสาย เราไปกันที่ร้าน “ต้าเหยิน” ค่ะ
โดยอาหารที่เราได้ลิ้มลองก็จะมีไก่สับเบตง ซึ่งเป็นไก่ที่เลี้ยงเฉพาะถิ่นของที่นี่
อีกหนึ่งจานที่ดังไม่แพ้กัน คือ หมูสามชั้นที่ปรุงกับเครื่องยาจีนหอมๆ อย่าง “เคาหยก”
แล้วก็ยังมี ซี่โครงสวรรค์ ปลาจีนนึ่งซีอิ๊ว ถั่วเจี๋ยน เต้าหู้ทอด และผัดหมี่เบตง ค่ะ
(ดรีมซื้อเส้นหมี่เบตงมาลองทำกินเองด้วย เส้นน่ะอร่อย แต่ดรีมจะผัดอร่อยมั้ย ไม่แน่ใจเลยค่ะ
พออิ่มท้องแล้ว เราก็ไปเดินเล่นกันต่อแถววงเวียนหอนาฬิกา ที่มีตู้ไปรษณีย์ที่สูงและใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ
เดินสะดวก แต่ละจุดเที่ยวตรงนี้ใกล้ๆกันไปหมด
นอกจากนี้ เรายังสามารถข้ามถนน ตรงแถวหน้าร้านต้าเหยินเพื่อแวะไปถ่ายรูปกับ Street Art สวยๆ ได้เลยเหมือนกันค่ะ
ที่อุโมงค์มงคลฤทธิ์ เวลาธรรมดาเปิดให้รถวิ่งปกติทั่วไปเลยค่ะ
แต่วันที่เราไป ทางจังหวัดกำลังเตรียมจัดงานวิ่งยะลามาราธอน เลยสามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปสวยๆได้สะดวกแบบนี้เลย
ได้เวลาพักผ่อนกันแล้วค่ะ คืนนี้เรานอนกันที่โรงแรมแกรนด์วิวแลนด์มาร์ค
ห้องพักสะดวกสบาย สะอาด แถมอยู่ละแวกอุโมงค์มงคลฤทธิ์ด้วย
สถานที่แถวนี้ พออยู่ใกล้ๆกันไปหมด ดรีมรู้สึกเดินเที่ยวได้สบายเลยค่ะ ชอบมากๆ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น