อยากสอบถามคิดเห็นอย่างไรกับการเดินออกมาจากครอบครัวคะ ด้วยความที่เป็นลูกคนโต จะถูกสอนให้ยอมน้องเสมอ แล้วตั้งแต่เล็กจนโตเจอแต่ปัญหาพ่อแม่ทะเลาะกันแล้วมาลงที่เรา เดิมพ่อก็เกลียดเราอยู่แล้ว แต่เราจะเป็นคนที่อยู่กับแม่เลยโดนอารมณ์นั้นเสมอ อะไรต้องให้น้องเลือกก่อนได้กินก่อน โตมาเราดิ้นรนเทอมสุดท้ายเองเพราะที่บ้านประสบปัญหาการเงิน ส่วนน้องเลือกที่จะไม่เรียนต่อมหาลัย พอน้องไม่อยากทำงาน เลิกกับแฟน ก็ไปด่าแม่ว่าครอบครังไม่มีอะไรให้ทำให้ชีวิตน้องเป็นแบบนี้ ส่วนเราเราพยายามไม่สร้างปัญหา แต่ข้อเสียคือความรักที่เราไม่เคยได้รับจากครอบครัว พอมีแฟน ผิดหวังก็จะหนัก แม่เราจะพูดะสมอไม่อยากให้เรรมีแฟนต้องอยู่กับแม่ต้องดูแลน้อง อย่าทิ้งน้อง ซึ่งเราเป็นทอมห่างกับน้อง4ปี เราเลยถามแม่กลับว่าถ้าวันนี้เรามีสามีมีลูกมีครอบครัว เรายังต้องมารับผิดชอบชีวิตน้องชายที่อายุ30อยู่มั้ย น้องเราไม่ทำงานเป็นหลักแหล่ง แต่กลับขับรถส่งของเป็นจ๊อบได้วันล่ะไม่กี่ร้อย แม่ต้องช่วยเดือนละเกือบหมื่น เวลาที่เรามีแฟนที่บ้านจะไม่โอเค เพราะจะไม่ได้ช่วยน้อง น้องเรากู้ซื่อบ้าน รถ และลาออกจากงานประจำทันที การซื้อทุกอย่าง ไม่เคยถามความเห็นเรา รถจะขอใช้แต่ละทีก็มีข้ออ้าง จนวันนี้แม่เราเป็นมะเร็งรังไข่ระยะสุดทัาย เรากลับถูกมองว่าเป็นลูกเนรคุณ เพราะไม่มีเวลาไปดูท่าน เราทำงานประจำตกเย็นต้องพาแฟนไปทำงานอีก ภาระเราสองคนไม่มีใครช่วยเหลือเลย มีแต่ต่อว่าเราตลอด แต่กลับน้องไม่ได้ทำงานประจำ มีครอบครัวช่วยเหลือซึ่งป้าก็ช่วยเป็นแสนแล้ว มาวันนี้แม่ต้องกลับไปรักษาตัวที่ตจว.น้องเราต้องไปด้วย แม่ก็ยังจะให้เรากลับไปเฝ้าบ้าน อยู่กับหมากับแมว พูดเหมือนเราตัวคนเดียว ภาระไม่มี เราเหนื่อยมากกับความคิดหรือวัฒนธรรมที่ปลูกฝังของครอบครัวเรา ครั้งนึงเราให้เงินแม่ทุกเดือน แล้วมีเงินโบนัส แต่เราบอกปม่แลัวว่าเงินโบนัสรอบนี้เรามีเรื่องต้องใช้เงิน แม่ก็ทวงเรา ไม่พอใจ ไปพูดให้ป้าฟัง ป้าโทมาต่อว่าเรา ว่าเราเป็นลูกไม่มีสิทธิ์คิดหรือรู้สึกอะไรทั้งนั้น ถ้าวันนร้เราจะนิ่งบ้างในวันที่แม่ป่วยหนัก เราจะต้องเลือกทางเดินชีวิตเราบ้างเราจะผิดมากมั้ย เราเจ็บกับแม่มามาก เงินทุกบาทไม่ว่าจะเงินโอนที่ หรือทองที่หามาเปลี่ยนให้ใส่เค้าเอาให้น้องหมด แต่วันนี้เรากลับถูกมองว่าเนรคุณ
คิดอย่างไรกับการเดินออกมาจากครอบครัว?