ผู้ใหญ่รสขม ความรับผิดชอบ นิสัยเห็นแก่ตัว อนาคตที่ยังไม่ได้เลือก

กระทู้สนทนา
ถ้าแทกห้องผิดยังไงเราขอโทษด้วยนะคะ 

สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราโตขึ้นจาก 2 กระทู้ที่เคยตั้งเยอะแล้ว ถึงจะบอกว่าโต แต่สิ่งที่ขยับขึ้นก็เป็นแค่ตัวเลข
หลาย ๆ อย่างเรายังเด็กอยู่ รวมถึงสิ่งที่เรากำลังจะถามทุกคนต่อไปนี้ด้วย

ก่อนที่เราจะถามความคิดเห็นทุกคนกับสิ่งที่เราเจอ และเพื่อไม่ให้เรื่องเทน้ำหนักมาที่เรามากเกินไป
เราจะขอเล่าย้อนเรื่องคร่าว ๆ ก่อน 

เราเคยเป็นพนักงานออฟฟิศมาก่อน ตอนนั้นทำอยู่เกือบปี งานหนักมาก แบกงานกลับมาทำที่บ้าน บ่อยครั้งอยู่จนดึก และข้ามไปอีกวัน 
ด้วยงานที่ทำในตอนนั้น เราหาสมดุลชีวิตไม่เจอจริง ๆ ในหัวมีแต่เรื่องจะลาออก
ก็เลยไปเล่าให้แม่ฟัง ตอนนั้นท่านน่าจะกังวลมาก ๆ แต่ก็บอกเราเสมอว่าเล่าได้ 
จนถึงปีนี้ เราไม่ไหวกับการทำงานจริง ๆ ก็เลยขอแม่ลาออก แล้วขอให้ท่านลงทุนร้านเล็ก ๆ ให้เรา  

เรื่องมีอยู่ว่าร้านที่เปิดรายได้มันพอดีกับค่าใช้จ่ายรวมถึงค่ากินในแต่ละเดือน
อาจจะพอเหลือเก็บบ้างแต่ก็ยังไม่มากพอให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
(เพราะในธุรกิจเราสามารถมีสิ่งที่ต้องจ่ายเกิดขึ้นได้เสมอ จ่ายเยอะ แถมอาชีพยังไม่มั่นคง)
เราก็เลยวางแผนว่าถ้าวางระบบร้านสำเร็จ ปีหน้า 2025 เราจะกลับไปหางานทำ

แต่ก็ต้องพับโครงการไว้ก่อน เพราะเมื่อ 2 เดือนที่แล้วแม่ตรวจเจอมะเร็ง 
เราลูกสาวคนเดียวที่ยังไม่ได้ปักหลักมีครอบครัวแบบพี่ ๆ ต้องกลับมาดูแลแม่ที่บ้าน 
ช่วงแรก ๆ ที่เห็นแม่ป่วยเราทรมานมากทุกครั้งที่เห็นท่านเจ็บ
พอหลัง ๆ เห็นท่านดีขึ้นเราก็เลยเริ่มสะบายใจ 
บวกกับเพื่อนเราแชร์ว่ามีญาติเป็นมะเร็งรักษา 4 - 5 ปีก็หาย
พอได้ฟังก็ยิ่งมีกำลังใจว่าแม่เองก็จะหายอย่างแน่นอน 

พอแม่อาการดีขึ้น เราก็กลับมาคิดถึงอนาคตตัวเองอีกครั้ง ถ้าเราดูแลแม่อยู่ที่นี่ไปเรื่อย ๆ จนอายุเราเกินกว่าที่จะกลับไปทำงานได้
อนาคตของเราจะเป็นยังไง ในวันที่ลำบากก็น่าจะไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเพราะคนอื่นก็มีครอบครัวของตัเอง มีคนที่ต้องดูแล
ถึงตอนนั้นก็มีแต่ต้องพึ่งพาตัวเอง

เราก็เลยชวนแม่ไปรักษาที่กรุงเทพ แต่ท่านก็ไม่อยากไป ตรงนี้เเราเข้าใจท่านว่าทำไมไม่อยากไป
เพราะถ้าเราผ่านความตายหรือเฉียดตายมาก่อน สถานที่ที่เราอยากใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่ให้มากที่สุดก็คือ 'บ้าน'
อีกอย่างคือกรุงเทพฝุ่นเยอะ ไปอยู่โน่นอาจจะได้มะเร็งปอดกลับมาด้วยก็ได้ ถ้าท่านเป็นมะเร็งปอดเพิ่มเราก็คงกลับไปโทษตัวเองอกรอบ

ในขณะเดียวกัน ตัวเราเองก็อยากไปสร้างอนาคตของตัวเอง ถ้าจะเปิดร้านเล็ก ๆ ที่นี่
เราคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเปิดร้านอะไรเพราะที่นี่คนน้อยมาก โอกาสในงานก็น้อย

อีกด้าน เราคิดไปถึงว่านี่อาจจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เราจะได้ใช้ไปกับแม่ให้นานที่สุด และเป็นความทรงจำที่ดีสุดก่อนท่านจากไป
แต่เราก็ยังหยุดคิดถึงอนาคตในวันที่ไม่มีท่านไม่ได้ เพราะถ้าวันนั้นมาถึง อนาคตของเรา รวมถึงภาระต่าง ๆ ที่จะโถมเข้ามา
เรากลัวว่าจะแบกรับมันเอาไว้ไม่ไหว

มันคงเหมือนตื่นจากฝันแล้วมาเจอความจริงว่าแกต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้
ถึงวันนั้นเราจะอายุเยอะขึ้นและมีแรงน้อยลงก็ตาม
รวมถึงโอกาสในงานที่น้อยลงด้วย

ก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ เราจะเอายังไงกับชีวิตต่อจากนี้ดีค่ะ ถ้าเราเลือกกลับกรุงเทพแบบเห็นแก่ตัวเราเอง เราจะมีความสุขกับสิ่งที่เลือกจริง ๆ ไหม และมีอนาคตที่ดีกว่าเดิมจริงรึเปล่า 

สิ่งที่เรารู้อย่างเดียวคือการอยู่ที่นี่เป็นการหยุดอยู่กับที่ เพื่อแลกกับช่วงเวลาที่จะได้ใช้กับแม่

เรารู้ดีค่ะว่าคนที่ต้องเลือกก็คือตัวเราเอง
แต่ก็ยังอยากถามความคิดเห็นของหลาย ๆ คน รวมไปถึงคนที่เจอสถานการณ์คล้าย ๆ กัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่