JJNY : 5in1 ผู้เชี่ยวชาญ UN ผิดหวัง│พรรคปชช.แจงยิบ ทำตามกม.│ชามก๋าไก่ คนจีนทำมาก่อน│ทุนจีนเหมารถตู้│โลกบันทึกก.ค.ร้อนสุด

ผู้เชี่ยวชาญ UN ผิดหวัง ใช้ ม.112 เป็นเครื่องมือทางการเมืองยุบพรรคก้าวไกล
https://thestandard.co/un-experts-disappointed-section-112/
 
 
เว็บไซต์สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) เผยแพร่แถลงการณ์โดยคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ แสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยชี้ว่าเป็นการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการยุบพรรคที่ได้ที่นั่ง สส. มากที่สุดในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว เพื่อขับไล่สมาชิกรัฐสภาของพรรคดังกล่าวออกจากการเมือง
 
สำหรับคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระของ OHCHR ผู้เผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าว ได้แก่ ไอรีน ข่าน ผู้รายงานพิเศษด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก และ จีนา โรเมโร ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและการสมาคม ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพิเศษ (Special Procedures) อันเป็นกลไกติดตามสอดส่องและรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน
 
ผู้เชี่ยวชาญอิสระของ OHCHR ยังระบุว่า การเสนอการปฏิรูปกฎหมายและการโต้วาทีในประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตยและสิทธิของประชาชนในการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของสาธารณะ
 
ไม่มีพรรคการเมืองใดควรถูกยุบ และสมาชิกพรรคก็ไม่ควรถูกห้ามจากการเมืองเพียงเพราะใช้บทบาทอันชอบธรรมในสังคม
 
แถลงการณ์ยังระบุว่า “ข้อเสนอของพรรคก้าวไกลในการปฏิรูปมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญาจะทำให้ประเทศไทยปฏิบัติตามพันธกรณีสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ศาลรัฐธรรมนูญดูเหมือนจะสร้างบรรทัดฐานอันเลวร้ายในการลงโทษสมาชิกรัฐสภาที่พยายามยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศ
 
ผู้เชี่ยวชาญของ OHCHR มองว่า การอภิปรายทางการเมือง แม้กระทั่งในหัวข้อที่ละเอียดอ่อน ก็เปรียบเสมือนออกซิเจนของสังคมประชาธิปไตย และไม่ควรนำมาผสมกับความรุนแรงหรือการก่อกบฏ 
 
เราเรียกร้องให้รัฐบาลไทยทบทวนกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่ทางการเมืองยังคงมีความหลากหลายและเปิดกว้างสำหรับการอภิปรายในประเด็นต่างๆ ที่เป็นผลประโยชน์สาธารณะ” ผู้เชี่ยวชาญของ OHCHR กล่าว พร้อมระบุว่ากำลังติดต่อกับรัฐบาลไทยเกี่ยวกับประเด็นนี้
 
อ้างอิง:
https://www.ohchr.org/en/press-releases/2024/08/thailand-un-experts-seriously-concerned-about-dissolution-main-political
 

 
พรรคปชช. แจงยิบสาขา-บัญชีรับบริจาค ทำตามกฎหมาย หลังไทยภักดียื่นตรวจสอบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4734409

ศรายุทธิ์ แจงพรรคประชาชน ตั้งสาขาครบ 4 ภาคตามกฎหมาย หากมีไม่ครบ กกต.คงไม่ปล่อยให้พรรคถิ่นกาขาวฯ อยู่มาได้นานกว่า 10 ปี ส่วนบัญชีรับเงินบริจาคก็ต่อเนื่องมาจากบัญชีพรรคเดิม และยึดแนวทางเปิดรับบริจาคออนไลน์ของ กกต.ทุกประการ

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่มีบุคคลและพรรคการเมืองไปยื่นคำร้องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตรวจสอบพรรคประชาชนว่ามีการตั้งสาขาพรรคและการเปิดบัญชีรับเงินบริจาคที่ถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมายหรือไม่ โดยชี้แจงว่า ในประเด็นเรื่องการตั้งสาขาพรรค ตามกฎหมายกำหนดว่าจะต้องตั้งให้ครบทั้ง 4 ภาคภายใน 1 ปี ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ติดตามการมีอยู่ของสาขาพรรคแต่ละพรรคโดยตลอด

หากพรรคใดมีปัญหาสาขาพรรคไม่ครบถ้วน หรือมีการเปลี่ยนแปลง จะต้องมีหนังสือแจ้งเตือนจากนายทะเบียนพรรคการเมืองขอให้ดำเนินการให้ครบถ้วนตามกฎหมาย กรณีนี้จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่สำนักงาน กกต.จะปล่อยประเด็นนี้ให้หลุดไปได้ การที่พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ซึ่งเป็นชื่อเดิมของพรรคประชาชน ดำรงความเป็นพรรคมานานกว่า 10 ปี ก็เป็นเครื่องการันตีอยู่แล้วว่าการจัดตั้งสาขาพรรคไม่มีปัญหา

ส่วนเรื่องสถานที่ตั้งสาขา นายศรายุทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่กฎหมายระบุว่าต้องมีที่ตั้ง แต่อาจเป็นอาคารที่ไปขอเช่า หรือบ้านกรรมการสาขาก็ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเปิดทำการทุกวัน หากแต่เป็นสถานที่ที่กำหนดไว้เพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารกับสำนักงาน กกต. อีกทั้งการจัดกิจกรรมของสาขาพรรค ไม่จำเป็นต้องทำที่ทำการสาขาพรรคเท่านั้น

ส่วนการไปถาม กกต.จังหวัดว่ามีสาขาพรรคประชาชนมาตั้งหรือไม่นั้น เป็นคำถามที่ผิด ต้องถามว่ามีพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลมาตั้งสาขาหรือไม่ เพราะพรรคเพิ่งเปลี่ยนชื่อมาได้แค่ 4 วัน

ใน ประเด็นที่สอง เรื่องการเปิดบัญชีรับบริจาคในนามพรรคประชาชน นายศรายุทธิ์กล่าวว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 9/2555 มีการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการรับบริจาคไว้นานแล้ว มีทั้งบัญชีที่วงเล็บว่าเป็นค่าบำรุง และวงเล็บว่าสำหรับการบริจาค ตามที่กฎหมายกำหนดทุกประการ แม้ปัจจุบันจะเปลี่ยนชื่อพรรคเป็นพรรคประชาชน แต่ก็เป็นนิติบุคคลเดียวกัน มีความสืบเนื่องของนิติบุคคล พรรคประชาชนจึงใช้บัญชีดังกล่าวในการรับเงินค่าสมาชิก และเงินบริจาค แยกคนละบัญชีตามกฎหมาย

ส่วน การเปลี่ยนชื่อบัญชีเป็นพรรคประชาชน เป็นขั้นตอนทางธุรการที่พรรคดำเนินการแล้วหลังที่ประชุมใหญ่มีมติเปลี่ยนชื่อพรรค ขณะนี้กำลังรอธนาคารอนุมัติเปลี่ยนชื่อตามขั้นตอนปกติ ซึ่งใช้เวลาหลายวันทำการ ส่วนใบเสร็จรับเงิน เป็นใบเสร็จที่ออกในนามพรรคประชาชนตั้งแต่วันที่มีการเปลี่ยนชื่อพรรค เพราะการเปลี่ยนแปลงชื่อพรรคและข้อบังคับพรรคมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่มีมติ พรรคสามารถใช้ชื่อพรรคประชาชนได้ทันที

นอกจากนี้ การรับบริจาคผ่านผู้ให้บริการระบบการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ก็เป็นเรื่องที่ กกต.เคยตอบข้อหารือทางกฎหมายเป็นหนังสือให้แก่พรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล และเผยแพร่คำตอบข้อหารือผ่านเว็บไซต์ของ กกต.ไว้แล้วว่า การออกใบเสร็จต้องออกวันที่ใด และยอดเงินบริจาคต้องระบุยอดบริจาคก่อนการหักค่าธรรมเนียมของธนาคาร ค่าบริการของผู้ให้บริการบัตรเครดิต หรือผู้ให้บริการระบบรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงแสดงให้เห็นชัดเจนว่า การรับบริจาคผ่านระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ สามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

นายศรายุทธิ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอยืนยันอย่างหนักแน่นชัดเจนว่า พรรคประชาชนจัดตั้งสาขาพรรคและมีบัญชีรับเงินบริจาคที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ไม่ได้หลบเลี่ยงหรือปฏิบัติตามขั้นตอนไม่ครบถ้วนตามที่บุคคลต่างๆ กล่าวอ้างแต่อย่างใด



ผู้ประกอบการเซรามิกไทยยืนยัน 'ถ้วยชามก๋าไก่' คนจีนทำมาก่อนเรา
https://www.dailynews.co.th/news/3751063/

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ภายหลังจากที่มีประเด็นสินค้าเซรามิกจากประเทศจีน ตีตลาดในไทย ส่งผลให้โรงงานผลิตถ้วยชามเซรามิกต้องปิดตัวลงจำนวนมากนั้น เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายอนุรักษ์ นภาวรรณ อดีตนายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง และกรรมการบริหารบริษัทอินทราเซรามิค ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องใช้ในครัวและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเซรามิก ทั้งตลาดภายในประเทศและส่งออก ขนาดใหญ่ในจังหวัดลำปาง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
 
ถ้าดูแล้วยังเป็นการพูดกว้างๆ ไม่มีรายละเอียดว่าสินค้าที่พูดถึงมีราคา 5 บาท 10 บาท นั้น คือสินค้าอะไรประเภทไหน รูปแบบหรือเกรดคุณภาพระดับใด ถ้วยน้ำจิ้มหรือเปล่า นอกจากนั้น ไม่มีข้อมูลยืนยันว่าใครพูดถึงเรื่องนี้ หรือแหล่งข่าวมาจากไหน พูดถึงสัญลักษณ์ตราไก่นั้น คนจีนทำมานานแล้ว ต่อมามีการอพยพมาอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนลำปาง และมาตั้งโรงงานผลิตเซรามิกที่ลำปาง ดังนั้นรูปไก่คือการเอาต้นแบบมาจากจีน ไม่ใช่สัญลักษณ์ของจังหวัดลำปาง อาจจะมีการพัฒนารูปแบบแตกต่างกันไปบ้าง ทางจีนส่งถ้วยชามตราไก่ขายตลาดโลกแถบเอเชียเรา และมีการก๊อบปี้กันไปมาในเรื่องของสัญลักษณ์ตราไก่
 
จริงๆ แล้วไม่น่าห่วงเรื่องสินค้าจากจีน เพราะคนบ้านเขาเยอะ เครื่องมือทันสมัย ทำมากก็ถูกกว่าเรา แต่ถ้ากำแพงภาษีของไทยเราเกี่ยวกับสินค้านำเข้าไม่มีปัญหา สามารถเก็บได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีการคอร์รัปชั่น เก็บภาษีได้ตามความเป็นจริงแล้ว กำแพงภาษีจะช่วยได้เยอะ เพราะราคาสินค้าจะไม่ต่างกันมาก อีกเรื่องคือสินค้าออนไลน์ที่ไม่มีการเก็บภาษี แต่คนไทยต้องเสียภาษี ทำให้ต้นทุนสูง ราคาสูง ทำให้ขายได้น้อย เพราะคนแห่ไปซื้อสินค้าออนไลน์ที่ถูกกว่า ประกอบกับเศรษฐกิจไทยไม่ดี รวมกันสองเรื่องทำให้เลวร้ายลง คงต้องอยู่ที่การบริหารงานของรัฐบาล ว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรด้วย.



รถทัวร์ท่องเที่ยวโอด ทุนจีนเหมารถตู้แย่งขน นทท. ร้องรัฐตรวจสอบ
https://ch3plus.com/news/economy/ch3onlinenews/412482

ผู้ประกอบการรถทัวร์ท่องเที่ยวโอด ทุนจีนเข้ามาเปิดบริษัท เหมาซื้อรถตู้วีไอพีรับส่ง นทท.จีนตัดหน้า ร้องรัฐตรวจสอบแอปฯ โอนเงินสัญชาติจีน ทบทวนลดจำนวนวันพำนักวีซ่าฟรี ตัดตอนกลุ่มทุนจีน

นายวสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย กล่าวว่า กระแสข่าวทุนจีนเข้ามาซื้อกิจการรถทัวร์ไทยนั้นไม่เป็นที่ชัดเจน ไม่พบว่าเข้ามาเทคโอเวอร์ ที่ทราบมาคือเข้าเทคโอเวอร์ในกลุ่มรถบรรทุกหลายร้อยคัน แต่ที่ชัดเจนคือ การเข้ามาจดทะเบียนเปิดบริษัทเอง ซื้อรถใหม่เองทั้งหมด ซึ่งคงเป็นรูปแบบนอมินีที่มีคนไทยร่วมลงทุนเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด แต่ไม่มีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างแท้จริง และเป็นการซื้อรถตู้ รถตู้วีไอพี ไม่ใช่รถบัสขนาดใหญ่ เนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนคือเที่ยวเองแบบ FIT และเที่ยวกรุ๊ปเล็ก ไม่เข้าพักตามโรงแรมทั่วไป แต่ไปพักวิลล่าส่วนตัว คอนโด อพาร์ตเมนท์ให้เช่าหรือที่แอบเปิดรายวัน แม้กระทั่งแหล่งเที่ยวบางส่วนเป็นของทุนจีนเอง ซึ่งจะทำเป็น package ตั้งแต่รับจากสนามบิน รับประทานอาหาร ขนส่ง ที่พัก ทำให้เม็ดเงินกระจายสู่คนไทยน้อยมาก อีกทั้งโอนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันสัญชาติจีนระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ไทยเสียสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีในจุดนี้ด้วย จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปตรวจสอบแอปพลิเคชันดังกล่าว พร้อมกับทบทวนระยะเวลาพำนักการให้วีซ่าฟรีแก่จีน เพราะมองว่าระยะเวลาที่นานถึง 6 เดือน กลับเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มอื่นที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวตัวจริงมากกว่า เพราะพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวนั้นเฉลี่ยจะเที่ยวนาน 2 สัปดาห์ หรือมากสุดก็ 3 สัปดาห์เท่านั้น พร้อมแสดงความกังวลหากยังไม่แก้ไข ไทยจะสูญเสียรายได้มหาศาล และเป็นไปตามเป้ารายได้ท่องเที่ยวที่วางไว้แน่นอน แม้ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวจะถึงเป้าหมายก็ตาม และมีแนวโน้มว่าผู้ประกอบการรายย่อยจะล้มหายตายจากในหนึ่งถึงสองปีนี้อีกมาก

สำหรับผู้ประกอบการรถทัวร์ขนส่งเพื่อการท่องเที่ยว หลังโควิดกลับมาวิ่งงานได้ประมาณ 15,000 คัน จากช่วงก่อนโควิดที่มีอยู่ในระบบกว่า 40,000 กว่าคัน อย่างไรก็ตามใน 15,000 คันกลับมาวิ่งได้นั้นก็ไม่ได้มีงานถี่เช่นเดิม เนื่องจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป และการถูกแย่งอาชีพ ในขณะที่ผู้ประกอบการขาดเงินทุนในการปรับตัว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่