อธิบดีอัยการ เดือด เเก๊งอินฟลูเอนเซอร์ ทำร้าย แบงค์ เลสเตอร์ ชี้ ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4975294
‘โกศลวัฒน์’อธิบดีอัยการ สคช.เดือดเเก๊ง อินฟลูเอนเซอร์ทำร้าย ‘แบงค์ เลสเตอร์’ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์รุนเเรง ชี้อาจผิดกฎหมายอาญาหลายข้อ หากมีการดำเนินคดีเตรียมให้อัยการ สคช.ใช้มาตรา 44/1 เรียกค่าเสียหาย ระบุหากรู้ว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตยุให้กินเหล้าจนตายคนยุโดนด้วย
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นาย
โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนให้ความรู้ทางกฏหมายกรณีที่
แบงค์ เลสเตอร์ หนุ่มอินฟลูเอนเซอร์ แร็ปขายพวงมาลัยเลี้ยงยาย เสียชีวิตจากการถูกจ้างให้ดื่มเหล้า และมีกระแสข่าวว่าอาจไม่สามารถเอาผิดกับผู้จ้างให้แบงค์ดื่มได้นั้น ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรจะต้องมาให้ความรู้ทางกฏหมายกันอันดับแรกเรื่องเเบบนี้มันเคยเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้จําได้หรือไม่ที่เคยมีกรณีให้เด็ก 7 ขวบดื่มเหล้าแล้วต้องเข้าห้องไอซียู หรือมีคดีการแข่งขันดื่มเหล้าแล้วก็ป่วยถึงกับชีวิตกระบวนการตรงนี้อันดับแรกคือถ้ามีการตายที่ผิดธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ตํารวจต้องลงมาสอบสวน ต้องไปสอบสวนความจริงว่าความตายนี้เกิดจากอะไร ก็จะมาพิจารณาว่ามีการกระทําความผิดเกี่ยวข้องหรือไม่ ถ้าเกี่ยวข้องก็แจ้งข้อกล่าวหาตามตัวบทกฎหมาย
นาย
โกศลวัฒน์ กล่าวว่า ประเด็นคือ ตํารวจจะต้องสอบไปด้วยความจริงทั้งสองฝ่ายฝ่ายที่รู้เห็นเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น ฝ่ายที่บอกว่าไม่ได้ทํา ไม่ได้ตั้งใจ ก็ต้องมาให้การมาต่อสู้คดี การสอบสวนจะต้องสํานวนแล้วก็สรุปความเห็นว่าเห็นควรสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง ในข้อหาอะไร ส่งมาให้อัยการพิจารณา เรื่องนี้ ถ้ามีการให้ดื่มเหล้าหมดขวดด้วยประสบการณ์ของนักดื่มหรือความรู้ทั่วๆไปย่อมรู้อยู่แล้วว่าถ้าดื่มเเบบนี้จะมีสิทธิตายหรือไม่ ถ้าบอกว่าไม่ตั้งใจทําร้ายมันก็จะมีข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย ได้เช่น คุณไปให้รางวัลเขา ไปชักจูงให้เขาดื่ม ซึ่งตรงนี้ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏชัด
นาย
โกศลวัฒน์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะต้องไปสอบสวนให้ได้ความจริง พอสอบสวนได้ความจริงถึงจะมาเข้าสู่กระบวนการพิจารณาจะแจ้งข้อหาอะไร เท่าที่ตนทราบจากสื่อมวลชนว่าผู้ตายมีประวัติว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตตั้งแต่เด็ก ขอถามว่า คนที่เป็นผู้ป่วยเขามีความอ่อนด้อยในการตัดสินใจ อ่อนด้อยในความรู้ในทักษะที่จะป้องกันตนเองหรือไม่ แล้วการที่ไปยุให้เขาดื่มไม่ว่าจะจ้างหรือไปเชียร์หรือไปตบมือเชียร์มันก็เข้าข่ายทํานองว่าเป็นการประมาททําให้เขาดื่มมากเกินไปจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย ตรงนี้พนักงานสอบสวนก็จะดูผลการชันสูตรว่าความตายเกิดจากอะไร เกิดจากการดื่มสุราเกินขนาดหรือไม่ จากนั้นกระบวนการยุติธรรมก็จะเดินไป ฉะนั้นประเด็นตรงนี้ ถ้าใครรู้ความจริงก็ร่วมกับ พนักงานสอบสวนเอาพยานหลักฐานมาให้พนักงานสอบสวนให้เจ้าหน้าที่ได้ทําครับ
นาย
โกศลวัฒน์ กล่าวว่า ที่บอกว่าคนเชียร์ก็อาจจะมีความผิดด้วยเพราะ ถึงไม่ใช่คนจ้าง แต่เราเชียร์เราบอกเก่งสุดยอดเลย ดื่มอีก ดื่มอีก แล้วเชียร์ เขาก็หลงคําเยินยอเพราะความที่เขามีบัตรรักษาตัวเป็นผู้ป่วยทางจิต พอได้ยินเสียงเชียร์ก็ดื่มจนเป็นเหตุถึงแก่ชีวิต ทั้งคนเชียร์คนจ้างอาจจะโดนข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นตายได้ ซึ่งข้อหาประมาทเป็นสาเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตายจําคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 ขณะเดียวกันถ้ามีการไปจ้างให้มีการไลฟ์สดกันมันมีกฎหมายควบคุมเรื่องการห้ามโฆษณาสุราอีกเดี๋ยวพนักงานสอบสวนจะไปดูแล้วก็ดําเนินคดีตามกฎหมายนะครับ
เมื่อแจ้งข้อหาไปแล้ว ก็ต้องไปแก้ตัวไปแต่พนักงานสอบสวนจะสอบสวนเอามาพิจารณา เมื่อถึงเวลาสอบปากคําทุกคนจะต้องให้ถ้อยคําและสอบสวนจะบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรและให้เซ็นชื่อรับผิดชอบแล้วเอาเข้าสู่การพิจารณาสํานวน
นาย
โกศลวัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนที่มีการแชร์คลิปการทําคอนเทนต์กับผู้เสียชีวิตที่ที่เป็นลักษณะการใช้ความรุนแรงการกดขี่ข่มเหง ไม่ว่าเป็นการจับจับผู้เสียหายมัดไว้แล้วก็เอาสเปรย์ฉีดใส่หัว อ้วกใส่หรือมีการทำร้ายร่างกายเตะต่อยสามารถเอาผิดได้หมดเลย การถ่ายคลิปไว้อย่างนี้ ดําเนินคดีตามกฎหมายได้ ถ้าเราดูรัฐธรรมนูญแม่บทเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิทธิเสรีภาพของประชาชนจะละเมิดมิได้ เพราะฉะนั้นการที่ไปปฏิบัติต่อเขาเหมือนไม่ใช่คน ไปตบศีรษะหรือไปทำให้เขาต้องหมอบคลานหรือนั่งกับพื้นแล้วเอาเท้าไปทําร้าย ถือเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลังจากนั้นเรามีข้อหาทําร้ายร่างกายเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ เราอาจจะเห็นว่าแค่ตบศีรษะหรือเอาเท้าไปถีบเขายังไม่เป็นอันตรายแต่เขาอาจจะเป็นอันตรายแก่จิตใจ เพราะฉนั้นถ้ามีการสอบสวนดําเนินคดีหรืออย่างน้อยก็ต้องโดนหลุโทษครับ คือเจตนาทําร้ายแต่ไม่เป็นเหตุให้รับอันตรายแก่การจิตใจ
คดีตามกฎหมายเอาคลิปพวกนี้ไปเป็นหลักฐานดําเนินคดีได้หมด ทั้งข้อหาทําร้ายร่างกายไม่เป็นเหตุให้ร่างกายและจิตใจ หรือทําร้ายร่างกายเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่จิตใจก็ได้ ถ้ามีการสืบพยานหรือสอบปากคําก็จะได้พฤติการณ์ออกมา
“
อย่างเรื่องที่มีการให้กินเจลที่ไม่ใช่ของกินได้ ขอให้ความรู้ทางกฏหมายว่า สิ่งที่มันไม่ใช่ของปกติที่คนเรากิน เราเคยเห็นหรือไม่ สมัยก่อนมีคนเชียร์คนวิกลจริตให้ไปกินอึ ใช่อย่างนี้มันก็ผิด เเบบนี้ก็ทํานองเดียวกันถ้าจิตไม่ปกติแล้วไปชี้ให้เขาทําอะไรผิดปกติ คุณคือผู้ที่ทําร้ายเขาเเล้วนะ หากบอกไม่ตั้งใจก็ต้องมาดูต่อว่าถ้าเเบบนั้น จะพ้นข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่ร่างกายจิตใจ ประมาทเป็นเหตุผู้อื่นถึงแก่ความตายถ้าบอกว่าไม่ตั้งใจประมาทมั้ยเดี๋ยวพนักงานสอบสวนจะสอบสวนให้ด้วยความจริง อย่างที่บอกว่ามีคลิปจับมัดแล้วใส่ไว้ในรถแล้วก็จุดไฟแช็คฉีดสเปรย์ใส่จนเกิดไฟไหม้ก็คือการกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นความผิดต่อเสรีภาพ ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ก็ต้องดําเนินคดีด้วย” นาย
โกศลวัฒน์ กล่าว
นาย
โกศลวัฒน์ กล่าวว่า ต่อให้เขาจิตไม่ปกติหรือเค้าวิกลจริตคุณไม่มีสิทธิไปทําร้าย ถ้าเราเห็นคนไม่ปกติวิกลจริตและกลัวว่าจะเป็นอันตราย ต้องใช้กฎหมายพ.ร.บ.สุขภาพจิต แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ใช้กฎหมายเพื่อเอาคนที่ป่วยทางจิตเเยกออกไป คุณไม่มีสิทธิไปทําร้ายเขาไม่มีสิทธิ์ไปจับเขามัดหรือคุณบอกจะป้องกันไม่ให้เค้าทําร้ายผู้อื่นต้องพอสมควรแก่เหตุ ถ้าไม่มีเหตุว่าจะไปทําร้ายใครแล้วไปมัดเขามันเป็นความผิดต่อเสรีภาพตรงที่คุณพยายามเอาไฟไปจุดทำร้ายร่างกาย
“
ในส่วนเรื่องระยะเวลาอายุความคงไม่ต้องห่วงเพราะถ้าพนักงานสอบสวนเจ้าหน้าที่ตํารวจเห็นคลิปแล้วจะดําเนินคดีเขาสอบสวนได้ว่าคลิปถ่ายที่ไหน มีใครอยู่ในภาพในคลิปก็เอาตัวมาสอบ ได้ว่าเป็นวันที่เท่าไหร่พอได้วันที่ชัดเจนก็มาดูว่ายังอยู่ภายในอายุความดําเนินคดีหรือไม่ ถ้าอยู่ในอายุความก็ดําเนินคดีกันตามกฎหมาย ส่วนที่เกรงว่าญาติที่เหลือเป็นคนชราจะไม่มาเเจ้งความต้องบอกว่าคดีทำร้ายร่างกายมันเป็นความผิดต่อแผ่นดินซึ่งเจ้าหน้าที่ควรที่ดําเนินการ และอัยการคุ้มครองสิทธิ ขอฝากเตือนนะครับว่าอย่าคึกคะนอง อย่าเห็นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นของเล่น อย่าคิดว่าเค้าจินไม่ปกติหรือเค้าอ่อนด้อย เป็นคนอ่อนแอหรือเป็นกลุ่มเปราะบางแล้วไปข่มเหงรังแก ข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง ข้อหาทําร้ายร่างกายมีอยู่ ข้อหาเหล่าไว้คุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามรัฐธรรมนูญใครทำจะต้องถูกดําเนินคดี” นาย
โกศลวัฒน์ กล่าว
ในส่วนอัยการ สคช.หากพนักงานสอบสวนมีการดําเนินคดีเราจะส่งเอกสารให้คุณย่าของผู้ตาย เพื่อเรียกค่าเสียหายตามมาตรา 44/1 โดยที่ยังไม่ต้องไปดําเนินคดีแพ่ง เพื่อให้เค้าชดใช้ค่าเสียหาย ถ้าอยากจะบรรเทาผลร้ายเยียวยาอะไรมาหาเรา เราจะแนะนําให้ทํา แนะนําให้ชดใช้เยียวยาเพื่อจะได้เอาไปใช้แถลงศาลได้
“
ขอฝากเรื่องละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จับมัดหลอกกินเหล้าจะถูกดำเนินคดีอาญา อย่าสนุกคนองกับคนอ่อนด้อยหรือจิตไม่ปกติ จะถูกดำเนินคดีทุกข้อหาต่างกรรมต่างวาระ อย่าเห็นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นของเล่นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย” นายโกศลวัฒน์ กล่าว
กรุงเทพฯจมฝุ่น เกินมาตรฐานทั้งเมือง บางกอกใหญ่หนักสุด ตจว.12 จว.มีผลต่อสุขภาพ
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4975217
กรุงเทพฯจมฝุ่น เกินมาตรฐานทั้งเมือง บางกอกใหญ่หนักสุด ตจว.12 จว.มีผลต่อสุขภาพ
วันที่ 28 ธันวาคม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและ ภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า-GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียม รายชั่วโมง ผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” (เวลา 8.00 ของวันที่ 28 ธันวาคม 2567) พบค่าฝุ่นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ และระบบทางเดินหายใจ (สีแดง)ของพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 เขต คือ บางกอกใหญ่ 78.2 ไมโครกรัม คลองสาน 76.6 ไมโครกรัม #ธนบุรี 75.5 ไมโครกรัม ส่วนพื้นที่อื่นๆ พบคุณค่าคุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ (สีส้ม)
ด้านของภาพรวมประเทศไทยพบ 13 จังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางที่มีค่าฝุ่นที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ พบค่าคุณภาพอากาศปานกลางไปจนถึงดีมาก
วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน
https://tna.mcot.net/politics-1467227
กทม. 28 ธ.ค. – สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายร่วมช่วยกันดูแลความปลอดภัยอำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย
พล.ต.อ.
เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568และแถลงข้อมูลช่วง 10 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.2567 ถึง 5 ม.ค. 2568 โดยวันแรก (27 ธ.ค.) เกิดอุบัติเหตุ 322 ครั้ง ซึ่งลดลง 7.47% จากปีก่อน มีผู้เสียชีวิต 52 ราย เพิ่มขึ้น 23.81% ผู้บาดเจ็บ 318 คน ลดลง 5.36% โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด จำนวน 17 ครั้ง รองลงมา คือ พระนครศรีอยุธยา และลำปาง 14 ครั้ง
ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ นครศรีธรรมราชและกรุงเทพมหานคร จำนวน 4 ราย รองลงมา คือ ลำปางและอุดรธานี จำนวน 3 ราย
สำหรับจังหวัดที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงสุด คือ นครศรีธรรมราช จำนวน 17 คน รองลงมา คือ พระนครศรีอยุธยา และขอนแก่น จำนวน 13 คน
สาเหตุของอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นมากที่สุดมีมูลเหตุสันนิษฐานจากการขับรถเร็ว เกินกว่ากฎหมายกำหนด 127 ครั้ง ประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ รถจักรยานยนต์ จำนวน 287 คัน
พล.ต.อ.
เพิ่มพูน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทีมอาชีวะอาสา ดูแลเรื่องรถให้แก่ประชาชน ประชาชนช่วงปีใหม่กว่า 150 จุดทั่วประเทศ ในระหว่างเดินทาง ซึ่งเป็นทั้งจุดพักรถและซ่อมรถ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเป็นหนึ่งในปัจจัย ที่จะลดอุบัติเหตุทางถนนลงได้
JJNY : อธิบดีอัยการ เดือดเเก๊งอินฟลูเอนเซอร์│กรุงเทพฯจมฝุ่น│วันแรก ตาย 52 บาดเจ็บ 318│สหรัฐอ้างมีสิ่งบ่งชี้ยิงเครื่องบิน
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4975294
‘โกศลวัฒน์’อธิบดีอัยการ สคช.เดือดเเก๊ง อินฟลูเอนเซอร์ทำร้าย ‘แบงค์ เลสเตอร์’ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์รุนเเรง ชี้อาจผิดกฎหมายอาญาหลายข้อ หากมีการดำเนินคดีเตรียมให้อัยการ สคช.ใช้มาตรา 44/1 เรียกค่าเสียหาย ระบุหากรู้ว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตยุให้กินเหล้าจนตายคนยุโดนด้วย
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนให้ความรู้ทางกฏหมายกรณีที่ แบงค์ เลสเตอร์ หนุ่มอินฟลูเอนเซอร์ แร็ปขายพวงมาลัยเลี้ยงยาย เสียชีวิตจากการถูกจ้างให้ดื่มเหล้า และมีกระแสข่าวว่าอาจไม่สามารถเอาผิดกับผู้จ้างให้แบงค์ดื่มได้นั้น ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรจะต้องมาให้ความรู้ทางกฏหมายกันอันดับแรกเรื่องเเบบนี้มันเคยเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้จําได้หรือไม่ที่เคยมีกรณีให้เด็ก 7 ขวบดื่มเหล้าแล้วต้องเข้าห้องไอซียู หรือมีคดีการแข่งขันดื่มเหล้าแล้วก็ป่วยถึงกับชีวิตกระบวนการตรงนี้อันดับแรกคือถ้ามีการตายที่ผิดธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ตํารวจต้องลงมาสอบสวน ต้องไปสอบสวนความจริงว่าความตายนี้เกิดจากอะไร ก็จะมาพิจารณาว่ามีการกระทําความผิดเกี่ยวข้องหรือไม่ ถ้าเกี่ยวข้องก็แจ้งข้อกล่าวหาตามตัวบทกฎหมาย
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ประเด็นคือ ตํารวจจะต้องสอบไปด้วยความจริงทั้งสองฝ่ายฝ่ายที่รู้เห็นเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น ฝ่ายที่บอกว่าไม่ได้ทํา ไม่ได้ตั้งใจ ก็ต้องมาให้การมาต่อสู้คดี การสอบสวนจะต้องสํานวนแล้วก็สรุปความเห็นว่าเห็นควรสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง ในข้อหาอะไร ส่งมาให้อัยการพิจารณา เรื่องนี้ ถ้ามีการให้ดื่มเหล้าหมดขวดด้วยประสบการณ์ของนักดื่มหรือความรู้ทั่วๆไปย่อมรู้อยู่แล้วว่าถ้าดื่มเเบบนี้จะมีสิทธิตายหรือไม่ ถ้าบอกว่าไม่ตั้งใจทําร้ายมันก็จะมีข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย ได้เช่น คุณไปให้รางวัลเขา ไปชักจูงให้เขาดื่ม ซึ่งตรงนี้ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏชัด
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะต้องไปสอบสวนให้ได้ความจริง พอสอบสวนได้ความจริงถึงจะมาเข้าสู่กระบวนการพิจารณาจะแจ้งข้อหาอะไร เท่าที่ตนทราบจากสื่อมวลชนว่าผู้ตายมีประวัติว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตตั้งแต่เด็ก ขอถามว่า คนที่เป็นผู้ป่วยเขามีความอ่อนด้อยในการตัดสินใจ อ่อนด้อยในความรู้ในทักษะที่จะป้องกันตนเองหรือไม่ แล้วการที่ไปยุให้เขาดื่มไม่ว่าจะจ้างหรือไปเชียร์หรือไปตบมือเชียร์มันก็เข้าข่ายทํานองว่าเป็นการประมาททําให้เขาดื่มมากเกินไปจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย ตรงนี้พนักงานสอบสวนก็จะดูผลการชันสูตรว่าความตายเกิดจากอะไร เกิดจากการดื่มสุราเกินขนาดหรือไม่ จากนั้นกระบวนการยุติธรรมก็จะเดินไป ฉะนั้นประเด็นตรงนี้ ถ้าใครรู้ความจริงก็ร่วมกับ พนักงานสอบสวนเอาพยานหลักฐานมาให้พนักงานสอบสวนให้เจ้าหน้าที่ได้ทําครับ
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ที่บอกว่าคนเชียร์ก็อาจจะมีความผิดด้วยเพราะ ถึงไม่ใช่คนจ้าง แต่เราเชียร์เราบอกเก่งสุดยอดเลย ดื่มอีก ดื่มอีก แล้วเชียร์ เขาก็หลงคําเยินยอเพราะความที่เขามีบัตรรักษาตัวเป็นผู้ป่วยทางจิต พอได้ยินเสียงเชียร์ก็ดื่มจนเป็นเหตุถึงแก่ชีวิต ทั้งคนเชียร์คนจ้างอาจจะโดนข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นตายได้ ซึ่งข้อหาประมาทเป็นสาเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตายจําคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 ขณะเดียวกันถ้ามีการไปจ้างให้มีการไลฟ์สดกันมันมีกฎหมายควบคุมเรื่องการห้ามโฆษณาสุราอีกเดี๋ยวพนักงานสอบสวนจะไปดูแล้วก็ดําเนินคดีตามกฎหมายนะครับ
เมื่อแจ้งข้อหาไปแล้ว ก็ต้องไปแก้ตัวไปแต่พนักงานสอบสวนจะสอบสวนเอามาพิจารณา เมื่อถึงเวลาสอบปากคําทุกคนจะต้องให้ถ้อยคําและสอบสวนจะบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรและให้เซ็นชื่อรับผิดชอบแล้วเอาเข้าสู่การพิจารณาสํานวน
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนที่มีการแชร์คลิปการทําคอนเทนต์กับผู้เสียชีวิตที่ที่เป็นลักษณะการใช้ความรุนแรงการกดขี่ข่มเหง ไม่ว่าเป็นการจับจับผู้เสียหายมัดไว้แล้วก็เอาสเปรย์ฉีดใส่หัว อ้วกใส่หรือมีการทำร้ายร่างกายเตะต่อยสามารถเอาผิดได้หมดเลย การถ่ายคลิปไว้อย่างนี้ ดําเนินคดีตามกฎหมายได้ ถ้าเราดูรัฐธรรมนูญแม่บทเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิทธิเสรีภาพของประชาชนจะละเมิดมิได้ เพราะฉะนั้นการที่ไปปฏิบัติต่อเขาเหมือนไม่ใช่คน ไปตบศีรษะหรือไปทำให้เขาต้องหมอบคลานหรือนั่งกับพื้นแล้วเอาเท้าไปทําร้าย ถือเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลังจากนั้นเรามีข้อหาทําร้ายร่างกายเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ เราอาจจะเห็นว่าแค่ตบศีรษะหรือเอาเท้าไปถีบเขายังไม่เป็นอันตรายแต่เขาอาจจะเป็นอันตรายแก่จิตใจ เพราะฉนั้นถ้ามีการสอบสวนดําเนินคดีหรืออย่างน้อยก็ต้องโดนหลุโทษครับ คือเจตนาทําร้ายแต่ไม่เป็นเหตุให้รับอันตรายแก่การจิตใจ
คดีตามกฎหมายเอาคลิปพวกนี้ไปเป็นหลักฐานดําเนินคดีได้หมด ทั้งข้อหาทําร้ายร่างกายไม่เป็นเหตุให้ร่างกายและจิตใจ หรือทําร้ายร่างกายเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่จิตใจก็ได้ ถ้ามีการสืบพยานหรือสอบปากคําก็จะได้พฤติการณ์ออกมา
“อย่างเรื่องที่มีการให้กินเจลที่ไม่ใช่ของกินได้ ขอให้ความรู้ทางกฏหมายว่า สิ่งที่มันไม่ใช่ของปกติที่คนเรากิน เราเคยเห็นหรือไม่ สมัยก่อนมีคนเชียร์คนวิกลจริตให้ไปกินอึ ใช่อย่างนี้มันก็ผิด เเบบนี้ก็ทํานองเดียวกันถ้าจิตไม่ปกติแล้วไปชี้ให้เขาทําอะไรผิดปกติ คุณคือผู้ที่ทําร้ายเขาเเล้วนะ หากบอกไม่ตั้งใจก็ต้องมาดูต่อว่าถ้าเเบบนั้น จะพ้นข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่ร่างกายจิตใจ ประมาทเป็นเหตุผู้อื่นถึงแก่ความตายถ้าบอกว่าไม่ตั้งใจประมาทมั้ยเดี๋ยวพนักงานสอบสวนจะสอบสวนให้ด้วยความจริง อย่างที่บอกว่ามีคลิปจับมัดแล้วใส่ไว้ในรถแล้วก็จุดไฟแช็คฉีดสเปรย์ใส่จนเกิดไฟไหม้ก็คือการกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นความผิดต่อเสรีภาพ ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ก็ต้องดําเนินคดีด้วย” นายโกศลวัฒน์ กล่าว
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ต่อให้เขาจิตไม่ปกติหรือเค้าวิกลจริตคุณไม่มีสิทธิไปทําร้าย ถ้าเราเห็นคนไม่ปกติวิกลจริตและกลัวว่าจะเป็นอันตราย ต้องใช้กฎหมายพ.ร.บ.สุขภาพจิต แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ใช้กฎหมายเพื่อเอาคนที่ป่วยทางจิตเเยกออกไป คุณไม่มีสิทธิไปทําร้ายเขาไม่มีสิทธิ์ไปจับเขามัดหรือคุณบอกจะป้องกันไม่ให้เค้าทําร้ายผู้อื่นต้องพอสมควรแก่เหตุ ถ้าไม่มีเหตุว่าจะไปทําร้ายใครแล้วไปมัดเขามันเป็นความผิดต่อเสรีภาพตรงที่คุณพยายามเอาไฟไปจุดทำร้ายร่างกาย
“ในส่วนเรื่องระยะเวลาอายุความคงไม่ต้องห่วงเพราะถ้าพนักงานสอบสวนเจ้าหน้าที่ตํารวจเห็นคลิปแล้วจะดําเนินคดีเขาสอบสวนได้ว่าคลิปถ่ายที่ไหน มีใครอยู่ในภาพในคลิปก็เอาตัวมาสอบ ได้ว่าเป็นวันที่เท่าไหร่พอได้วันที่ชัดเจนก็มาดูว่ายังอยู่ภายในอายุความดําเนินคดีหรือไม่ ถ้าอยู่ในอายุความก็ดําเนินคดีกันตามกฎหมาย ส่วนที่เกรงว่าญาติที่เหลือเป็นคนชราจะไม่มาเเจ้งความต้องบอกว่าคดีทำร้ายร่างกายมันเป็นความผิดต่อแผ่นดินซึ่งเจ้าหน้าที่ควรที่ดําเนินการ และอัยการคุ้มครองสิทธิ ขอฝากเตือนนะครับว่าอย่าคึกคะนอง อย่าเห็นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นของเล่น อย่าคิดว่าเค้าจินไม่ปกติหรือเค้าอ่อนด้อย เป็นคนอ่อนแอหรือเป็นกลุ่มเปราะบางแล้วไปข่มเหงรังแก ข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง ข้อหาทําร้ายร่างกายมีอยู่ ข้อหาเหล่าไว้คุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามรัฐธรรมนูญใครทำจะต้องถูกดําเนินคดี” นายโกศลวัฒน์ กล่าว
ในส่วนอัยการ สคช.หากพนักงานสอบสวนมีการดําเนินคดีเราจะส่งเอกสารให้คุณย่าของผู้ตาย เพื่อเรียกค่าเสียหายตามมาตรา 44/1 โดยที่ยังไม่ต้องไปดําเนินคดีแพ่ง เพื่อให้เค้าชดใช้ค่าเสียหาย ถ้าอยากจะบรรเทาผลร้ายเยียวยาอะไรมาหาเรา เราจะแนะนําให้ทํา แนะนําให้ชดใช้เยียวยาเพื่อจะได้เอาไปใช้แถลงศาลได้
“ขอฝากเรื่องละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จับมัดหลอกกินเหล้าจะถูกดำเนินคดีอาญา อย่าสนุกคนองกับคนอ่อนด้อยหรือจิตไม่ปกติ จะถูกดำเนินคดีทุกข้อหาต่างกรรมต่างวาระ อย่าเห็นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นของเล่นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย” นายโกศลวัฒน์ กล่าว
กรุงเทพฯจมฝุ่น เกินมาตรฐานทั้งเมือง บางกอกใหญ่หนักสุด ตจว.12 จว.มีผลต่อสุขภาพ
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4975217
กรุงเทพฯจมฝุ่น เกินมาตรฐานทั้งเมือง บางกอกใหญ่หนักสุด ตจว.12 จว.มีผลต่อสุขภาพ
วันที่ 28 ธันวาคม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและ ภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า-GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียม รายชั่วโมง ผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” (เวลา 8.00 ของวันที่ 28 ธันวาคม 2567) พบค่าฝุ่นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ และระบบทางเดินหายใจ (สีแดง)ของพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 เขต คือ บางกอกใหญ่ 78.2 ไมโครกรัม คลองสาน 76.6 ไมโครกรัม #ธนบุรี 75.5 ไมโครกรัม ส่วนพื้นที่อื่นๆ พบคุณค่าคุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ (สีส้ม)
ด้านของภาพรวมประเทศไทยพบ 13 จังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางที่มีค่าฝุ่นที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ พบค่าคุณภาพอากาศปานกลางไปจนถึงดีมาก
วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน
https://tna.mcot.net/politics-1467227
กทม. 28 ธ.ค. – สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายร่วมช่วยกันดูแลความปลอดภัยอำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย
พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568และแถลงข้อมูลช่วง 10 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.2567 ถึง 5 ม.ค. 2568 โดยวันแรก (27 ธ.ค.) เกิดอุบัติเหตุ 322 ครั้ง ซึ่งลดลง 7.47% จากปีก่อน มีผู้เสียชีวิต 52 ราย เพิ่มขึ้น 23.81% ผู้บาดเจ็บ 318 คน ลดลง 5.36% โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด จำนวน 17 ครั้ง รองลงมา คือ พระนครศรีอยุธยา และลำปาง 14 ครั้ง
ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ นครศรีธรรมราชและกรุงเทพมหานคร จำนวน 4 ราย รองลงมา คือ ลำปางและอุดรธานี จำนวน 3 ราย
สำหรับจังหวัดที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงสุด คือ นครศรีธรรมราช จำนวน 17 คน รองลงมา คือ พระนครศรีอยุธยา และขอนแก่น จำนวน 13 คน
สาเหตุของอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นมากที่สุดมีมูลเหตุสันนิษฐานจากการขับรถเร็ว เกินกว่ากฎหมายกำหนด 127 ครั้ง ประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ รถจักรยานยนต์ จำนวน 287 คัน
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทีมอาชีวะอาสา ดูแลเรื่องรถให้แก่ประชาชน ประชาชนช่วงปีใหม่กว่า 150 จุดทั่วประเทศ ในระหว่างเดินทาง ซึ่งเป็นทั้งจุดพักรถและซ่อมรถ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเป็นหนึ่งในปัจจัย ที่จะลดอุบัติเหตุทางถนนลงได้