ครอบครัวของเราไม่มีความสุขเลย ตายายทะเลาะกันทุกวัน เจอแต่คนเห็นแก่ตัว ซึ่งตอนนั้น ประมาณ 3-4 ปีที่แล้วลุงเราเลิกกับเมียเขา แล้วก็เอาลูกชายเขาไปเลี้ยงกับแฟนใหม่ ตาเราก็เปลี่ยนไป จากที่เป็นคุณตาแสนใจดี กลายเป็นตาแก่ขี้เหล้า ตกเย็นก็ด่าคนอื่นไปเรื่อย มีครั้งหนึ่งเขาขายปลาได้หลายกิโล เขาสัญญาว่า"จะเลี้ยงหมูกะทะพรุ่งนี้นะ" แต่พอวันจริงๆเขาบอกว่าให้ตามหลานชายเขามากิน ถ้าไม่มาก็ไม่ได้กิน ซึ่งก็อดกินค่ะ เขาลำเอียงรักหลานชายมากกว่า มันเป็นอย่างนี้ตลอดอยู่แล้ว เห็นว่าหลานชายดีกว่าหลานสาว เราสัมผัสได้อยู่ตลอด ตามีอะไรก็จะให้หลานชายก่อน เราก็จะได้ของที่หลานชายของเขาไม่เอาด้วยเหตุผลว่า "เป็นพี่สาว" เวลาเล่นก็จะเล่นแต่กับหลานชาย เราต้องนั่งเล่นคนเดียว จนบางครั้งเคยแอบไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำตั้งแต่เด็กๆอ่ะ ซึ่งก็จะไม่มีใครรู้ เพราะเราก็จะเช็ดน้ำตาแล้วยิ้มเดินออกไป ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนพอเริ่มโต ตาก็เป็นตาแก่ขี้เหล้าอยางที่บอก
มีวันหนึ่งตาป่วย เป็นโรคถุงลมโป่งพอง ตอนเราไปเยี่ยมตาเราร้องไห้หนักมาก เราสงสารเขามากเพราะว่าเขาต้องใส่เครื่องช่วยหายใจสายอาหารนู่นนี่นั่นแหละอย่างเต็มตัวเขา เขาบอกว่าเจ็บคืนที่เราพาตาไปโรงพยาบาลแล้วได้นอนเกือบ 2:00 น และเราต้องตื่นตอนตี 5 เราคิดในหัวว่าถ้าเกิดว่าตาเราหายเป็นโรคนี้ตาคงจะอบอุ่นทำให้ครอบครัวมีความสุขได้มากเห็นคุณค่าของหลายๆคน แต่ก็เป็นเหมือนเดิม เขาด่าเราว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้สู้หลานชายไม่ได้ เราเห็นครอบครัวของคนอื่นๆเขามีความสุข ดูอบอุ่นดีมีความรักให้กันและกัน แต่ครอบครัวเรามันไม่ใช่อย่างนั้นมีแต่สังคมคนเห็นแก่ตัวภายในบ้านไม่มีอะไรก็เดินเข้าห้องไปหยิบได้เงินมาก็ไม่เคยแบ่งกันเอาไปใช้คนเดียวเราสงสารแม่เราที่สุดเลยนะตอนนี้ เพราะแม่เราตอนที่ตาป่วยต้องรับผิดชอบทุกอย่างด้วยเหตุผลว่าเป็นลูกสาว แต่พอถึงเวลาเขาได้เงินเกือบหมื่นแม่เราไม่ได้เลยสักบาท แม่เราบ่นทุกวันซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าบ้านนี้มันไม่น่าอยู่ เราได้แต่คิดในใจว่า รอดูอนาคตได้เลยว่าไอ้หลานชายที่ตารักนักรักหนาเนี่ยมันจะหันกลับมามองตาเมื่อยามลำบากไหม
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ถ้าใครคิดว่าปลอม ไม่ต้องอ่านก็ได้ค่ะ เราแค่อยากระบายออกมา เพราะที่ผ่านมาเราเก็บมันไว้ตลอด 🥺
"บ้าน"ไม่ใช่เซฟโซน