[พิเศษ] เหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากผู้บริหาร ADOR เรียกร้องให้ "มินฮีจิน" ออกมาขอโทษและพูดความจริงต่อสาธารณะ

กระทู้ข่าว

เหยื่อพนักงานหญิง B ได้โพสต์คำอธิบายลงบน instagram ส่วนตัว โดยกล่าวว่า CEO Min Hee-jin ปกปิดเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศภายในบริษัท และปกป้องผู้กระทำความผิดอย่างผู้บริหาร A

เขาเรียกร้องให้มินฮีจินและผู้บริหาร A ออกมาขอโทษอย่างจริงใจ และถ้าคำอธิบายของเขาถูกมองว่าโกหก จะมีการเปิดเผยความจริงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ สื่อรายงานว่า CEO Min เข้าข้างผู้บริหาร A และปกปิดข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศภายในบริษัท และเพิกเฉยต่อเหยื่อ B ที่เป็นพนักงานหญิงโดยสิ้นเชิง

ข้อความฉบับเต็มของพนักงานหญิง B
สวัสดีค่ะ ฉันคือพนักงาน B ที่ถูกพูดถึงในคำอธิบายของคุณมินฮีจิน ประธานบริษัท เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเธอได้โพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ คุณมินฮีจินกล่าวถึงฉันว่าเป็น 'xx' และ 'จิตใจxx' เป็นต้น ซึ่งเป็นคำพูดที่มีเนื้อหาแสดงความรังเกียจและหยาบคายหลายคำ

ตามที่คุณมินฮีจินได้พูดคุยในแชทกับผู้บริหาร A ว่า ("หากเรื่องนั้นถูกเปิดเผย จะทำให้เขาดูเป็นโรคจิตและทำลายตัวเอง, B มีความกล้าพอหรือ?") ใช่ค่ะ ฉันเป็นเพียงพนักงานธรรมดาและเป็นคนทั่วไปที่ไม่มีความกล้าหาญมากนัก

เป็นไปไม่ได้ที่ฉัน ซึ่งเป็นเพียงพนักงาน จะกล้าต่อสู้กับประธานบริษัทที่มีประสบการณ์หลายสิบปีในวงการบันเทิง และเป็นโปรดิวเซอร์ชื่อดังที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการสื่อ ทุกวันนี้แม้เพียงแค่เขียนข้อความนี้ ฉันยังรู้สึกกลัวมาก

แต่การที่คุณมินฮีจินปกป้องผู้บริหาร A ซึ่งเป็นผู้กระทำการโดยไม่ได้ให้โอกาสฝ่ายฉันได้ชี้แจงอะไรเลย และยังเปิดเผยแชทของพนักงานที่ลาออกโดยไม่ได้รับความยินยอม ทำให้ฉันไม่สามารถอดทนเงียบได้อีกต่อไป ฉันจึงตัดสินใจเขียนข้อความนี้ขึ้นมา

ฉันจะพยายามอธิบายข้อเท็จจริงให้ละเอียดที่สุด และแม้ว่าเรื่องราวอาจยาวนานและกระจัดกระจายไปบ้าง แต่ขอขอบคุณหากคุณสามารถอ่านจนจบ

หลังจากที่ฉันลาออกในเดือนเมษายน มีความขัดแย้งระหว่างสองบริษัท ซึ่งทำให้ฉันถูกสอบสวนจากทางบริษัทไฮบ์เพราะฉันเคยทำงานภายใต้การดูแลของคุณมินฮีจินและผู้บริหาร A บางสื่อก็ได้ติดต่อมาหาฉันเพื่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ฉันปฏิเสธทั้งหมดเพราะไม่อยากถูกดึงเข้าไปในคดีความระหว่างคุณมินฮีจินและบริษัทไฮบ์

แต่เมื่อรายละเอียดของเหตุการณ์ถูกเปิดเผยโดยสื่อ Dispatch ฉันตกใจมาก มีคำพูดที่สร้างบาดแผลให้ฉันในหัวข้อข่าวและฉันสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าหมายถึงอะไร ถึงแม้ว่าฉันจะเช็คข้อเท็จจริงซ้ำหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นถูกต้องก่อนที่จะเขียนข้อความนี้

ก่อนที่จะเข้าสู่ประเด็นหลัก ฉันขอเล่าถึงประสบการณ์ที่ฉันได้เผชิญที่บริษัท ADOR ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศและถูกรังแกอย่างไม่เป็นธรรมในที่ทำงานจากผู้บริหาร A ฉันได้รายงานเรื่องนี้ในวันที่ 2 มีนาคม และได้รับผลการสอบสวนในวันที่ 16 มีนาคม และสุดท้ายได้ลาออกในวันที่ 21 มีนาคม

ฉันกลัวที่จะรายงานผู้บริหาร A เพราะเขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าและมีประสบการณ์มากกว่าฉันในวงการบันเทิง แต่ฉันเชื่อว่ามีคนอื่นที่ถูกล่วงละเมิดเช่นเดียวกับฉัน ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะรายงานเพื่อป้องกันไม่ให้มีคนอื่นได้รับความเสียหาย

ผู้บริหาร A จะตำหนิฉันและเพื่อนร่วมงานเป็นประจำ และส่งข้อความสั่งงานที่กดดันในเวลานอกทำการ ซึ่งทำลายความมั่นใจและชีวิตประจำวันของฉันอย่างมาก

ไฮบ์สรุปผลการสอบสวนว่า การกระทำของผู้บริหาร A ไม่เพียงพอที่จะถูกพิจารณาว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศหรือการรังแกในที่ทำงาน แต่ยอมรับว่าการกระทำของเขาไม่เหมาะสมและแนะนำให้คุณมินฮีจินดำเนินการตักเตือนผู้บริหาร A แต่ฉันเพิ่งทราบว่าคุณมินฮีจินปฏิเสธที่จะดำเนินการใดๆ

เมื่อฉันได้รับรู้ว่าคุณมินฮีจินได้ปกป้องผู้บริหาร A และกล่าวคำหยาบคายเกี่ยวกับฉันเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของฉัน ฉันรู้สึกเจ็บปวดและผิดหวังมาก

แม้ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้สถานการณ์ของฉันและเพื่อนร่วมงานดีขึ้น แต่คุณมินฮีจินยังคงใช้การแชทของฉันและผู้บริหาร A โดยไม่ได้รับความยินยอมจากฉันเพื่อเผยแพร่ในคำอธิบายของเธอ

การที่คุณมินฮีจินแสดงออกว่าเธอเป็นกลางและพยายามจะไกล่เกลี่ย แต่ในความจริงกลับปกป้องฝ่ายที่กระทำความผิดและใช้ข้อความแชทของฉันอย่างผิดๆ โดยไม่มีการขอโทษหรือแสดงความเสียใจใดๆ ทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง

ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบสวนที่ถูกแทรกแซงและทำให้ผลลัพธ์มีแนวโน้มที่จะถูกบิดเบือน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถสงสัยได้อย่างสมเหตุสมผล สำหรับฉันแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาส่วนตัวระหว่างคุณมินฮีจินและผู้บริหาร A แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในเชิงธุรกิจ ภายใน ADOR การรายงานงานส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันแชท ดังนั้นการสื่อสารระหว่างคุณมินฮีจินกับผู้บริหาร A เกี่ยวกับเรื่องของบริษัทจึงไม่ต่างจากการสนทนาในอีเมลหรือในแอปพลิเคชันสื่อสารที่ใช้ในที่ทำงาน

ฉันขอถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ระหว่างวันที่ 6 มีนาคม และ 16 มีนาคม ว่าคุณมินฮีจินได้ดำเนินการเป็นกลางในฐานะประธานบริษัทตามที่เธออ้างไว้หรือไม่? คุณมินฮีจินได้รับข้อมูลการรายงานที่ถูกส่งไปถึงเธอในฐานะตัวแทนของบริษัท จากนั้นเธอได้แบ่งปันข้อมูลเหล่านี้กับผู้บริหาร A ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหา และยังให้คำแนะนำและพิจารณาข้อโต้แย้งจากผู้บริหาร A ทำให้เห็นได้ชัดว่าเธอเข้าข้างผู้บริหาร A ตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนที่การสอบสวนจะเริ่มขึ้น ความร่วมมือระหว่างประธานบริษัทและผู้บริหารเพื่อปกปิดและล่วงละเมิดผู้รายงานทำให้ฉันสงสัยว่าการสอบสวนจะได้รับความยุติธรรมหรือไม่

ในกรณีของการล่วงละเมิดทางเพศหรือการรังแกในที่ทำงาน การแยกผู้รายงานและผู้ถูกกล่าวหาเป็นสิ่งที่ควรทำโดยพื้นฐาน แต่คุณมินฮีจินกลับเลือกที่จะรวมผู้รายงานและผู้ถูกกล่าวหาไว้ด้วยกันในระหว่างการประชุม 3 ฝ่าย หรือการประชุม 4 ฝ่ายที่รวมถึงแผนกทรัพยากรบุคคลของไฮบ์และลูกค้าโฆษณาที่ร่วมประชุมด้วย ซึ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่กดดันและทำให้ฉันรู้สึกเครียดอย่างมาก เมื่อถูกบังคับให้ทำงานในสภาพแวดล้อมเดียวกันกับผู้บริหาร A ฉันได้ขอทำงานในสภาพแวดล้อมที่แยกออกไปอย่างเป็นทางการ แต่กลับได้รับคำขอให้ร่วมประชุมเช่นนี้ ทำให้ฉันรู้สึกแย่มากในตอนนั้น แม้ว่าฉันพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์ แต่ฉันก็ไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ

คุณมินฮีจินยังพยายามรวบรวมหลักฐานเพื่อตอบโต้การร้องเรียนของฉันในเชิงว่า ฉันทำงานไม่ดีและรายงานเรื่องนี้เพื่อล้างแค้น เธอยังใช้ถ้อยคำหยาบคายและทำให้ฉันรู้สึกถูกรังแก ทั้งนี้ยังได้แนะนำให้ผู้บริหาร A ฟ้องฉันในข้อหาให้การเท็จอีกด้วย และพยายามอย่างหนักในการใช้ตำแหน่งของเธอเพื่อทำให้การร้องเรียนของฉันถูกเพิกเฉย

ดังนั้นฉันจึงขอถามอีกครั้งว่า การที่คุณมินฮีจินกล่าวว่าเธอเป็นกลางและดำเนินการอย่างเหมาะสมในฐานะตัวแทนของบริษัทนั้นเป็นจริงหรือไม่

ในเรื่องราวและคำพูดของคุณมินฮีจิน ฉันถูกมองว่าเป็นคนที่สมควรถูกลงโทษเพราะการทำงานไม่ดี และเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจ แต่จริงๆ แล้ว ฉันเพียงแค่พยายามทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทีมงานของ ADOR ดำเนินไปได้

ฉันรอคอยการขอโทษอย่างจริงใจจากคุณมินฮีจินและผู้บริหาร A หวังว่าคราวนี้จะไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นอีก และขอให้คุณแก้ไขข้อเท็จจริงที่ผิดพลาดอย่างชัดเจน หากคุณมินฮีจินยังคงยืนยันว่าคำแถลงของฉันเป็นการบิดเบือนหรือโกหก ฉันจะดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเปิดเผยความจริงอย่างชัดเจน