ประชาชนสามาถฟ้องร้องรัฐบาลได้หรือไม่ กรณีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ตกต่ำลง

ตามหัวข้อคำถามครับ

สืบเนื่องจากชีวิตของประชาชนขาวไทยตกต่ำลงมากหลังรัฐบาลชุดนี้เริ่มต้นบริหารประเทศ อย่างที่ทุกคนทราบจากข่าวแหล่งต่างๆ. และผลกระทบที่ส่งมาถึงตัวพวกเราทุกคน. สินค้าอุปโภคบริโภคแพงมากขึ้น. รายได้ลดลง และถูกชาวจีนและธุรกิจจีนเข้ามาแย่งงานแย่งธุรกิจโดยง่าย. ไม่มีนโยบายอละกฎหมายห้ามปราม ไม่พยายามยับยั้งแต่กลับเอื้อให้ชาวจีนเข้ามาทำลายตลาดการค้าในประเทศเรา. การทำตลาดของจีนอย่างที่ทราบคือการทุ่มตลาด ตัดราคาคู่แข่ง ผลลัพธ์การตัดราคาอาจไม่ส่งผลส่งผลต่อผู้บริโภคที่จะได้ของคุณภาพกลาง-ต่ำราคาถูกลง ตามต้นทุนราคา. แต่ยังส่งผลต่อแรงงานในทุกภาคส่วนที่ตกงาน. โดนแย่งงาน อาทิ เจ้าหน้าที่ขนส่งสีเหลืองจำนวนมาก โดนกดค่าแรงจนอยู่ไม่ได้ และอื่นๆอย่างที่ลึกๆทุกคนทราบดี.  ประเด็นไม่ใช่คนไทยไม่ขยันหรือหางานดีๆทำ. แต่เมื่อได้ทำงานแล้วนโยบายจากภาครัฐเอื้อให้คนชนขั้นกลางและภาคแรงงานมีรายได้ลดลง ให้ทุนต่างชาติกอบโกยทรัพยากรและเงินทองจากประเทศ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ด้วยเหตุดังกล่าว

ประชาชนสามารถยับยั้ง หยุดยั้ง การทำงานที่ส่งผลร้ายต่อประเทศ ด้วยการฟ้องร้องรัฐบาลหรือคณะรัฐบาล หรือนยกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบ ชดใช้และผลักดันให้เกิดนโยบายการค้าที่เป็นธรรมได้หรือไม่ ???

ปล. คนจีนแตกต่างจากคนชาติอื่นที่เข้ามาในประเทศไทย. คนญี่ปุ่น คนมาเลเซีย คนสิงค์โปร์ คนอินเดีย คนอเมริกา คนเหล่านี้ ไม่ค้าขายตัดราคาและไม่ทุ่มตลาด. ทุกคนทำการค้าอย่างมีคุณภาพโดยใช้นโยบายดึงดูดลูกค้า. ไม่ทำให้วงจรการตลาดเสียหาย. แต่คนจีนไม่ใช่ ใช้วิธี ทุ่มตลาดตัดราคา. คุณทนได้ทนไป ใครเงินหมดกระเป๋าก่อนก็แพ้ และล้มพังพินาศเหมือนอุตสาหกรรมต่างๆในไทย

รบกวนทุกท่านแสดงความเห็นและผลักดันแนวคิดนี้ทีครับ

ขอบพระคุณมากครับ

ปลล. ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่พอมีฐานะ. อาจไม่ได้โดนกระทบเท่าคนอื่น. แต่คาดว่านโยบายรัฐบาลตอนนี้. จะปลูกฝังรากสภาวะทางเศรษฐกิจที่ชั่วร้ายให้ช่องว่างทางสังคมยิ่งกว้างจนคนยากคนจนหรือคนชนขั้นกลางโงหัวไม่ขึ้น และลูกหลานในอนาคตจะมีชีวิตความเป็นอยู่ยากขึ้นกว่าเดิมครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่