ตระเตรียม ไตร่ตรอง ก่อนต่อเติมบ้าน-อาคาร คอนโด

บ้านหรืออาคารที่เราใช้พักอาศัยอาจเหมาะสม ณ ช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาคารที่พักอาจจะทรุดโทรมลงตามกาลเวลาหรือจำนวนสมาชิกของครอบครัวมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น การซ่อมแซมหรือปรับปรุง เพื่อขยับขยายบ้านพักอาศัยให้เหมาะสมย่อมเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งนี้ ผู้บริโภคจะต้องคิดคำนวณและไตร่ตรองถึงความจำเป็นประกอบกับงบประมาณที่ตนมีหรือที่ตั้งไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจปรึกษากับผู้รับจ้างต่อเติมอาคาร นอกจากนี้แล้ว ถ้าที่พักนั้นอยู่ในโครงการฯ จะต้องแจ้งนิติบุคคลผู้ดูแลสถานที่ให้ทราบแล้วจึงแจ้งและยื่นแบบขออนุญาตก่อสร้างต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นเพื่อพิจารณาขออนุญาตตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามขั้นตอนสำคัญและส่งผลให้เกิดปัญหาชวนปวดหัวอย่างมาก คือ การเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง เพราะผู้รับเหมานอกจากจะต้องเป็นช่างที่มีคุณภาพ ดำเนินการภายใต้งบประมาณที่เจรจาตกลงกันไว้แล้ว ความรับผิดชอบภายหลังการก่อสร้างต่อเติมก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจึงได้ออกประกาศ ให้ธุรกิจการให้บริการต่อเติมอาคารเพื่อการอยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน  พ.ศ. 2566 ซึ่งมีสาระสำคัญพอสรุปได้ดังนี้

      1) ต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบธุรกิจ ผู้บริโภค และการต่อเติม  อาคาร
      2) หากผู้ประกอบธุรกิจไม่ต่อเติมอาคารภายในกำหนดเวลาตกลงกันไว้ หรือต่อเติมอาคารล่าช้าโดยมิใช่ความผิดของผู้บริโภคตามที่ตกลงกันไว้ ผู้บริโภคมีสิทธิบอกเลิกสัญญา
      3) กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่ดำเนินการแก้ไขความชำรุดบกพร่องตามบริโภคได้แจ้งไว้ หรือแก้ไขล่าช้า ผู้บริโภคมีสิทธิบอกเลิกสัญญา
      4) ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดทำหลักฐานการรับเงินที่มีรายละเอียดที่สำคัญและจำเป็นตามที่กำหนดในประกาศฯ และส่งมอบให้แก่ผู้บริโภคทันทีที่ได้รับการรับบริการ

ทั้งนี้ ควรอ่านสัญญาให้เข้าใจ ไม่เข้าใจให้สอบถามก่อนลงนาม หากถูกเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าหรือบริการ สามารถร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางสายด่วน สคบ. 1166 หรือทางระบบร้องทุกข์ออนไลน์หรือแอปพลิเคชัน OCPB Connect สามารถพูดคุยสอบถามกับ Chat Bot พี่ปกป้องได้
24 ชั่วโมง หรือต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่