ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ยุค “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างสมบูรณ์ จำนวนผู้สูงอายุมากขึ้นทำให้ธุรกิจให้บริการดูแลผู้สูงอายุเติบโตและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ สคบ. ได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา พ.ศ.2559 เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ คนทุพพลภาพ และผู้ป่วยตามสถานที่อยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา เพื่อควบคุมดูแลธุรกิจนี้ให้มีมาตรฐานทั้งเงื่อนไขการให้บริการ สถานที่และบุคลากร ที่จะมาดูแลคนที่เรารักให้ดีและมีประสิทธิภาพ ธุรกิจนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นธุรกิจที่ได้มาตรฐาน มีความรับผิดชอบเพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัยและคุณภาพของชีวิตของคนที่เรารัก พนักงานหรือผู้ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุนั้นที่จะต้องมีความรู้ มีความสามารถ ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี
เนื่องจากธุรกิจการให้บริการดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ คนทุพพลภาพและผู้ป่วยตามสถานที่อยู่อาศัย
เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา ดังนั้นจะต้องมีรายละเอียดในสัญญาที่จะต้องระบุ ดังนี้
1). ข้อมูลรายละเอียดของผู้ประกอบธุรกิจ เช่น ชื่อพร้อมเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่
ของผู้ประกอบธุรกิจ
2). ข้อมูลพนักงานบริการ เช่น ชื่อ ที่อยู่ สัญชาติ อายุ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน
ความประพฤติประวัติกระทำความผิด
3). รายละเอียดประเภท และขอบเขตงานที่ให้บริการ วันเริ่มต้นและสิ้นสุดการทำงาน
วันหยุดของพนักงาน การทำงานล่วงเวลา เป็นต้น
4). อัตราค่าบริการ (ค่าบริการล่วงหน้า ค่าทำงานล่วงเวลา) รวมถึงเงื่อนไขวิธีการชำระเงิน
5). สิทธิในการเปลี่ยนแปลงพนักงานและสิทธิในการบอกเลิกสัญญาทั้งของผู้ประกอบธุรกิจ
และผู้บริโภค
ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้ให้บริการต้องจัดทำหนังสือสัญญา โดยการระบุรายละเอียดและเงื่อนไขตามที่คณะกรรมการว่าด้วยสัญญากำหนด ผู้บริโภคที่ตัดสินใจจะใช้บริการก็ต้องศึกษารายละเอียดในสัญญาอย่างรอบคอบ ไม่เข้าใจตรงส่วนใดให้สอบถามก่อนลงนามในสัญญาเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดในภายหลังได้ ควรหาข้อมูลในเบื้องต้นก่อนว่าผู้ให้บริการรายใดมีประวัติหรือการร้องเรียนหรือไม่ หากผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถไปร้องเรียนได้ที่ สคบ.สายด่วน 1166 หรือแอปพลิเคชั่น OCPB Connect
เช็คให้ชัวร์ ก่อนใช้บริการ “ศูนย์บริการดูแลผู้สูงอายุ” ธุรกิจควบคุมสัญญา
เนื่องจากธุรกิจการให้บริการดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ คนทุพพลภาพและผู้ป่วยตามสถานที่อยู่อาศัย
เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา ดังนั้นจะต้องมีรายละเอียดในสัญญาที่จะต้องระบุ ดังนี้
1). ข้อมูลรายละเอียดของผู้ประกอบธุรกิจ เช่น ชื่อพร้อมเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่
ของผู้ประกอบธุรกิจ
2). ข้อมูลพนักงานบริการ เช่น ชื่อ ที่อยู่ สัญชาติ อายุ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน
ความประพฤติประวัติกระทำความผิด
3). รายละเอียดประเภท และขอบเขตงานที่ให้บริการ วันเริ่มต้นและสิ้นสุดการทำงาน
วันหยุดของพนักงาน การทำงานล่วงเวลา เป็นต้น
4). อัตราค่าบริการ (ค่าบริการล่วงหน้า ค่าทำงานล่วงเวลา) รวมถึงเงื่อนไขวิธีการชำระเงิน
5). สิทธิในการเปลี่ยนแปลงพนักงานและสิทธิในการบอกเลิกสัญญาทั้งของผู้ประกอบธุรกิจ
และผู้บริโภค
ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้ให้บริการต้องจัดทำหนังสือสัญญา โดยการระบุรายละเอียดและเงื่อนไขตามที่คณะกรรมการว่าด้วยสัญญากำหนด ผู้บริโภคที่ตัดสินใจจะใช้บริการก็ต้องศึกษารายละเอียดในสัญญาอย่างรอบคอบ ไม่เข้าใจตรงส่วนใดให้สอบถามก่อนลงนามในสัญญาเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดในภายหลังได้ ควรหาข้อมูลในเบื้องต้นก่อนว่าผู้ให้บริการรายใดมีประวัติหรือการร้องเรียนหรือไม่ หากผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถไปร้องเรียนได้ที่ สคบ.สายด่วน 1166 หรือแอปพลิเคชั่น OCPB Connect