นักบาสหลายคนอาจได้เงินมากมายจากสัญญาระดับ supermax เเต่รายรับจริงหลังหักค่าใช้จ่ายเหลือไม่ถึงครึ่งเช่น Jayson Tatum ที่เพิ่งได้ 5 ปี/$315 ล้าน

รายจ่ายของนักบาส NBA มีดังนี้:

1. ภาษีระดับรัฐบาลกลาง (federal tax):
จัดเก็บทั้ง 52 รัฐ มีอัตราสูงสุดที่ 37% สําหรับผู้เล่นที่สังกัดทีมในอเมริกา

ในขณะที่ผู้เล่นของ Raptors ต้องจ่ายเงินส่วนนี้ให้รัฐบาลเเคนาดา 33%

2. ภาษีระดับรัฐ (state tax):
มีอัตราที่เเตกต่างกัน บางรัฐไม่มีภาษีรายได้เช่น Texas, Florida, Tennessee ในขณะที่เเคลิฟอร์เนียเก็บเเพงกว่าเพื่อน

Heat, Magic, Spurs, Dallas, Rockets เเละทีมหมีได้เปรียบตรงเสนอเงินในสัญญาใหม่ให้ free agents น้อยกว่าทีมอื่นเพราะไม่มีภาษีทําให้ช่วยประหยัดเเคปไปในตัวด้วย

สาเหตุนึงที่ Klay Thompson เมิน Lakers เพราะเรื่องนี้ด้วย เขาไม่อยากจ่ายภาษีให้รัฐเเคลิฟอร์เนียอีก

3. Jock tax: 
บางรัฐเก็บภาษีจากนักกีฬาต่างรัฐที่เดินทางมาเเข่งโดยคํานวณเเบบรายวันตั้งเเต่วันที่บินมาจนถึงบินกลับ

4. FICA & Medicare: 
เป็นค่าประกันสังคมเเละประกันสุขภาพตอนเเก่ชรา

5. ค่านายหน้า & escrow:
NBA กําหนดว่าค่านายหน้าต้องไม่เกิน 4% ของมูลค่าสัญญา อีกทั้งมีค่าบริการรับฝากเงิน

กรณีของ Tatum เลยมีรายจ่ายต่อปีดังนี้:

ภาษีรัฐบาลกลาง & รัฐเเมสซาซูเซตส์ ➡️ $23.2 ล้าน
ภาษียามไปเเข่งต่างรัฐ ➡️ $4.7 ล้าน
ภาษีประกันสังคม & สุขภาพ ➡️ $1.4 ล้าน
ค่านายหน้าให้เอเยนต์ & escrow ➡️ $8.1 ล้าน

รายรับจริง (net income) เหลือ $25.2 ล้านจากทั้งหมด $62.8 ล้าน

Credit: Fadeaway World