JJNY : กมธ.ดันรบ.ลงนาม ILO│‘นิติพล‘ถามควรมีโซนค้าสัตว์เลี้ยงหรือไม่│บาทวันนี้แข็งค่า│นาโตเดินหน้าพัฒนาคลังแสงนิวเคลียร์

กมธ.แรงงาน ผลักดันรัฐบาลลงนามอนุสัญญา ILO
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_731638/
 
 
กมธ.แรงงาน ผลักดันรัฐบาลลงนามอนุสัญญา ILO ให้แรงงานมีสิทธิรวมตัว-ต่อรอง ชี้เป็นก้าวสำคัญยกระดับสิทธิแรงงาน รัฐบาลควรทำเร่งด่วน
 
นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี เขต 7 พรรคก้าวไกล เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมาธิการแรงงาน กล่าวว่า การประชุม (12 มิย.67) มีวาระหนึ่งที่น่าสนใจ คือการขอความสนับสนุนให้รัฐบาลไทยผลักดันการลงนามให้สัตยาบันในอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO ซึ่งไทยเป็นประเทศสมาชิกอยู่ ฉบับที่ 87 และ 98
 
อนุสัญญาทั้งสองฉบับมีความสำคัญ ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคม และ คุ้มครองสิทธิในการรวมตัว (ฉบับที่ 87) และ สิทธิในการเจรจาต่อรองร่วม (ฉบับที่ 98) มีขึ้นตั้งแต่ ปี 1948 และ 1949 ตามลำดับ หรือมากว่า 70 ปีแล้ว แต่ประเทศไทยยังไม่ได้รับรองเรื่องดังกล่าว บางรัฐบาลบอกว่าจะลงนาม แล้วก็ตั้งกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อไปศึกษาผลดีผลเสีย จากนั้นก็เงียบหายไป การลงสัตยาบันทั้ง 2 ฉบับจึงอยู่ในข้อเรียกร้องของพี่น้องขบวนการแรงงานไทยมาตลอดหลายสิบปี โดยเฉพาะข้อเรียกร้องในวันแรงงาน จนถึงวันนี้ ตนไม่คิดว่าจะต้องศึกษากันอีกแล้ว
 
นายสหัสวัต ยังอธิบายว่า อนุสัญญาฉบับที่ 87 นั้น ให้ความสำคัญกับการรวมกลุ่มรวมตัว เพื่อนำไปสู่อำนาจในการต่อรองในฉบับที่ 98 ซึ่งจะต้องมาควบคู่กัน จะรับหนึ่งฉบับ ไม่รับหนึ่งฉบับนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง เพราะแรงงานจะรวมตัวกันเพื่ออะไร หากไม่ใช่เพื่อต่อรอง และแรงงานจะเอาอำนาจที่ไหนมาต่อรองหากไม่มีการรวมตัว ตนจึงขอยืนยันว่าสิทธิการรวมตัวและสิทธิการต่อรอง เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ไม่ใช่แค่สิทธิแรงงานด้วยซ้ำ สวัสดิการ ค่าแรง เวลาทำงาน วันหยุดและคุณภาพในการทำงานที่ดีขึ้น เรื่องเหล่านี้ล้วนได้มาจากการรวมตัวและการต่อรองของพี่น้องแรงงานที่ทำข้อเสนอทุกปี ๆ ทั้งสิ้น
 
ทั้งนี้ การลงสัตยาบันในอนุสัญญาทั้งสองฉบับเป็นเรื่องที่ต้องทำทันที เพื่อเป็นการรับรองสิทธิที่แรงงานทุกคนควรจะมีจะได้ ขบวนการแรงงานไทยถูกแช่แข็งมายาวนาน ในฐานะกรรมาธิการการแรงงาน ผมจะผลักดันเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถ หวังว่าหากสามารถลงสัตยาบันในอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับได้ จะเป็นบันไดขั้นสำคัญในการขยับสิทธิแรงงาน เพิ่มความแข็งแรงให้กับขบวนการแรงงาน จึงขอส่งเสียงไปยังรัฐบาลว่าหากต้องการยกระดับสิทธิและคุณภาพชีวิตของพี่น้องแรงงาน การให้สัตยาบันอนุสัญญา 2 ฉบับนี้ เป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน
 
ขณะเดียวกัน สส.ชลบุรี ยังแสดงความกังวลต่อดิสรัปชันในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ล่าสุดโรงงานผลิตยานยนต์หลายแห่งเตรียมปิดกิจกรรม ย้ายฐานการผลิต เนื่องจากการมาของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ผนวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูง ตนอยากเห็นประเทศไทยเข้าร่วมอนุสัญญา ILO เพื่อการกำกับดูแลในส่วนของสิทธิต่อรอง หากมีการเลิกจ้างหรือลอยแพแรงงานเกิดขึ้น จะเป็นการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของแรงงานไทย ให้ได้รับการดูแลที่ดียิ่งขึ้น
 
โดยเฉพาะตอนนี้ ที่ไทยกำลังเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ให้ความสำคัญเรื่องการคุ้มครองสิทธิแรงงาน เป็นจังหวะอันดีที่เราจะให้สัตยาบันในอนุสัญญาทั้งสองฉบับ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของ EU และเป็นการยืนยันว่าไทยพร้อมในทุกมิติในการดำเนินการ FTA กับสหภาพยุโรป สร้างความสง่างาม ความมั่นใจในการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชน
 

 
‘นิติพล‘ถามจตุจักรควรมีโซนค้าสัตว์เลี้ยงต่อหรือไม่-แนะเข้มงวดหากกลับมาเปิด
https://www.dailynews.co.th/news/3529532/

‘นิติพล ก้าวไกล‘ตั้งคำถามโครงสร้างสถานที่-มาตรการรับมือไฟไหม้ โซนขายสัตว์เลี้ยงตลาดจตุจักรมีความเหมาะสมหรือไม่ ติงที่ผ่านมาไต่เส้นค้าสัตว์ผิดกฎหมาย แนะถ้ากลับมาเปิดต้องเข้มงวดกว่านี้

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีเพลิงไหม้โซนขายสัตว์เลี้ยงตลาดนัดจตุจักร ว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง ทั้งต่อความสูญเสียของผู้ประกอบการและสัตว์เลี้ยงจำนวนมากที่ช่วยเหลือออกมาไม่ทัน แต่จากความน่าสลดของเหตุการณ์ครั้งนี้ คิดว่าเราจำเป็นต้องตั้งคำถามจริง ๆ ถึงหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย
 
นายนิติพล กล่าวว่า ทุกคนรู้ดีว่าโซนขายสัตว์เลี้ยงในตลาดจตุจักรเป็นแหล่งสัตว์เลี้ยงทุกชนิด ตั้งแต่พื้นฐานที่สุดไปจนถึงสัตว์ประเภท exotic ที่มีราคาแพงและหายาก และบางครั้งผู้ประกอบการบางรายไต่เส้นของกฎหมายไปถึงขั้นขายสัตว์ต้องห้ามด้วยซ้ำ นี่เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นกับตลาดจตุจักรมาเป็นเวลานานแล้ว
 
นายนิติพล กล่าวอีกว่า คำถามตัวโตๆ ประการต่อมา คือความเหมาะสมของโครงสร้างสถานที่ และมาตรการรับมือกับเหตุเพลิงไหม้ เป็นที่น่าตั้งคำถามว่ามาตรการรับมืออัคคีภัยของตลาดมีความเหมาะสมดีแค่ไหน โครงสร้างอาคาร รวมทั้งระบบไฟฟ้า ทางเข้าทางออก ทางฉุกเฉิน อุปกรณ์ดับเพลิง มีความทันสมัยแค่ไหน
 
อีกนัยหนึ่ง คำถามก็คือสภาพโครงสร้างของอาคารและสถานที่เหมาะสมหรือไม่กับการเป็นสถานที่เก็บและขายสัตว์เลี้ยงแบบนี้ มาตรการการเก็บ การดูแล เคลื่อนย้ายสัตว์ เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่ หรือที่ผ่านมาอยู่ในสภาพเอาหูไปนาเอาตาไปไร่พอ ๆ กับการไต่เส้นค้าขายสัตว์ผิดกฎหมายอย่างที่เป็นมาตลอด” นายนิติพลกล่าว
 
สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า ตนไม่ทราบว่าในอนาคตโซนสัตว์เลี้ยงของตลาดจตุจักรจะเป็นอย่างไรต่อ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือจะกลับมาเปิดดำเนินการต่อ แต่หวังว่าถ้ากลับมาดำเนินการอีกในอนาคต มาตรการทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างเข้มงวดมากกว่านี้ รวมทั้งระบบการป้องกันภัยและการอพยพที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ การออกแบบโครงสร้างอาคารใหม่ต้องเอื้อต่อการป้องกันอัคคีภัยมากกว่านี้
 
นายนิติพล กล่าวต่อไปว่า แต่อีกใจลึก ๆ ตนตั้งคำถามถึงสังคมตัวโต ๆ ว่าเรายังควรมีสถานที่ค้าสัตว์แบบโซนสัตว์เลี้ยงจตุจักรต่อไปหรือไม่ ถ้าจะมีการค้าสัตว์จริง ๆ ควรเป็นสถานที่ที่พวกเขามีพื้นที่มากพอให้ได้ขยับเนื้อขยับตัวโดยไม่แออัดเกินไปหรือไม่ ควรเป็นพื้นที่ที่เปิดโล่งถูกสุขอนามัยกว่านี้หรือไม่ ควรเป็นสถานที่ที่พวกเขาได้รับการเก็บรักษา เคลื่อนย้าย และดูแลอย่างมีจรรยาบรรณมากกว่านี้หรือไม่ ความสุขของเรากำลังเป็นความทุกข์ของพวกเขาหรือไม่.



ค่าเงินบาทวันนี้ แข็งค่า 36.58 บาท เฟดคงดอกเบี้ย มีโอกาสลด 1 ครั้ง
https://www.dailynews.co.th/news/3530083/

ค่าเงินบาทวันนี้ 13 มิ.ย. เปิดตลาดแตะระดับ 36.58 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นสอดคล้องทิศทางสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค หลังจากเฟดมีมติคงดอกเบี้ย 2.25-5.50% และมีโอกาสลดดอกเบี้ยลง 1 ครั้งปีนี้

วันที่ 13 มิ.ย. น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.58-36.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (8.48 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.69 บาทต่อดอลลาร์ฯ
 
โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ถูกกดดันจากการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ โดยเฉพาะตั้งแต่ในช่วงหลังการเปิดเผยตัวเลข CPI เดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งอ่อนแอกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด (CPI สหรัฐฯ เพิ่ม 3.3% YoY ตลาดคาดที่ 3.4% ขณะที่ Core CPI เพิ่ม 3.4% YoY ตลาดคาดที่ 3.5%)
 
ทั้งนี้ Sentiment ของเงินดอลลาร์ฯ ไม่ได้ฟื้นกลับมามากนัก แม้เฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมที่กรอบ 5.25-5.50% และมีการปรับเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อทิศทางดอกเบี้ยนโยบายผ่าน dot plot มาสะท้อนโอกาสการลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ และปรับทบทวนตัวเลขประมาณการเงินเฟ้อในปีนี้ขึ้นจากคาดการณ์เดิมก็ตาม
 
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.50-36.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ การตอบรับของตลาดต่อผลการประชุมเฟด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่