แนวคิดของความสุขและการมีชีวิตที่ยังหวังสบายสุขได้ แต่ด้วยใจมีสำนึกและด้วยสติปฎิบัติ บางคนก็มองความรวยเพียงแค่เปลือกคนใช้เงินว่ามีความรวย แต่เขาจะรวยจริง พอจะมีทุนมากหรือเปล่า หรือเขาก็ใช้เงินด้วยความกังวลว่าเงินใกล้หมด หรือกำลังจะลำบากหาเงินใช้อีกมาก แต่คนก็ไม่ควรงกเกินไป เพื่อที่จะออมแต่เงิน แต่ก็ไม่ควรละเลยการออมเงินไว้ใช้ตอนที่วัยตัวเอง เหนื่อยใกล้ตาย หรือถ้ามีคนตกทุกข์ได้ยากหรือเขากำลังยากลำบากเข้ามาขอความช่วยเหลือ เราก็มีเงินที่พอจะช่วยเขาได้พร้อมซึ่งก็มีมากในสังคมตอนนี้ เพื่อยังสามารถมีเงินใช้ประทังชีวิตได้นานๆ แต่ก็คงพิจรณาตามความเหมาะสม ส่วนผมก็คิดว่า แม้เป็นคนหารายได้ มีรายได้ แต่ชีวิตก็ควรมีเงินออมได้บ้าง และใช้ชีวิตเพื่อการออม มากกว่าการมีแนวคิดการใช้เงิน แต่กำลังจะพัฒนาตัวเองด้วยจิตสำนึกใหม่ เรื่องเงินและการทำงาน การอุปโภคบริโภค รวมถึงฝึกสติปฎิบัติ มีใครมีแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องการออมเงิน การใช้เงิน การทำงานอย่างไรบ้าง มาเล่าประสบการณ์ว่าทำได้หรือทำไม่ได้เลยครับ ผมมีอาชีพ เป็นนักเขียน คนขายของในกลุ่มเฟสบุ๊ค และอาชีพเก็งกำไรในตลาดหุ้นก็พอจะมีรายได้บางครั้งก็ได้คล่อง ในตลาดขายของแต่ก็ต้องเสียเงินลงทุน ซึ่งบางครั้ง การขายก็ได้กำไร บางครั้งก็ขาดทุน จนผมเริ่มคิดว่า การลงทุนซื้อของ มาให้คนอื่นแต่ขายได้กำไรบ้างขาดทุนบ้าง ก็ยังคงไม่ค่อยน่าสนใจ และทำให้เงินไม่ค่อยได้นำมาใช้อุปโภคบริโภคเอง แต่ก็พอมีอาชีพเก็งกำไร ในตลาดหุ้น ที่ยังคงมีเงินออม และก็ยังคงได้กำไรบ้าง ไม่ได้กำไรบ้าง ส่วนอาชีพนักเขียน ก็ได้เงินรายได้ ทั้งจากผลงานที่เขียนเอง มาตั้งแต่ปี 2558 เรื่อยมา เป็นอาชีพที่ทำให้มีPassive Income โดยเฉพาะผลงาน ที่ประพันธ์แล้วลงทุนจ้างนักเขียนฟรีแลนซ์ฝีมือดีเขียนให้ ก็เป็นผลงานที่ขายได้ดี และคืนทุนมาได้ทั้งหมดแล้ว เหลือในช่วงโอกาสหน้าหากมียอดขาย ก็คือกำไรไปเรื่อยๆ จึงเป็นอาชีพที่ ทำให้มีทั้งเงินใช้อุปโภค บริโภค และเป็นเงินออม เงินสำหรับลงทุนในตลาดหุ้นต่อได้อีก ผมขายอีบุ๊กที่เขียนเองและลงทุนจ้างนักเขียนฟรีแลนซ์ที่ เมพ โมบาย อีบุ๊กเป็นหลักครับ วันนี้เลยอยากมีแชร์ประสบการณ์อาชีพ การหารายได้และการออมเงินลงทุน เผื่อมีใครอยากเล่าประสบการณ์คิดทบทวนตั้งสติ ในเรื่องการเงินในช่วงนี้ครับ ก็เชิญเล่าสู่กันฟัง เพื่อความสุขในการออมมากขึ้นได้ครับ