"ข้อแนะนำจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด 📚
ชีวิตจะมีความสุขมากขึ้นด้วยอุปนิสัย 20 ข้อ"
อุปนิสัย 20 ข้อต่อไปนี้
ฝึกฝนให้กลายเป็นนิสัยประจำตัวรับรองชีวิตจะมีความสุขเพิ่มมากขึ้นแน่นอน
1/ รู้จักสำนึกบุญคุณ
ผ่อนฝีเท้าให้ช้าลง มองดูสรรพสิ่งที่เราสัมผัส
รับรู้ถึงทุกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆรอบตัวเรา
ดอกไม้ริมทางข้างฟุตบาท ดวงอาทิตย์ยามอัศดง
ปล่อยวางกับความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน
ชื่นชมกับรอยยิ้มจากคู่ชีวิต จากผู้คนรอบตัว
เมื่อมีจิตใจที่รู้จักสำนึกถึงความดีงามต่างๆในชีวิตเรา ความรู้สึกดีๆย่อมเกิดขึ้นได้เองอย่างไม่ยากเย็น
2/ เลือกคบผู้คนอย่างชาญฉลาด
ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อความสุข
คือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันหากอยากเป็นผู้ที่มีความสุข จงเลือกอยู่กับคนที่รู้จักมองโลกในแง่ดีคนที่ชื่นชมในตัวตนของเรา คนที่สามารถทำให้เรามีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นชีวิตเราก็จะมีความสุขและมีความหมายมากยิ่งๆขึ้น
3/ ปลูกฝังความมีเมตตาจิต
จงพยายามเข้าใจสถานการณ์ของคนอื่น
ด้วยความเข้าใจและมุมมองที่มองจากสถานะของเขาบ้าง แทนที่จะมองจากมุมของเราเพียงอย่างเดียว จะทำให้เกิดความเข้าใจที่ดีขึ้น ความเห็นใจที่มากขึ้น จะช่วยให้สามารถแก้ไขและจัดการปัญหาด้วยสติได้มากขึ้น เมื่อความขุ่นข้องหมองใจน้อยลง ความสุขย่อมมีมากขึ้น
4/ ศึกษาอย่างไม่หยุดหย่อน
การศึกษาจะทำให้เรารู้สึกอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
ชีวิตจะเปี่ยมไปด้วยพลังและความฝันที่ไม่หลับใหล
การฝึกฝนสมองอย่างสม่ำเสมอ
ก็ย่อมจะไม่มีพื้นที่สำหรับความทุกข์ใจ
แนวโน้มที่จะมีความสุขอย่างมีสติย่อมมีมากขึ้น
5/ รู้จักแก้ปัญหา
คนที่มีจิตใจเบิกบานมักจะเป็นคนรู้จักแก้ปัญหา
เวลาเจอสิ่งท้าทาย มักไม่ยอมแพ้แต่จะกลายเป็นความมุ่งมั่นรู้จักหาวิธีในการแก้ปัญหาจนทุกอย่างสามารถผ่านพ้นไปด้วยดีแน่นอนที่สุด เราก็จะกลายเป็นคนมีความสุขที่มีความมั่นใจและไม่ย่อท้อ
6/ ทำในสิ่งที่รักที่ชอบ
เศษหนึ่งส่วนสามของชีวิตเรามักอยู่กับงานจงหางานที่เราอยากทำแต่หากไม่สามารถหางานที่เราปราถนา
ก็จงรู้จักหาความสุขจากงานนั้นๆให้ได้
7/ จงอยู่กับปัจจุบัน
หากรู้สึกหดหู่ นั่นเพราะเราอยู่กับอดีตหากรู้สึกกังวล นั่นเพราะเราอยู่กับอนาคตแต่หากเรารู้สึกพอใจ เบิกบาน สงบ นั่นเพราะเรากำลังอยู่กับปัจจุบัน
8/ หัวเราะบ่อยๆ
หัวเราะเป็นอาวุธทำลายล้างความหดหู่
เผยอปากยิ้มสักนิด ก็มีความสุขเพิ่มขึ้นแล้ว
อย่าเห็นชีวิตเป็นเรื่องเคร่งขรึมเศร้าหมองจนเกินเหตุ
พยายามสร้างรอยยิ้ม สร้างอารมณ์ขันกับความเป็นอยู่ทุกวัน
9/ รู้จักให้อภัย
ความเกลียดชังและความโกรธคือการลงโทษตัวเอง การรู้จักให้อภัยตนเอง เท่ากับเรากำลังเมตตาต่อตัวเราเอง และอย่าลืมรู้จักการให้อภัยต่อคนอื่นด้วย ทุกๆคนมีโอกาสทำผิดทำพลาดกันได้ทั้งนั้น จงรู้จักฝึกฝนตนเองให้แข็งแกร่งจากความผิดพลาดที่ผ่านมา
10/ รู้จักขอบคุณ
รู้จักชื่นชมกับความดีงามในชีวิตตัวเราเอง
และขอบคุณกับสิ่งดีๆที่ผู้อื่นยื่นให้เรา ที่ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้น ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็กแค่ไหน จงขอบคุณคนเหล่านั้นให้ครบถ้วน ทุกๆการกระทำของพวกเขา
11/ สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งๆขี้น
กับคนที่มีคุณค่า จงพยายามคบหาให้ลึกซึ้งยิ่งๆขี้น
มันจะช่วยให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
การแสดงออกอย่างชัดเจนและการรับฟังอย่างใส่ใจ
จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ลุ่มลึกมากขึ้นต่อกันทุกๆครั้ง มันจะช่วยนำความสุขมาสู่ตัวเรา และผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย
12/ รักษาคำพูด
การสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง
คือการรู้จักรักษาคำมั่นสัญญาที่เราให้ไว้
ศักดิ์ศรีเหล่านี้ย่อมนำมาซึ่งความภูมิใจและความสุขแก่ตัวเรา ต้องรู้จักรักษาคำพูด ทั้งกับตนเองและกับผู้อื่น
13/ นั่งสมาธิ
จากการวิจัยของฮาร์วาร์ดยืนยันว่า
คนที่ฝึกนั่งสมาธิจำนวน 8 ครั้งขึ้นไป
จะมีความสุขมากกว่าคนทั่วไป 20 เปอร์เซ็นต์
การฝึกฝนลักษณะนี้ทำให้สมองมีการพัฒนาในทางบวกมีความสำคัญต่อการศึกษาและฝึกความจำ
จะทำให้รู้จักตนเอง ความเห็นอกเห็นใจ และรู้จักคิดทบทวนอยู่เสมอ
14/ มีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำ
อีกหนึ่งการศึกษาของฮาร์วาร์ดค้นพบว่า
เมื่อเรามีสมาธิเต็มที่กับสิ่งที่กำลังทำ
เราจะอยู่ในสภาวะแห่งความสุขอย่างไม่รู้ตัว
เมื่ออยู่ในสภาวะดังกล่าวเราจะไม่สนใจกับสายตาชาวบ้านที่มองเราแบบผ่านๆจะไม่ถูกรบกวนโดยเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องความสุขใจจะเกิดขึ้นด้วยตัวมันเอง
15/ มองโลกในแง่ดี
คนที่มองโลกในแง่ดี น้ำไม่เคยเต็มแก้ว
เมื่อเจอสิ่งท้าทาย หากคิดว่าสิ่งเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น ลองเปลี่ยนวิธีคิดสักนิดจงบอกตัวเองว่า อย่างน้อยเราจะได้เรียนรู้จากปัญหาเหล่านั้นการมองโลกในแง่ดี เป็นบ่อเกิดของความสำเร็จและความสุข
16/ รักแบบไม่มีเงื่อนไข
ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าตัวเราเองหรือผู้อื่น
เราควรที่จะมีความคิดแบบนี้กับตัวเราเองและคนอื่นด้วยการรักใครแบบไม่มีเงื่อนไขไม่ใช่ว่าเราต้องทุ่มเทเวลาหรือช่วยแก้ปัญหาให้พวกเขาความรักแบบไม่มีเงื่อนไขคือยอมรับในแบบฉบับที่เขาเป็นและปล่อยให้พวกเขาค้นหาหนทางและตัวตนของเขาให้เจอก็พอ
17/ ไม่ยอมแพ้
อะไรที่ยังไม่สำเร็จ แม้กำลังใจอาจจะหดหายไปบ้าง
แต่หากตั้งใจทำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง สุดท้ายทุกอย่างมักจะลุล่วงไปด้วยดีก่อนจะพบคำว่สำเร็จ ต้องไม่มีคำว่ายอมแพ้เด็ดขาด จงจำไว้ ความพ่ายแพ้เป็นเรื่องชั่วคราวแต่การยอมแพ้เป็นเรื่องจีรังความพ่ายแพ้จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเราถอดใจยอมแพ้เท่านั้น
18/ ทำดีที่สุดแล้วก็พอ
ทุกอย่างมีขีดจำกัดแม้เราจะพยายามดีที่สุดแล้ว
แต่ก็อาจจะไม่ได้ดั่งใจจงทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เมื่อเราได้ทำดีที่สุดแล้ว จบก็คือจบ ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
19/ ดูแลตัวเองให้ดี
สุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของทุกคนสุขภาพที่ย่ำแย่ ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน มักหาความสุขลำบากรู้จักเข้าหาโภชนาการที่ถูกหลัก ฝึกฝนร่างกายอย่างสม่ำเสมอพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลตัวเองให้ดีทั้งกายและใจ ล้วนเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด
20/ รู้จักการให้
การทำดีย่อมดีต่อสภาพจิตใจตนเองเมื่อทำดี สมองก็จะปลอดโปร่งเหมือนเวลาที่คนอื่นชื่นชมเรา
หัวสมองจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกดีๆเหล่านั้น
เพราะฉะนั้น คนที่ใส่ใจคนอื่น มีน้ำใจต่อคนอื่น
มักมีความสุขมากกว่าคนที่ไม่รู้จักเหลียวแลคนอื่นแน่นอน
“ขจรศักดิ์”
แปลและเรียบเรียง
Ref: Harvard Research:
20 Happiness Habits
ที่มา:
https://www.facebook.com/Flintlibrary/
FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
"ข้อแนะนำจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด 📚 ชีวิตจะมีความสุขมากขึ้นด้วยอุปนิสัย 20 ข้อ"
"ข้อแนะนำจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด 📚
ชีวิตจะมีความสุขมากขึ้นด้วยอุปนิสัย 20 ข้อ"
อุปนิสัย 20 ข้อต่อไปนี้
ฝึกฝนให้กลายเป็นนิสัยประจำตัวรับรองชีวิตจะมีความสุขเพิ่มมากขึ้นแน่นอน
1/ รู้จักสำนึกบุญคุณ
ผ่อนฝีเท้าให้ช้าลง มองดูสรรพสิ่งที่เราสัมผัส
รับรู้ถึงทุกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆรอบตัวเรา
ดอกไม้ริมทางข้างฟุตบาท ดวงอาทิตย์ยามอัศดง
ปล่อยวางกับความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน
ชื่นชมกับรอยยิ้มจากคู่ชีวิต จากผู้คนรอบตัว
เมื่อมีจิตใจที่รู้จักสำนึกถึงความดีงามต่างๆในชีวิตเรา ความรู้สึกดีๆย่อมเกิดขึ้นได้เองอย่างไม่ยากเย็น
2/ เลือกคบผู้คนอย่างชาญฉลาด
ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อความสุข
คือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันหากอยากเป็นผู้ที่มีความสุข จงเลือกอยู่กับคนที่รู้จักมองโลกในแง่ดีคนที่ชื่นชมในตัวตนของเรา คนที่สามารถทำให้เรามีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นชีวิตเราก็จะมีความสุขและมีความหมายมากยิ่งๆขึ้น
3/ ปลูกฝังความมีเมตตาจิต
จงพยายามเข้าใจสถานการณ์ของคนอื่น
ด้วยความเข้าใจและมุมมองที่มองจากสถานะของเขาบ้าง แทนที่จะมองจากมุมของเราเพียงอย่างเดียว จะทำให้เกิดความเข้าใจที่ดีขึ้น ความเห็นใจที่มากขึ้น จะช่วยให้สามารถแก้ไขและจัดการปัญหาด้วยสติได้มากขึ้น เมื่อความขุ่นข้องหมองใจน้อยลง ความสุขย่อมมีมากขึ้น
4/ ศึกษาอย่างไม่หยุดหย่อน
การศึกษาจะทำให้เรารู้สึกอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
ชีวิตจะเปี่ยมไปด้วยพลังและความฝันที่ไม่หลับใหล
การฝึกฝนสมองอย่างสม่ำเสมอ
ก็ย่อมจะไม่มีพื้นที่สำหรับความทุกข์ใจ
แนวโน้มที่จะมีความสุขอย่างมีสติย่อมมีมากขึ้น
5/ รู้จักแก้ปัญหา
คนที่มีจิตใจเบิกบานมักจะเป็นคนรู้จักแก้ปัญหา
เวลาเจอสิ่งท้าทาย มักไม่ยอมแพ้แต่จะกลายเป็นความมุ่งมั่นรู้จักหาวิธีในการแก้ปัญหาจนทุกอย่างสามารถผ่านพ้นไปด้วยดีแน่นอนที่สุด เราก็จะกลายเป็นคนมีความสุขที่มีความมั่นใจและไม่ย่อท้อ
6/ ทำในสิ่งที่รักที่ชอบ
เศษหนึ่งส่วนสามของชีวิตเรามักอยู่กับงานจงหางานที่เราอยากทำแต่หากไม่สามารถหางานที่เราปราถนา
ก็จงรู้จักหาความสุขจากงานนั้นๆให้ได้
7/ จงอยู่กับปัจจุบัน
หากรู้สึกหดหู่ นั่นเพราะเราอยู่กับอดีตหากรู้สึกกังวล นั่นเพราะเราอยู่กับอนาคตแต่หากเรารู้สึกพอใจ เบิกบาน สงบ นั่นเพราะเรากำลังอยู่กับปัจจุบัน
8/ หัวเราะบ่อยๆ
หัวเราะเป็นอาวุธทำลายล้างความหดหู่
เผยอปากยิ้มสักนิด ก็มีความสุขเพิ่มขึ้นแล้ว
อย่าเห็นชีวิตเป็นเรื่องเคร่งขรึมเศร้าหมองจนเกินเหตุ
พยายามสร้างรอยยิ้ม สร้างอารมณ์ขันกับความเป็นอยู่ทุกวัน
9/ รู้จักให้อภัย
ความเกลียดชังและความโกรธคือการลงโทษตัวเอง การรู้จักให้อภัยตนเอง เท่ากับเรากำลังเมตตาต่อตัวเราเอง และอย่าลืมรู้จักการให้อภัยต่อคนอื่นด้วย ทุกๆคนมีโอกาสทำผิดทำพลาดกันได้ทั้งนั้น จงรู้จักฝึกฝนตนเองให้แข็งแกร่งจากความผิดพลาดที่ผ่านมา
10/ รู้จักขอบคุณ
รู้จักชื่นชมกับความดีงามในชีวิตตัวเราเอง
และขอบคุณกับสิ่งดีๆที่ผู้อื่นยื่นให้เรา ที่ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้น ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็กแค่ไหน จงขอบคุณคนเหล่านั้นให้ครบถ้วน ทุกๆการกระทำของพวกเขา
11/ สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งๆขี้น
กับคนที่มีคุณค่า จงพยายามคบหาให้ลึกซึ้งยิ่งๆขี้น
มันจะช่วยให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
การแสดงออกอย่างชัดเจนและการรับฟังอย่างใส่ใจ
จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ลุ่มลึกมากขึ้นต่อกันทุกๆครั้ง มันจะช่วยนำความสุขมาสู่ตัวเรา และผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย
12/ รักษาคำพูด
การสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง
คือการรู้จักรักษาคำมั่นสัญญาที่เราให้ไว้
ศักดิ์ศรีเหล่านี้ย่อมนำมาซึ่งความภูมิใจและความสุขแก่ตัวเรา ต้องรู้จักรักษาคำพูด ทั้งกับตนเองและกับผู้อื่น
13/ นั่งสมาธิ
จากการวิจัยของฮาร์วาร์ดยืนยันว่า
คนที่ฝึกนั่งสมาธิจำนวน 8 ครั้งขึ้นไป
จะมีความสุขมากกว่าคนทั่วไป 20 เปอร์เซ็นต์
การฝึกฝนลักษณะนี้ทำให้สมองมีการพัฒนาในทางบวกมีความสำคัญต่อการศึกษาและฝึกความจำ
จะทำให้รู้จักตนเอง ความเห็นอกเห็นใจ และรู้จักคิดทบทวนอยู่เสมอ
14/ มีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำ
อีกหนึ่งการศึกษาของฮาร์วาร์ดค้นพบว่า
เมื่อเรามีสมาธิเต็มที่กับสิ่งที่กำลังทำ
เราจะอยู่ในสภาวะแห่งความสุขอย่างไม่รู้ตัว
เมื่ออยู่ในสภาวะดังกล่าวเราจะไม่สนใจกับสายตาชาวบ้านที่มองเราแบบผ่านๆจะไม่ถูกรบกวนโดยเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องความสุขใจจะเกิดขึ้นด้วยตัวมันเอง
15/ มองโลกในแง่ดี
คนที่มองโลกในแง่ดี น้ำไม่เคยเต็มแก้ว
เมื่อเจอสิ่งท้าทาย หากคิดว่าสิ่งเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น ลองเปลี่ยนวิธีคิดสักนิดจงบอกตัวเองว่า อย่างน้อยเราจะได้เรียนรู้จากปัญหาเหล่านั้นการมองโลกในแง่ดี เป็นบ่อเกิดของความสำเร็จและความสุข
16/ รักแบบไม่มีเงื่อนไข
ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าตัวเราเองหรือผู้อื่น
เราควรที่จะมีความคิดแบบนี้กับตัวเราเองและคนอื่นด้วยการรักใครแบบไม่มีเงื่อนไขไม่ใช่ว่าเราต้องทุ่มเทเวลาหรือช่วยแก้ปัญหาให้พวกเขาความรักแบบไม่มีเงื่อนไขคือยอมรับในแบบฉบับที่เขาเป็นและปล่อยให้พวกเขาค้นหาหนทางและตัวตนของเขาให้เจอก็พอ
17/ ไม่ยอมแพ้
อะไรที่ยังไม่สำเร็จ แม้กำลังใจอาจจะหดหายไปบ้าง
แต่หากตั้งใจทำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง สุดท้ายทุกอย่างมักจะลุล่วงไปด้วยดีก่อนจะพบคำว่สำเร็จ ต้องไม่มีคำว่ายอมแพ้เด็ดขาด จงจำไว้ ความพ่ายแพ้เป็นเรื่องชั่วคราวแต่การยอมแพ้เป็นเรื่องจีรังความพ่ายแพ้จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเราถอดใจยอมแพ้เท่านั้น
18/ ทำดีที่สุดแล้วก็พอ
ทุกอย่างมีขีดจำกัดแม้เราจะพยายามดีที่สุดแล้ว
แต่ก็อาจจะไม่ได้ดั่งใจจงทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เมื่อเราได้ทำดีที่สุดแล้ว จบก็คือจบ ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
19/ ดูแลตัวเองให้ดี
สุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของทุกคนสุขภาพที่ย่ำแย่ ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน มักหาความสุขลำบากรู้จักเข้าหาโภชนาการที่ถูกหลัก ฝึกฝนร่างกายอย่างสม่ำเสมอพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลตัวเองให้ดีทั้งกายและใจ ล้วนเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด
20/ รู้จักการให้
การทำดีย่อมดีต่อสภาพจิตใจตนเองเมื่อทำดี สมองก็จะปลอดโปร่งเหมือนเวลาที่คนอื่นชื่นชมเรา
หัวสมองจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกดีๆเหล่านั้น
เพราะฉะนั้น คนที่ใส่ใจคนอื่น มีน้ำใจต่อคนอื่น
มักมีความสุขมากกว่าคนที่ไม่รู้จักเหลียวแลคนอื่นแน่นอน
“ขจรศักดิ์”
แปลและเรียบเรียง
Ref: Harvard Research:
20 Happiness Habits
ที่มา:https://www.facebook.com/Flintlibrary/
FB: โต๊ะป้าศรี CH Table