ในที่นี้ ไม่ใช่เจน X ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลทางความคิดแบบ babyboomers
แต่เป็นเจน X ที่สามารถบริหารในสไตล์และมุมมองแบบเจน X
ในรัฐบาล ค่าเฉลี่ยของอายุผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ยังไม่ได้สัดส่วนผู้นำเจน X มากนัก
ข้อดีของคนเจน X ในบทบาทผู้นำความเปลี่ยนแปลง ทั้งในระดับองค์กรและระดับชาติ
1. เข้าใจเทคโนโลยีแบบทะลุทะลวง ไม่ใช่ผิวเผิน
2. เข้าใจรูปแบบการทำงานใหม่ๆ เช่น work-life balance, work from home, minimalism, risk and time management
3. คิดด้วยตรรกะวิทยาศาสตร์ โปร่งใส เปิดเผย พร้อมที่จะใช้วิทยาการ ขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลง
4. มีความสามารถเชิงคิดวิเคราะห์สูง คนเจน X เกิดในยุคที่มีพัฒนาการทางการศึกษาดี ท่องจำน้อยลง
อีกทั้งยังเป็นคนรุ่นที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เพราะพ่อแม่เห็นค่าการศึกษา
ต่างจากคนรุ่นต่อมา ซึ่งถูกเลี้ยงให้สบายมากขึ้น การแข่งขันทางการศึกษาลดน้อยลง
5. คนเจน X คือ ตัวเชื่อมที่สำคัญ ของคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่า
พวกเขามีพ่อแม่ครูอาจารย์เป็น babyboomers
จึงเข้าใจกรอบ ระบบ วิธีการแบบเดิม
พวกเขามีลูกน้องเป็น Gen Y และมีลูกเป็น Gen Z
พวกเขาจึงเป็นนักฟังที่ดี ไม่ก้าวร้าว ผ่านการฝึกฝนด้านวินัย
และใจเย็น ใช้ศิลปะ-เหตุผลในการโน้มน้าว มากกว่าใช้อำนาจ ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมมากกว่าออกคำสั่ง
พวกเขาพยายามให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างไม่รุนแรง เพราะเห็นความงามของอดีต และสามารถรับมือกับอนาคต
6. มีกำลังทำงานขับเคลื่อนผลงานอย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่ยังไม่มีปัญหาสุขภาพ
ใกล้ถึงเวลาของผู้นำเจน X
แต่เป็นเจน X ที่สามารถบริหารในสไตล์และมุมมองแบบเจน X
ในรัฐบาล ค่าเฉลี่ยของอายุผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ยังไม่ได้สัดส่วนผู้นำเจน X มากนัก
ข้อดีของคนเจน X ในบทบาทผู้นำความเปลี่ยนแปลง ทั้งในระดับองค์กรและระดับชาติ
1. เข้าใจเทคโนโลยีแบบทะลุทะลวง ไม่ใช่ผิวเผิน
2. เข้าใจรูปแบบการทำงานใหม่ๆ เช่น work-life balance, work from home, minimalism, risk and time management
3. คิดด้วยตรรกะวิทยาศาสตร์ โปร่งใส เปิดเผย พร้อมที่จะใช้วิทยาการ ขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลง
4. มีความสามารถเชิงคิดวิเคราะห์สูง คนเจน X เกิดในยุคที่มีพัฒนาการทางการศึกษาดี ท่องจำน้อยลง
อีกทั้งยังเป็นคนรุ่นที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เพราะพ่อแม่เห็นค่าการศึกษา
ต่างจากคนรุ่นต่อมา ซึ่งถูกเลี้ยงให้สบายมากขึ้น การแข่งขันทางการศึกษาลดน้อยลง
5. คนเจน X คือ ตัวเชื่อมที่สำคัญ ของคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่า
พวกเขามีพ่อแม่ครูอาจารย์เป็น babyboomers
จึงเข้าใจกรอบ ระบบ วิธีการแบบเดิม
พวกเขามีลูกน้องเป็น Gen Y และมีลูกเป็น Gen Z
พวกเขาจึงเป็นนักฟังที่ดี ไม่ก้าวร้าว ผ่านการฝึกฝนด้านวินัย
และใจเย็น ใช้ศิลปะ-เหตุผลในการโน้มน้าว มากกว่าใช้อำนาจ ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมมากกว่าออกคำสั่ง
พวกเขาพยายามให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างไม่รุนแรง เพราะเห็นความงามของอดีต และสามารถรับมือกับอนาคต
6. มีกำลังทำงานขับเคลื่อนผลงานอย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่ยังไม่มีปัญหาสุขภาพ