ในยุคที่การท่องเที่ยวต่างประเทศกลายเป็นภาพชินตาของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะวัย 20-30 ปี ที่ดูเหมือนจะเดินทางกันอย่างฉ่ำปอด ถ่ายรูปอวดลงโซเชียลอย่างไม่ขาดสาย กลับกลายเป็นประเด็นร้อนที่คน Gen X และเจนก่อนหน้านี้จับตามอง พร้อมตั้งคำถามว่า “เด็กพวกนี้หาเงินมาจากไหน? หรือพวกเขาใช้เงินเกินตัวและพึ่งพาพ่อแม่?”
เด็ก Gen Z และ Millennials: เมื่อการเที่ยวเป็นสิ่งที่ ‘ต้องมี’
ในอดีต การไปต่างประเทศเป็นเรื่องใหญ่ ต้องใช้เวลาเก็บเงินยาวนาน หลายคนมองว่ามันเป็นความหรูหรา แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ การท่องเที่ยวกลับกลายเป็นเรื่องปกติ และแทบจะเป็นสิ่งจำเป็นในการ “มีตัวตน” บนโซเชียลมีเดีย
ปัจจัยที่ทำให้คนรุ่นใหม่เที่ยวต่างประเทศมากขึ้น
1. ราคาตั๋วและโปรโมชั่นการเดินทาง
สายการบินต้นทุนต่ำ (Low-cost airlines) ทำให้การเดินทางไปต่างประเทศง่ายขึ้นกว่าที่เคย ตั๋วราคาหลักพันถึงหมื่นต้นๆ ทำให้หลายคนรู้สึกว่า “ไม่ต้องรวยก็เที่ยวได้”
2. ค่านิยมโซเชียลมีเดีย
การถ่ายรูปเช็กอินในต่างแดนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ และสร้าง “คุณค่า” ให้กับตัวเองในสายตาผู้อื่น
3. แพลตฟอร์มการเงินใหม่ๆ
บัตรเครดิต การผ่อนชำระ 0% หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ช่วยให้คนรุ่นใหม่เดินทางได้ทันทีโดยไม่ต้องเก็บเงินก่อน
Gen X และคนรุ่นก่อน: มุมมองที่แตกต่าง
สำหรับคนเจนก่อนหน้า การเห็นเด็กวัยทำงานเที่ยวต่างประเทศบ่อยครั้ง อาจดูเหมือน “ใช้เงินเกินตัว” เพราะพวกเขาเติบโตมาในยุคที่การเก็บเงินคือสิ่งสำคัญ และต้องอดออมก่อนจะใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง
คำถามที่คน Gen X ตั้ง
• “พวกเขามีเงินเยอะขนาดนั้นเลยหรือ?”
หลายคนมองว่าเด็กยุคใหม่มีรายได้ไม่สูง แต่กลับใช้จ่ายในสิ่งฟุ่มเฟือย
• “หรือแค่พึ่งพาพ่อแม่?”
บางคนตั้งคำถามว่าการเดินทางบ่อยๆ ของวัยรุ่นเหล่านี้มาจากรายได้ของตัวเอง หรือเป็นเงินที่พ่อแม่สนับสนุน
• “ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมหรือไม่?”
มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการใช้จ่ายเงินจำนวนมากในต่างประเทศอาจทำให้เงินไหลออกนอกระบบเศรษฐกิจไทย
นักวิเคราะห์: ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเงินส่วนตัว
นักวิเคราะห์มองว่าค่านิยมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบในหลายมิติ:
1. เศรษฐกิจไทยเสียสมดุล
การใช้จ่ายในต่างประเทศของคนรุ่นใหม่ อาจทำให้เงินตราไหลออกนอกประเทศอย่างมหาศาล แทนที่จะหมุนเวียนภายในระบบเศรษฐกิจไทย
2. ความเสี่ยงทางการเงินส่วนบุคคล
การพึ่งพาบัตรเครดิตหรือการผ่อนชำระเพื่อการท่องเที่ยว อาจสร้างหนี้สินระยะยาว โดยเฉพาะหากไม่มีการบริหารจัดการการเงินที่ดี
3. ลดโอกาสการลงทุนระยะยาว
เงินที่ถูกใช้ไปกับการเดินทางบ่อยๆ อาจเป็นเงินที่ควรเก็บออม หรือนำไปลงทุนเพื่อความมั่นคงในอนาคต
เด็กไทย 20-30 ปี: ควรปรับตัวหรือไม่?
ในมุมของคนรุ่นใหม่ แม้การท่องเที่ยวจะช่วยเปิดโลกทัศน์ แต่คำถามสำคัญคือ “คุณสามารถรักษาสมดุลระหว่างความสุขในวันนี้และความมั่นคงในวันข้างหน้าได้หรือเปล่า?”
• เก็บเงินก่อนใช้จ่าย: ลองตั้งเป้าหมายเก็บเงินเพื่อการเดินทางแทนการพึ่งพาหนี้
• เลือกเที่ยวอย่างคุ้มค่า: เดินทางในงบประมาณที่เหมาะสมกับรายได้ของตัวเอง
• ลงทุนในอนาคต: อย่าทิ้งโอกาสในการออมเงิน หรือสร้างสินทรัพย์ที่มั่นคง
ในยุคที่การเดินทางต่างประเทศง่ายขึ้น คนรุ่นใหม่อาจสนุกกับการตามกระแสโดยไม่คิดถึงผลกระทบระยะยาว ขณะที่คนรุ่นก่อนยังคงมองว่า “เงินนั้นหายาก และควรใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง”
การท่องเที่ยวไม่ใช่เรื่องผิด แต่การใช้ชีวิตเกินตัวและมองข้ามอนาคต อาจทำให้คนรุ่นใหม่ต้องเจอวิกฤตการเงินในวันที่สายเกินแก้ เพราะท้ายที่สุด การเดินทางที่ดีที่สุดคือการเดินทางไปสู่ชีวิตที่มั่นคงและยั่งยืน ไม่ใช่แค่การเช็กอินเพื่อเอาใจโซเชียลมีเดีย.
“ช็อก! เด็กไทยวัย 20-30 เที่ยวต่างประเทศฉ่ำ Gen X มองตาปริบ งงหาเงินจากไหน”
เด็ก Gen Z และ Millennials: เมื่อการเที่ยวเป็นสิ่งที่ ‘ต้องมี’
ในอดีต การไปต่างประเทศเป็นเรื่องใหญ่ ต้องใช้เวลาเก็บเงินยาวนาน หลายคนมองว่ามันเป็นความหรูหรา แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ การท่องเที่ยวกลับกลายเป็นเรื่องปกติ และแทบจะเป็นสิ่งจำเป็นในการ “มีตัวตน” บนโซเชียลมีเดีย
ปัจจัยที่ทำให้คนรุ่นใหม่เที่ยวต่างประเทศมากขึ้น
1. ราคาตั๋วและโปรโมชั่นการเดินทาง
สายการบินต้นทุนต่ำ (Low-cost airlines) ทำให้การเดินทางไปต่างประเทศง่ายขึ้นกว่าที่เคย ตั๋วราคาหลักพันถึงหมื่นต้นๆ ทำให้หลายคนรู้สึกว่า “ไม่ต้องรวยก็เที่ยวได้”
2. ค่านิยมโซเชียลมีเดีย
การถ่ายรูปเช็กอินในต่างแดนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ และสร้าง “คุณค่า” ให้กับตัวเองในสายตาผู้อื่น
3. แพลตฟอร์มการเงินใหม่ๆ
บัตรเครดิต การผ่อนชำระ 0% หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ช่วยให้คนรุ่นใหม่เดินทางได้ทันทีโดยไม่ต้องเก็บเงินก่อน
Gen X และคนรุ่นก่อน: มุมมองที่แตกต่าง
สำหรับคนเจนก่อนหน้า การเห็นเด็กวัยทำงานเที่ยวต่างประเทศบ่อยครั้ง อาจดูเหมือน “ใช้เงินเกินตัว” เพราะพวกเขาเติบโตมาในยุคที่การเก็บเงินคือสิ่งสำคัญ และต้องอดออมก่อนจะใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง
คำถามที่คน Gen X ตั้ง
• “พวกเขามีเงินเยอะขนาดนั้นเลยหรือ?”
หลายคนมองว่าเด็กยุคใหม่มีรายได้ไม่สูง แต่กลับใช้จ่ายในสิ่งฟุ่มเฟือย
• “หรือแค่พึ่งพาพ่อแม่?”
บางคนตั้งคำถามว่าการเดินทางบ่อยๆ ของวัยรุ่นเหล่านี้มาจากรายได้ของตัวเอง หรือเป็นเงินที่พ่อแม่สนับสนุน
• “ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมหรือไม่?”
มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการใช้จ่ายเงินจำนวนมากในต่างประเทศอาจทำให้เงินไหลออกนอกระบบเศรษฐกิจไทย
นักวิเคราะห์: ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเงินส่วนตัว
นักวิเคราะห์มองว่าค่านิยมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบในหลายมิติ:
1. เศรษฐกิจไทยเสียสมดุล
การใช้จ่ายในต่างประเทศของคนรุ่นใหม่ อาจทำให้เงินตราไหลออกนอกประเทศอย่างมหาศาล แทนที่จะหมุนเวียนภายในระบบเศรษฐกิจไทย
2. ความเสี่ยงทางการเงินส่วนบุคคล
การพึ่งพาบัตรเครดิตหรือการผ่อนชำระเพื่อการท่องเที่ยว อาจสร้างหนี้สินระยะยาว โดยเฉพาะหากไม่มีการบริหารจัดการการเงินที่ดี
3. ลดโอกาสการลงทุนระยะยาว
เงินที่ถูกใช้ไปกับการเดินทางบ่อยๆ อาจเป็นเงินที่ควรเก็บออม หรือนำไปลงทุนเพื่อความมั่นคงในอนาคต
เด็กไทย 20-30 ปี: ควรปรับตัวหรือไม่?
ในมุมของคนรุ่นใหม่ แม้การท่องเที่ยวจะช่วยเปิดโลกทัศน์ แต่คำถามสำคัญคือ “คุณสามารถรักษาสมดุลระหว่างความสุขในวันนี้และความมั่นคงในวันข้างหน้าได้หรือเปล่า?”
• เก็บเงินก่อนใช้จ่าย: ลองตั้งเป้าหมายเก็บเงินเพื่อการเดินทางแทนการพึ่งพาหนี้
• เลือกเที่ยวอย่างคุ้มค่า: เดินทางในงบประมาณที่เหมาะสมกับรายได้ของตัวเอง
• ลงทุนในอนาคต: อย่าทิ้งโอกาสในการออมเงิน หรือสร้างสินทรัพย์ที่มั่นคง
ในยุคที่การเดินทางต่างประเทศง่ายขึ้น คนรุ่นใหม่อาจสนุกกับการตามกระแสโดยไม่คิดถึงผลกระทบระยะยาว ขณะที่คนรุ่นก่อนยังคงมองว่า “เงินนั้นหายาก และควรใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง”
การท่องเที่ยวไม่ใช่เรื่องผิด แต่การใช้ชีวิตเกินตัวและมองข้ามอนาคต อาจทำให้คนรุ่นใหม่ต้องเจอวิกฤตการเงินในวันที่สายเกินแก้ เพราะท้ายที่สุด การเดินทางที่ดีที่สุดคือการเดินทางไปสู่ชีวิตที่มั่นคงและยั่งยืน ไม่ใช่แค่การเช็กอินเพื่อเอาใจโซเชียลมีเดีย.