ปี 2025 'เจนเบต้า (Gen Beta)' ถือกำเนิด เด็กที่เกิดระหว่างปี 2025 - 2039 รุ่นที่อาจเผชิญปัญหาสุขภาพจิตหนักที่สุด !
.
เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 โลกได้เข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการกำเนิดของ Generation Beta หรือ Gen Beta ซึ่งหมายถึงกลุ่มเด็กที่เกิดระหว่างปี 2568 ถึง 2582 (ค.ศ. 2025-2039)
.
เจนนี้จะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเชื่อมต่อดิจิทัลที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน เด็ก Gen Beta จะมีโอกาสได้สัมผัสกับการเรียนรู้และการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ โดยมี AI เป็นเพื่อนร่วมชีวิตตั้งแต่เกิด
.
นอกเหนือจากเรื่องเทคโนโลยีแล้ว Gen Beta จะต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการชีวิตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงของประชากรโลก และความเป็นเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว McCrindle ระบุว่า อย่างไรก็ตามคนรุ่นนี้จะเติบโตขึ้นมาโดยมีพ่อแม่จากเจเนอเรชันมิลเลนเนียลและ Gen Z ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและให้ความสำคัญกับความสามารถในการปรับตัวเป็นลำดับต้น ๆ
.
ทั้งนี้ การเชื่อมต่อโลกออนไลน์ที่ต่อเนื่องตลอดเวลาอาจนำไปสู่ความเครียด ความวิตกกังวล และการเปรียบเทียบทางสังคมที่เพิ่มขึ้น ด้วยกระแสข้อมูลที่ล้นหลามและแรงกดดันในการรักษาภาพลักษณ์ออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบ คนรุ่นนี้จะต้องให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์ สังคมจำเป็นต้องมอบเครื่องมือและการสนับสนุนเพื่อช่วยให้พวกเขารับมือกับความซับซ้อนของสุขภาพจิตในยุคดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม
.
โดยสรุป Gen Beta จะต้องเผชิญกับโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความหัศจรรย์ของเทคโนโลยี ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความสามารถของพวกเขาในการปรับตัว สร้างนวัตกรรม และรักษาสุขภาพจิตให้สมดุล จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดว่าพวกเขาจะสร้างอนาคตอย่างไร โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะทำให้มั่นใจว่า Generation Beta มีเครื่องมือและความพร้อมที่จะก้าวผ่านอนาคตที่น่าตื่นเต้นแต่ก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้ได้อย่างมั่นคง
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่
https://www.springnews.co.th/news/hot-issue/855033
แหล่งที่มา
โพสต์ของ SpringNews
'เจนเบต้า (Gen Beta)' รุ่นที่อาจมีปัญหาสุขภาพจิตมากที่สุด
.
เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 โลกได้เข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการกำเนิดของ Generation Beta หรือ Gen Beta ซึ่งหมายถึงกลุ่มเด็กที่เกิดระหว่างปี 2568 ถึง 2582 (ค.ศ. 2025-2039)
.
เจนนี้จะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเชื่อมต่อดิจิทัลที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน เด็ก Gen Beta จะมีโอกาสได้สัมผัสกับการเรียนรู้และการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ โดยมี AI เป็นเพื่อนร่วมชีวิตตั้งแต่เกิด
.
นอกเหนือจากเรื่องเทคโนโลยีแล้ว Gen Beta จะต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการชีวิตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงของประชากรโลก และความเป็นเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว McCrindle ระบุว่า อย่างไรก็ตามคนรุ่นนี้จะเติบโตขึ้นมาโดยมีพ่อแม่จากเจเนอเรชันมิลเลนเนียลและ Gen Z ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและให้ความสำคัญกับความสามารถในการปรับตัวเป็นลำดับต้น ๆ
.
ทั้งนี้ การเชื่อมต่อโลกออนไลน์ที่ต่อเนื่องตลอดเวลาอาจนำไปสู่ความเครียด ความวิตกกังวล และการเปรียบเทียบทางสังคมที่เพิ่มขึ้น ด้วยกระแสข้อมูลที่ล้นหลามและแรงกดดันในการรักษาภาพลักษณ์ออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบ คนรุ่นนี้จะต้องให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์ สังคมจำเป็นต้องมอบเครื่องมือและการสนับสนุนเพื่อช่วยให้พวกเขารับมือกับความซับซ้อนของสุขภาพจิตในยุคดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม
.
โดยสรุป Gen Beta จะต้องเผชิญกับโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความหัศจรรย์ของเทคโนโลยี ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความสามารถของพวกเขาในการปรับตัว สร้างนวัตกรรม และรักษาสุขภาพจิตให้สมดุล จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดว่าพวกเขาจะสร้างอนาคตอย่างไร โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะทำให้มั่นใจว่า Generation Beta มีเครื่องมือและความพร้อมที่จะก้าวผ่านอนาคตที่น่าตื่นเต้นแต่ก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้ได้อย่างมั่นคง
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.springnews.co.th/news/hot-issue/855033
แหล่งที่มา โพสต์ของ SpringNews