เช็กผลงาน 4 หนุ่มก้าวไกล ฝ่ายค้านมหากาฬสุดแกร่ง
https://www.innnews.co.th/video/hot-clips/news_722658/
 
จวบจนวันนี้ก็ราว9เดือนแล้วนับตั้งแต่22 ส.ค.66ที่จัดตั้งรัฐบาลแล้วพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านซึ่งในห้วงที่ผ่านมาก้าวไกลได้ออกมาไฟท์กับรัฐบาลเศรษฐาอย่างดุเดือดทั้งในสภาและนอกสภาโดยเฉพาะนโยบายต่างๆของพรรคเพื่อไทย ที่ยังดูไม่เป็นรูปเป็นร่างนัก
 
โดยคนแรกที่หลายคนยังจับตาอยู่ตลอด นั่นคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล นักการเมืองขวัญใจด้อมส้ม ขณะที่ล่าสุดวันที่22 พ.ค.67 เขาร่วมประชุม Asian Leadership Conferenceที่เกาหลีใต้ พบปะผู้นำระดับโลก แลกเปลี่ยนสถานการณ์โลก สถานการณ์ประชาธิปไตย ครบรอบ 10 ปีรัฐประหาร 57 ซึ่งหากย้อนไปวันที่15ธ.ค.66 ที่ผ่านมานั้น เขาออกมาแถลงวิเคราะห์ 90 วันนโยบาย รัฐบาลเศรษฐา บอกว่าดิจิทัลเป็นการคิดไปทำไป สุดท้ายใช้เงินกู้ 5 แสนล้าน หนักภาระการคลัง ซึ่งหากทำไม่ได้ควรมีแผน 2 รองรับ
 
ต่อมาในช่วงเดือนมี.ค.67เขาก็เคยออกมาฟาดรัฐบาลเรื่องงบประมาณปี 67 รวมถึงเรื่องแก้ฝุ่น PM2.5 แถมยังลงพื้นที่หลายจังหวัดหวังช่วยเหลือแก้ปัญหาให้ประชาชน อีกทั้งยังจี้รัฐบาลไทยร่วมมือกลุ่มชาติพันธุ์เมียนมา แก้ปัญหาชายแดนด้วย นอกจากนี้วันที่ 5 เม.ย.67ที่ผ่านมา เขาเปิดใจลาสภาฯอภิปราย ม.152 ว่าอาจเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตการเมือง พร้อมบอกด้วยว่ายิ่งยุบพรรค ก็จะยิ่งทำให้ไปถึงเส้นชัยเร็วมากขึ้น
 
คนที่ 2 รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อก้าวไกล อีกหนึ่งตัวตึงที่ออกมาเคลื่อนไหวซัดรัฐบาล โดยล่าสุดวันที่23 พ.ค.67 เขาบอกว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตั้ง พิชิต ชื่นบาน นั่งรัฐมนตรี มีปัญหาแน่ งง ว่าคนเพื่อไทยมีเยอะ แต่ทำไมตั้งคนนี้ ซึ่งมองว่า ถูกวางยาหรือไม่ รวมถึงเชิญ สมช. กสทช. เครือข่ายมือถือ ถกหาทางออกทุนสีเทาชายแดน ขณะ28 มี.ค.67 เขาตั้งกระทู้ถามนายกฯปม ทักษิณ ชินวัตร รักษานอกเรือนจำ พร้อมบอกผลศึกษาประเด็นคาสิโนของ กมธ. มีปัญหาขาดความสมบูรณ์

ต่อมาวันที่ 3 เม.ย.67 จี้รัฐบาลหยุดเพิกเฉยต่อขบวนการอาชญากรรมชายแดน ต่อมาวันที่22 พ.ค.67ที่ผ่านมา ออกมาพูดถึง10 ปีหลังรัฐประหารที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่สูญเปล่า แม้เปลี่ยนรัฐบาลแล้ว แต่ภายใต้รัฐบาลเพื่อไทยไม่มีอะไรเปลี่ยน เพื่อไทยรออะไร ไม่เร่งดำเนินการพาประเทศออกจากระบอบประยุทธ์
 
คนที่3 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อก้าวไกล โดยล่าสุด23พ.ค.67 เขาโพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า เสียดายเวลา เสียดายที่คนในยุคปัจจุบันที่ต้องแก่ตัวลงอย่างสูญเปล่า กับการทำรัฐประหารคนกลุ่มหนึ่ง ใช้อคติไปไล่เขาออกนอกประเทศ เมื่อปี 49 วันนี้กลับมา โดยที่บ้านเมืองยังคงสองมาตรฐานเหมือนเดิม ข้าวที่เคยเอาไปใส่ร้ายว่าโกง ว่าเน่า ผ่านมา 10 ปี ปรากฏว่าข้าวไม่เน่า แถมมีคุณภาพดี
 
ต่อมาวันที่19 พ.ค.67 เขา ดันแก้ รัฐธรรมนูญ 2 มาตรา ปลดล็อกพาคนผิดพ้นลอยนวล ฝากทุกพรรคอย่าตีเป็นการเมือง ต่อมาวันที่4เม.ย.67 จวกรัฐบาลสมยอมกองทัพ ตบตา ประชาชนเอานโยบายลดกำลังพล ยุคประยุทธ์มาปัดฝุ่น เคลมผลงาน ซื้อเวลาปฏิรูปกองทัพ ตัดงบซื้อเรือฟริเกต เหมือนตัดโอกาสประเทศ และ
 
คนที่4 พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อก้าวไกล โดยล่าสุดวันที่21 พ.ค67เขาบอกถึง กรณีที่สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ มาลงสมัครสว.และอาจวางตัวไปถึงประธานสว. ว่า ยังอีกสักพักหนึ่งกว่าจะถึงขั้นนั้น ซึ่งไม่มีข้อมูลอะไร เมื่อดูกระแสความนิยมของประชาชนอาจไม่ใช่ตัวชี้วัด ควรรอดูตามกระบวนการว่า จะออกมาเป็นเช่นไร เนื่องจากภาพรวมไม่ได้เจาะจงที่คนใดคนหนึ่ง
 
ขณะวันที่4เม.ย.ที่ผ่านมา เขาซัดเส้นทางรัฐธรรมนูญใหม่เป็นตลกหกฉาก บี้ตามทวงสัญญาแก้รัฐธรรมนูญ จับตารัฐบาลเตรียมไพ่ไว้กินรวบอำนาจ ดักคอให้รักษาสัจจะต่อประชาชนอย่างไรก็ตาม4ตัวตึงก้าวไกลนั้นเรียกได้ว่าออกมาฟาดรัฐบาลเต็มที่แต่หลายคนก็ยังจับตานักโทษชั้น14 ดังนั้นก็อาจจะมีความเป็นไปได้สูงว่าในระยะยาวก้าวไกลเพื่อไทยจะจับมือกัน

---

“ไพศาล” สับเละ! กกต.ออกกฎเลือกตั้งสว. พิลึกพิลั่นขัดรัฐธรรมนูญ
https://siamrath.co.th/n/538827

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 67 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย อดีตที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า

จะมีใครรู้สึกรับผิดชอบกันบ้างไหม

กกต.ออกกฎเกณฑ์การเลือกตั้งสว. พิลึกพิลั่นขัดรัฐธรรมนูญ จนในที่สุดศาลปกครองกลางต้องพิพากษา เพิกถอนระเบียบการที่ว่านั้น แล้วใครรับผิดชอบบ้าง

บ้านเมืองจะเป็นอย่างนี้ต่อไปทำอะไรกันไปโดยไม่ต้องมีใครรับผิดชอบอย่างนั้นหรือ นี่คือผลิตผล ของนักไสยศาสตร์ทางกฎหมายที่จะต้องชำระสะสางกำจัดคราบไคลให้หมดสิ้นแผ่นดินไทยเสียที

https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid01Dp6Ah4iQAuAEAG6GN7bmeDniP2vuXXv2KmVb9cYbQ61xWuDg9GgZUnsyXECmwqjl

---

ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 85 เซนต์ ปิดที่ 77.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
https://ch3plus.com/news/economy/morning/401325

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท หรือ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 1.11% ปิดที่ 77.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

ในขณะที่ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปิดเพิ่ม 76 เซนต์ หรือ 0.93% ปิดที่ 82.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี หากดูในรอบสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบทั้งสองกลับลดลง โดย สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบ 2.8% ขณะที่เบรนท์ก็ลดลง 2.1% โดยลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน และยาวนานที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม

ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเมื่อวาน เป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันในฤดูร้อนของสหรัฐอาจจะเพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนบางรายตั้งข้อสงสัยว่า สัญญาน้ำมันดิบจะถูกเทขายออกมามากเกินไปหรือไม่

อีกทั้งยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการปรับดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่เฟดบางคนพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หากเงินเฟ้อพุ่งขึ้น ขณะเดียวกันการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งได้ถ่วงบรรยากาศการซื้อขายในตลาด

อย่างไรก็ตาม นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ ระบุว่า พวกเขาเชื่อว่า ไม่มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มต้นทุนการกู้ยืม ซึ่งอาจชะลอกิจกรรมทางเศรษฐกิจและกระทบความต้องการใช้น้ำมัน