สวัสดีค่ะเราเองคนเดิม วันนี้เรามีเรื่องสงสัยกึ่งระบายมาให้ได้อ่านกันค่ะ ถ้าท่านใดที่เข้ามาอ่านแล้วมีความรู้ทางกฎหมายก็แบ่งปันเราได้ได้นะคะเรายินดีอย่างยิ่งที่จะรับฟัง
เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานหลายปีจนถึงปัจจุบันแล้วค่ะในครอบครัวของเรา ตอนแรกเราก็ไม่ได้อะไรกับเรื่องนี้มากแต่พอนานวันเข้ามันก็เริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
ป๊าเรามีแนวคิดชายเป็นใหญ่ค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะอธิบายถึงสิทธิความเท่าเทียมทางกฎหมายให้ป๊าฟังเท่าไหร่แต่ป๊าก็ไม่ยอมฟังเลย เขาจำกัดสิทธิผู้หญิงในบ้านทุกคนโดยเฉพาะเรากับม๊า เช่น ตอนนั้นเราไปช่วยงานที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพของหมู่บ้านตอนที่มีแขกมาเราเองก็ไม่ได้ไปคนเดียวเราไปกับเพื่อนผู้หญิงและคุณย่าคุณยายที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่นั่น ก่อนไปเราก็ขออนุญาตม๊ากับย่าแล้วเรียบร้อยภายในศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพนั้นเราก็ไปช่วยยกของและเตรียมอาหารธรรมดานี่แหละค่ะ แต่ผ่านไปไม่นานม๊าก็โทรมาว่าตอนนี้ป๊าโกรธมากที่เราไม่อยู่บ้าน เราเองก็ถามกลับไปว่าม๊าได้บอกป๊ามั้ยว่าหนูมาช่วยงาน ม๊าก็บอกว่าบอกไปแล้วแต่ป๊าไม่เชื่อ สรุปคือวันนั้นม๊าต้องมารับเรากลับบ้านตอนนั้นเราอายคุณย่าคุณยายที่ไปด้วยมากเพราะงานก็ยังช่วยทำไม่เสร็จแต่กลับบ้านแล้ว
อีกเหตุการณ์ที่เราคิดว่ามันไม่สมควรเอามากๆ ก็คือ ป๊าเราไม่ยอมให้ม๊าเราดูละครและซีรีย์ค่ะ มันอาจจะฟังดูธรรมดาแต่ที่เราจะบอกก็คือ เวลาที่ม๊าดูซีรีย์หรือละครที่มีฉากดื่มสังสรรค์หรือฉากพระนางจับมือกันแล้วป๊าเห็นตอนม๊าดูป๊าก็จะโวยวายว่า ดูหนังอะไรก็ไม่รู้เดี๋ยวลูกก็เสียคน มีครั้งหนึ่งที่เราพยายามพูดและอ้างถึงสิทธิส่วนบุคคลทางกฎหมายเพื่อปกป้องม๊า ป๊าก็เดินไปหยิบไม้มาเพื่อจะตีเราและม๊า ม๊าเลยปิดทีวีแล้วพาเราลงมาชั้นล่าง
เราพูดตรงๆ เลยว่าเราโกรธป๊ามากที่ละเมิดสิทธิของคนอื่นแบบนี้ คนเรารักหรือชอบอะไรคนละอย่างแต่เขากลับมาบังคับบัญชาเราเหมือนเขาเป็นเจ้าของชีวิตของเรา
เรื่องการดูซีรีย์ของม๊านั้นเราก็ว่ามันปกติที่ภายในซีรีส์จะมีฉากโรแมนติกหรือปาร์ตี้ฉลองเฮฮาปาจิงโกะกันเพราะมคนช่วยเพิ่มสีสันให้กับซีรีย์หรือละครเรื่องนั้นๆ ไม่ให้น่าเบื่อเกินควร ที่ป๊ามาพูดว่าเราจะเสียคนเพราะซีรีย์เราขอยืนกรานตรงนี้เลยว่า
‘ เรามีวุฒิภาวะมากพอที่จะแยกแยะว่าอะไรไหนความจริงหรือซีรีย์ เราโตพอที่จะแยกอันไหนขาวอันไหนดำได้ ’
เพื่อนเราทุกคนนั้นเคยดื่มและสูบบุหรี่กันเกือบทุกคนแต่มีแค่เราคนเดียวที่ยังไม่เคยแตะต้องของพวกนั้นเลย ถ้าป๊าคิดว่าเราจะเสียคนเพราะแค่ม๊าดูซีรีย์ให้เราเห็นป๊าคงคิดว่าเราโง่ดักดานจนแยกเป็ดแยกไก่ไม่ออก
ถ้าป๊าคิดว่าเราโง่ เกียรติบัตรที่เราเอากลับบ้านทุกครั้งที่มีการแข่งขันทางวิชาการเราคงไม่มีค่าอะไรเลย เรารู้ว่าป๊าเป็นห่วงอนาคตของเราแต่คำว่าห่วง กับการจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นนั้นมันคนละเรื่อง
ปัจจุบันทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมกันและจะรักจะชอบอะไรก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน เราสงสารม๊าเรามากนอกจากเรื่องที่ม๊าไม่ได้ดูในสิ่งที่ม๊าชอบ ป๊ายังห้ามม๊าไม่ให้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนของม๊า ม๊าต้องอยู่แต่บ้านคอยปรนนิบัติพัดวีให้ป๊า เวลาป๊าต้องการอะไรม๊าก็ต้องไปหามาให้ได้ ถ้าอะไรไม่ได้ดั่งใจป๊า ป๊าก็จะโวยวายบางครั้งก็ใช้ความรุนแรง
เราอยากจะทราบว่าสิทธิของเรากับม๊ามันไม่มีเหรอทำไมต้องโดนป๊ากดไว้ขนาดนี้ทั้งๆ ที่ปัจจุบันสิทธิชายและหญิงก็เท่าเทียมกัน
ปล. ในกระทู้นี้เราไม่อยากให้มีดราม่าเกิดขึ้นนะคะ🙇🏻🙏🏻
สิทธิยังมีอยู่มั้ย?
เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานหลายปีจนถึงปัจจุบันแล้วค่ะในครอบครัวของเรา ตอนแรกเราก็ไม่ได้อะไรกับเรื่องนี้มากแต่พอนานวันเข้ามันก็เริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
ป๊าเรามีแนวคิดชายเป็นใหญ่ค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะอธิบายถึงสิทธิความเท่าเทียมทางกฎหมายให้ป๊าฟังเท่าไหร่แต่ป๊าก็ไม่ยอมฟังเลย เขาจำกัดสิทธิผู้หญิงในบ้านทุกคนโดยเฉพาะเรากับม๊า เช่น ตอนนั้นเราไปช่วยงานที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพของหมู่บ้านตอนที่มีแขกมาเราเองก็ไม่ได้ไปคนเดียวเราไปกับเพื่อนผู้หญิงและคุณย่าคุณยายที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่นั่น ก่อนไปเราก็ขออนุญาตม๊ากับย่าแล้วเรียบร้อยภายในศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพนั้นเราก็ไปช่วยยกของและเตรียมอาหารธรรมดานี่แหละค่ะ แต่ผ่านไปไม่นานม๊าก็โทรมาว่าตอนนี้ป๊าโกรธมากที่เราไม่อยู่บ้าน เราเองก็ถามกลับไปว่าม๊าได้บอกป๊ามั้ยว่าหนูมาช่วยงาน ม๊าก็บอกว่าบอกไปแล้วแต่ป๊าไม่เชื่อ สรุปคือวันนั้นม๊าต้องมารับเรากลับบ้านตอนนั้นเราอายคุณย่าคุณยายที่ไปด้วยมากเพราะงานก็ยังช่วยทำไม่เสร็จแต่กลับบ้านแล้ว
อีกเหตุการณ์ที่เราคิดว่ามันไม่สมควรเอามากๆ ก็คือ ป๊าเราไม่ยอมให้ม๊าเราดูละครและซีรีย์ค่ะ มันอาจจะฟังดูธรรมดาแต่ที่เราจะบอกก็คือ เวลาที่ม๊าดูซีรีย์หรือละครที่มีฉากดื่มสังสรรค์หรือฉากพระนางจับมือกันแล้วป๊าเห็นตอนม๊าดูป๊าก็จะโวยวายว่า ดูหนังอะไรก็ไม่รู้เดี๋ยวลูกก็เสียคน มีครั้งหนึ่งที่เราพยายามพูดและอ้างถึงสิทธิส่วนบุคคลทางกฎหมายเพื่อปกป้องม๊า ป๊าก็เดินไปหยิบไม้มาเพื่อจะตีเราและม๊า ม๊าเลยปิดทีวีแล้วพาเราลงมาชั้นล่าง
เราพูดตรงๆ เลยว่าเราโกรธป๊ามากที่ละเมิดสิทธิของคนอื่นแบบนี้ คนเรารักหรือชอบอะไรคนละอย่างแต่เขากลับมาบังคับบัญชาเราเหมือนเขาเป็นเจ้าของชีวิตของเรา
เรื่องการดูซีรีย์ของม๊านั้นเราก็ว่ามันปกติที่ภายในซีรีส์จะมีฉากโรแมนติกหรือปาร์ตี้ฉลองเฮฮาปาจิงโกะกันเพราะมคนช่วยเพิ่มสีสันให้กับซีรีย์หรือละครเรื่องนั้นๆ ไม่ให้น่าเบื่อเกินควร ที่ป๊ามาพูดว่าเราจะเสียคนเพราะซีรีย์เราขอยืนกรานตรงนี้เลยว่า
‘ เรามีวุฒิภาวะมากพอที่จะแยกแยะว่าอะไรไหนความจริงหรือซีรีย์ เราโตพอที่จะแยกอันไหนขาวอันไหนดำได้ ’
เพื่อนเราทุกคนนั้นเคยดื่มและสูบบุหรี่กันเกือบทุกคนแต่มีแค่เราคนเดียวที่ยังไม่เคยแตะต้องของพวกนั้นเลย ถ้าป๊าคิดว่าเราจะเสียคนเพราะแค่ม๊าดูซีรีย์ให้เราเห็นป๊าคงคิดว่าเราโง่ดักดานจนแยกเป็ดแยกไก่ไม่ออก
ถ้าป๊าคิดว่าเราโง่ เกียรติบัตรที่เราเอากลับบ้านทุกครั้งที่มีการแข่งขันทางวิชาการเราคงไม่มีค่าอะไรเลย เรารู้ว่าป๊าเป็นห่วงอนาคตของเราแต่คำว่าห่วง กับการจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นนั้นมันคนละเรื่อง
ปัจจุบันทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมกันและจะรักจะชอบอะไรก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน เราสงสารม๊าเรามากนอกจากเรื่องที่ม๊าไม่ได้ดูในสิ่งที่ม๊าชอบ ป๊ายังห้ามม๊าไม่ให้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนของม๊า ม๊าต้องอยู่แต่บ้านคอยปรนนิบัติพัดวีให้ป๊า เวลาป๊าต้องการอะไรม๊าก็ต้องไปหามาให้ได้ ถ้าอะไรไม่ได้ดั่งใจป๊า ป๊าก็จะโวยวายบางครั้งก็ใช้ความรุนแรง
เราอยากจะทราบว่าสิทธิของเรากับม๊ามันไม่มีเหรอทำไมต้องโดนป๊ากดไว้ขนาดนี้ทั้งๆ ที่ปัจจุบันสิทธิชายและหญิงก็เท่าเทียมกัน
ปล. ในกระทู้นี้เราไม่อยากให้มีดราม่าเกิดขึ้นนะคะ🙇🏻🙏🏻