พิธา ร่วมประชุมกับผู้นำโลกที่เกาหลีใต้ แลกเปลี่ยนสถานการณ์การเมืองไทย ครบ 10 ปี รัฐประหาร 57
https://www.matichon.co.th/politics/news_4588994
“พิธา” ร่วมประชุม Asian Leadership Conference ที่เกาหลีใต้ พบปะผู้นำระดับโลก แลกเปลี่ยนสถานการณ์โลก-สถานการณ์ประชาธิปไตย ครบรอบ 10 ปีรัฐประหาร 57
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่โรงแรมชิลลา ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการจัดการประชุม Asian Leadership Conference ครั้งที่ 15 เพื่อหารื่อเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจโลกภายใต้การคุกคามของอัตราเงินเฟ้อที่สูง และวิกฤตการเกิดที่ต่ำ โดยมีวิทยากรมากกว่า 250 คนจากทั่วโลก โดยเฉพาะกับบุคคลสำคัญทางการเมืองของสหรัฐ
ทั้งนี้ นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุม Asian Leadership Conference ร่วมกับผู้นำและอดีตผู้นำระดับโลกในสาขาต่างๆ โดยปีนี้เป็นการหารือในหัวข้อนวัตกรรมของการเป็นผู้นำ ในสถานการณ์โลกปัจจุบันและอนาคตที่มีความไม่แน่นอนสูง
นาย
พิธาได้ร่วมแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลก รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย เนื่องด้วยวันนี้ตรงกับวันครบรอบ 10 ปีรัฐประหารปี 2557 ผู้ร่วมประชุมจากประเทศต่างๆ ได้สอบถามถึงระบบยุติธรรมต่อผู้เห็นต่างทางการเมืองโดยเฉพาะกับเยาวชน ที่มีการประท้วงอดอาหาร รวมถึงสิทธิในการได้รับประกันตัว นอกจากนั้นช่วงบ่าย
พิธาได้หารือกลุ่มย่อยกับนักการเมืองรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้และผู้นำรุ่นใหม่ของทวีปเอเชียในสาขาต่างๆ
ทั้งนี้ นาย
ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีดังกล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในยุคแห่งความไม่แน่นอน ที่ไม่มีใครสามารถมั่นใจในอนาคตได้ เนื่องจากโครงสร้างทางสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลงเนื่องจากอัตราการเกิดที่ต่ำ และเอไอ ที่กำลังพัฒนาอย่างน่าทึ่ง
สำหรับผู้นำและอดีตผู้นำที่เข้าร่วมสัมมนาในปีนี้ เช่น
จาซินดา อาร์เดิร์น อดีตนายกฯ นิวซีแลนด์,
ซันนา มาริน อดีตนายกฯ ฟินแลนด์,
ไมเคิล อาร์. ปอมเปโอ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา, นาย
เควิน แม็กคาร์ธี อดีตประธานสภาสหรัฐ,
ราห์ม เอมานูแอล ทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่น อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
บารัค โอบามา,
รอน ไคลน์ อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โจ ไบเดน,
แคลร์รี่ จามาลุดดิน อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขของมาเลเซีย เป็นต้น
ส่วนกำหนดการในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.) เวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงโซล
พิธาจะขึ้นเวทีเสวนาหัวข้อ Navigating Asia’s Uncertain Future : Lessons for Tomorrow’s Leaders (การนำทางสู่อนาคตที่ไม่แน่นอนของเอเชีย: บทเรียนสำหรับผู้นำแห่งอนาคต) ให้กับเหล่าผู้นำรุ่นใหม่ในสาขาต่างๆ ของทวีปเอเชียและนักการเมืองรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้
‘กัณวีร์’ มอง 10 ปี รัฐประหาร การเมืองไทยยังอยู่ใต้เงา คสช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4588635
‘กัณวีร์’ มอง 10 ปี รัฐประหาร การเมืองไทยยังอยู่ใต้เงา คสช. หวังประชาชนจะนำพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตย
วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 นาย
กัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า วันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วหลังรัฐประหารโดย คสช. ตนเองยังจำได้ดีว่าเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ได้รับคำสั่งให้ออกไปประจำการที่ซูดานใต้เป็นเจ้าหน้าที่ของ UNHCR ในฐานะ expatriate แบบเต็มตัว
“
ตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งเวลาผ่านไป 10 ปี จนตอนนี้ผมมาเป็น ส.ส.ที่มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชนอย่างแท้จริง แต่ผมยังรู้สึกถึงกลิ่นอายและเงาของ คสช.อยู่ในปัจจุบัน” นาย
กัณวีร์กล่าว
นาย
กัณวีร์กล่าวว่า เวลาผ่านมา 10 ปี จนได้มาเป็น ส.ส. การเมืองไทยยังถูกครอบงำโดยคณะรัฐประหาร รัฐบาลที่มีผู้บริหารไม่ต่างจากชุดของคณะยึดอำนาจ การเรียกร้องของประชาชนที่มีเสียงดังมากขึ้นเรื่องการปฏิวัติระบบยุติธรรมวิบัติที่มีอยู่ การแทรกแซงของฝ่ายการเมืองในทุกเรื่อง การแบ่งแยกขั้วอย่างมองเห็นได้ชัด ความพยายามของกลุ่มการเมืองหรือบุคคลการเมืองที่จะมีอำนาจเหนือกลุ่มหรือคนอื่นๆ โดยไม่เห็นหัวประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง ความลำเอียงและการปฏิบัติต่อชนชั้นนำอย่างออกหน้าออกตาที่สร้างความโสมมและแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างชนชั้น ฯลฯ
“
1 ทศวรรษที่ผ่านมาถึงเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในสังคมการเมืองไทยของเรา ประชาชนพอมีหวังกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ แต่เงาทะมึนของกลุ่มอำนาจเก่าที่ยึดอำนาจมาก็ยังคอยจ้องจะกลับมาที่เดิมเพราะความเกรงกลัวต่อสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากความเปลี่ยนแปลงครั้งหน้านี้จะไม่เหมือนสภาพแวดล้อมโครงสร้างอำนาจเดิมๆ แล้ว” นายกัณวีร์กล่าว
นาย
กัณวีร์กล่าวว่า ตนยังมีความหวังต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ประชาชนจะรู้สึกเชื่อมั่นในอำนาจของตนเองมากขึ้น โดยไม่หวังพึ่งใครตลอดเวลา นักการเมืองจะทำหน้าที่ผู้รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง รัฐบาลจะเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจและตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงตามการจัดลำดับความสำคัญที่ถูกต้อง รัฐและราชการจะโอบอุ้มประชาชนและทำงานเป็นเนื้อเดียวกับประชาชนและประชาสังคมโดยปราศจากชนชั้น ประชาชนจะกลับมามีอำนาจเต็มตามเป้าหมายของระบอบประชาธิปไตย
“
ผมยังมีความหวังอย่างแรงกล้านี้ ถึงแม้เงาดำของอำนาจมืดยังคงอยู่อย่างชัดเจน ประชาชนเท่านั้นครับ จะเป็นผู้ตัดสินว่าเราต้องการการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้หรือไม่” นาย
กัณวีร์กล่าว
ยอดสมัคร สว.รวม 3 วัน 20,683 คน ยังเปิดรับสมัครอีก 2 วันถึง 24 พ.ค.นี้
https://siamrath.co.th/n/538214
วันนี้ ( 22 พ.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดการรับสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา 2567 หรือ สว. ทั่วประเทศสะสมจนถึงวันนี้รวม 3 วัน จำนวน 20,683 คน
โดยในวันนี้ วันที่สามของการรับสมัคร แม้จะเป็นวันหยุดวิสาขบูชา แต่มีผู้สนใจมาสมัคร จำนวน 9,434 คน ทั้งนี้จะมีการรับสมัครต่อไปอีกสองวัน เปิดจนถึงวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคมนี้
นายกฯ สิงคโปร์ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ไทย
https://tna.mcot.net/world-1368566
สิงคโปร์ 22 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์ แถลงขอบคุณเจ้าหน้าที่ในไทยที่ให้การช่วยเหลือดูแลผู้โดยสาร และลูกเรือ ของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ที่ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงจนต้องลงจอดฉุกเฉินในไทย
นายกรัฐมนตรี
ลอว์เรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์ แถลงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ระบุว่า ในนามรัฐบาลและประชาชนชาวสิงคโปร์ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายในไทยที่ให้การสนับสนุนจัดหาความช่วยเหลือทางการแพทย์ และดูแลผู้โดยสาร และลูกเรือ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศ พร้อมกับขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอร่วมไว้ทุกข์กับครอบครัวของผู้โดยสารที่เสียชีวิต และขอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บพลิกฟื้นอาการสู่ปกติได้กลับบ้านโดยเร็ว
คำแถลงของนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ มีขึ้นหลังผู้โดยสาร 131 คน และ ลูกเรือ 12 คน ที่ไม่ได้รับอันตรายจากเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศ ได้เดินทางโดยเที่ยวบินบรรเทาทุกข์ ของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ถึงสนามบินชางงี ของสิงคโปร์แล้ว เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ตามวันเวลาท้องถิ่น โดยมีนาย
โกะ ชุน ฟ่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร หรือ ซีอีโอของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ให้การต้อนรับพร้อมจัดบริการเดินทางจากสนามบินส่งถึงบ้าน หรือ ส่งโรงแรมที่พัก และให้การช่วยเหลือที่จำเป็น เช่น เรื่องตั๋วเดินทางและห้องพักรับรองในสนามบิน สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางต่อไปยังจุดหมายอื่นๆ
ซีอีโอของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ยังแถลงรู้สึกเศร้าใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขออภัยสำหรับประสบการณ์เลวร้ายที่ทุกคนบนเที่ยวบิน เอสคิว 321 ได้เผชิญเรื่องสำคัญลำดับแรกคือให้การช่วยเหลือทุกอย่างที่เป็นไปได้กับผู้โดยสารและลูกเรือ ขอแสดงความเสียใจและร่วมไว้ทุกข์กับครอบครัวและผู้เป็นที่รักของผู้โดยสารที่เสียชีวิต
นาย
โกะ ชุน ฟ่ง ยังเปิดเผยรายละเอียดช่วงเวลาที่เครื่องบินตกหลุมอากาศ ด้วยว่า เที่ยวบิน เอสคิว321 เผชิญภาวะตกหลุมอากาศขั้นรุนแรง แบบปัจจุบันทันด่วน ขณะบินอยู่ระดับความสูง 37,000 ฟุต เหนือลุ่มแม่น้ำอิรวะดี ในเมียนมา และอยู่ระหว่างการบินนาน 10 ชั่วโมง หลังออกเดินทางจากสนามบินฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ เพื่อมายังสิงคโปร์
ทั้งนี้ เครื่องบินโบอิ้ง 777-300 อีอาร์ เที่ยวบิน เอสคิว 321 ของสายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส พร้อมผู้โดยสาร 211 คน ลูกเรือ 18 คน ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (21 พ.ค.) หลังกัปตันแจ้งเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ เนื่องจากตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นผู้โดยสารชาวอังกฤษ วัย 73 ปี คาดเสียชีวิตจากภาวะหัวใจวาย และมีผู้บาดเจ็บอีก 30 คน .-สำนักข่าวไทย
JJNY : 5in1 พิธาร่วมประชุมกับผู้นำ│‘กัณวีร์’มอง 10ปี│ยอดสมัครสว.รวม3วัน │นายกฯสิงคโปร์ขอบคุณจนท.│กลุ่มปท.เกาะเล็กชนะคดี
https://www.matichon.co.th/politics/news_4588994
“พิธา” ร่วมประชุม Asian Leadership Conference ที่เกาหลีใต้ พบปะผู้นำระดับโลก แลกเปลี่ยนสถานการณ์โลก-สถานการณ์ประชาธิปไตย ครบรอบ 10 ปีรัฐประหาร 57
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่โรงแรมชิลลา ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการจัดการประชุม Asian Leadership Conference ครั้งที่ 15 เพื่อหารื่อเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจโลกภายใต้การคุกคามของอัตราเงินเฟ้อที่สูง และวิกฤตการเกิดที่ต่ำ โดยมีวิทยากรมากกว่า 250 คนจากทั่วโลก โดยเฉพาะกับบุคคลสำคัญทางการเมืองของสหรัฐ
ทั้งนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุม Asian Leadership Conference ร่วมกับผู้นำและอดีตผู้นำระดับโลกในสาขาต่างๆ โดยปีนี้เป็นการหารือในหัวข้อนวัตกรรมของการเป็นผู้นำ ในสถานการณ์โลกปัจจุบันและอนาคตที่มีความไม่แน่นอนสูง
นายพิธาได้ร่วมแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลก รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย เนื่องด้วยวันนี้ตรงกับวันครบรอบ 10 ปีรัฐประหารปี 2557 ผู้ร่วมประชุมจากประเทศต่างๆ ได้สอบถามถึงระบบยุติธรรมต่อผู้เห็นต่างทางการเมืองโดยเฉพาะกับเยาวชน ที่มีการประท้วงอดอาหาร รวมถึงสิทธิในการได้รับประกันตัว นอกจากนั้นช่วงบ่าย พิธาได้หารือกลุ่มย่อยกับนักการเมืองรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้และผู้นำรุ่นใหม่ของทวีปเอเชียในสาขาต่างๆ
ทั้งนี้ นายยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีดังกล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในยุคแห่งความไม่แน่นอน ที่ไม่มีใครสามารถมั่นใจในอนาคตได้ เนื่องจากโครงสร้างทางสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลงเนื่องจากอัตราการเกิดที่ต่ำ และเอไอ ที่กำลังพัฒนาอย่างน่าทึ่ง
สำหรับผู้นำและอดีตผู้นำที่เข้าร่วมสัมมนาในปีนี้ เช่น จาซินดา อาร์เดิร์น อดีตนายกฯ นิวซีแลนด์, ซันนา มาริน อดีตนายกฯ ฟินแลนด์, ไมเคิล อาร์. ปอมเปโอ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา, นายเควิน แม็กคาร์ธี อดีตประธานสภาสหรัฐ, ราห์ม เอมานูแอล ทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่น อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา, รอน ไคลน์ อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน, แคลร์รี่ จามาลุดดิน อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขของมาเลเซีย เป็นต้น
ส่วนกำหนดการในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.) เวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงโซล พิธาจะขึ้นเวทีเสวนาหัวข้อ Navigating Asia’s Uncertain Future : Lessons for Tomorrow’s Leaders (การนำทางสู่อนาคตที่ไม่แน่นอนของเอเชีย: บทเรียนสำหรับผู้นำแห่งอนาคต) ให้กับเหล่าผู้นำรุ่นใหม่ในสาขาต่างๆ ของทวีปเอเชียและนักการเมืองรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้
‘กัณวีร์’ มอง 10 ปี รัฐประหาร การเมืองไทยยังอยู่ใต้เงา คสช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4588635
‘กัณวีร์’ มอง 10 ปี รัฐประหาร การเมืองไทยยังอยู่ใต้เงา คสช. หวังประชาชนจะนำพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตย
วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า วันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วหลังรัฐประหารโดย คสช. ตนเองยังจำได้ดีว่าเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ได้รับคำสั่งให้ออกไปประจำการที่ซูดานใต้เป็นเจ้าหน้าที่ของ UNHCR ในฐานะ expatriate แบบเต็มตัว
“ตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งเวลาผ่านไป 10 ปี จนตอนนี้ผมมาเป็น ส.ส.ที่มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชนอย่างแท้จริง แต่ผมยังรู้สึกถึงกลิ่นอายและเงาของ คสช.อยู่ในปัจจุบัน” นายกัณวีร์กล่าว
นายกัณวีร์กล่าวว่า เวลาผ่านมา 10 ปี จนได้มาเป็น ส.ส. การเมืองไทยยังถูกครอบงำโดยคณะรัฐประหาร รัฐบาลที่มีผู้บริหารไม่ต่างจากชุดของคณะยึดอำนาจ การเรียกร้องของประชาชนที่มีเสียงดังมากขึ้นเรื่องการปฏิวัติระบบยุติธรรมวิบัติที่มีอยู่ การแทรกแซงของฝ่ายการเมืองในทุกเรื่อง การแบ่งแยกขั้วอย่างมองเห็นได้ชัด ความพยายามของกลุ่มการเมืองหรือบุคคลการเมืองที่จะมีอำนาจเหนือกลุ่มหรือคนอื่นๆ โดยไม่เห็นหัวประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง ความลำเอียงและการปฏิบัติต่อชนชั้นนำอย่างออกหน้าออกตาที่สร้างความโสมมและแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างชนชั้น ฯลฯ
“1 ทศวรรษที่ผ่านมาถึงเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในสังคมการเมืองไทยของเรา ประชาชนพอมีหวังกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ แต่เงาทะมึนของกลุ่มอำนาจเก่าที่ยึดอำนาจมาก็ยังคอยจ้องจะกลับมาที่เดิมเพราะความเกรงกลัวต่อสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากความเปลี่ยนแปลงครั้งหน้านี้จะไม่เหมือนสภาพแวดล้อมโครงสร้างอำนาจเดิมๆ แล้ว” นายกัณวีร์กล่าว
นายกัณวีร์กล่าวว่า ตนยังมีความหวังต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ประชาชนจะรู้สึกเชื่อมั่นในอำนาจของตนเองมากขึ้น โดยไม่หวังพึ่งใครตลอดเวลา นักการเมืองจะทำหน้าที่ผู้รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง รัฐบาลจะเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจและตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงตามการจัดลำดับความสำคัญที่ถูกต้อง รัฐและราชการจะโอบอุ้มประชาชนและทำงานเป็นเนื้อเดียวกับประชาชนและประชาสังคมโดยปราศจากชนชั้น ประชาชนจะกลับมามีอำนาจเต็มตามเป้าหมายของระบอบประชาธิปไตย
“ผมยังมีความหวังอย่างแรงกล้านี้ ถึงแม้เงาดำของอำนาจมืดยังคงอยู่อย่างชัดเจน ประชาชนเท่านั้นครับ จะเป็นผู้ตัดสินว่าเราต้องการการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้หรือไม่” นายกัณวีร์กล่าว
ยอดสมัคร สว.รวม 3 วัน 20,683 คน ยังเปิดรับสมัครอีก 2 วันถึง 24 พ.ค.นี้
https://siamrath.co.th/n/538214
วันนี้ ( 22 พ.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดการรับสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา 2567 หรือ สว. ทั่วประเทศสะสมจนถึงวันนี้รวม 3 วัน จำนวน 20,683 คน
โดยในวันนี้ วันที่สามของการรับสมัคร แม้จะเป็นวันหยุดวิสาขบูชา แต่มีผู้สนใจมาสมัคร จำนวน 9,434 คน ทั้งนี้จะมีการรับสมัครต่อไปอีกสองวัน เปิดจนถึงวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคมนี้
นายกฯ สิงคโปร์ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ไทย
https://tna.mcot.net/world-1368566
สิงคโปร์ 22 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์ แถลงขอบคุณเจ้าหน้าที่ในไทยที่ให้การช่วยเหลือดูแลผู้โดยสาร และลูกเรือ ของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ที่ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงจนต้องลงจอดฉุกเฉินในไทย
นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์ แถลงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ระบุว่า ในนามรัฐบาลและประชาชนชาวสิงคโปร์ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายในไทยที่ให้การสนับสนุนจัดหาความช่วยเหลือทางการแพทย์ และดูแลผู้โดยสาร และลูกเรือ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศ พร้อมกับขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอร่วมไว้ทุกข์กับครอบครัวของผู้โดยสารที่เสียชีวิต และขอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บพลิกฟื้นอาการสู่ปกติได้กลับบ้านโดยเร็ว
คำแถลงของนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ มีขึ้นหลังผู้โดยสาร 131 คน และ ลูกเรือ 12 คน ที่ไม่ได้รับอันตรายจากเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศ ได้เดินทางโดยเที่ยวบินบรรเทาทุกข์ ของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ถึงสนามบินชางงี ของสิงคโปร์แล้ว เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ตามวันเวลาท้องถิ่น โดยมีนายโกะ ชุน ฟ่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร หรือ ซีอีโอของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ให้การต้อนรับพร้อมจัดบริการเดินทางจากสนามบินส่งถึงบ้าน หรือ ส่งโรงแรมที่พัก และให้การช่วยเหลือที่จำเป็น เช่น เรื่องตั๋วเดินทางและห้องพักรับรองในสนามบิน สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางต่อไปยังจุดหมายอื่นๆ
ซีอีโอของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ยังแถลงรู้สึกเศร้าใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขออภัยสำหรับประสบการณ์เลวร้ายที่ทุกคนบนเที่ยวบิน เอสคิว 321 ได้เผชิญเรื่องสำคัญลำดับแรกคือให้การช่วยเหลือทุกอย่างที่เป็นไปได้กับผู้โดยสารและลูกเรือ ขอแสดงความเสียใจและร่วมไว้ทุกข์กับครอบครัวและผู้เป็นที่รักของผู้โดยสารที่เสียชีวิต
นายโกะ ชุน ฟ่ง ยังเปิดเผยรายละเอียดช่วงเวลาที่เครื่องบินตกหลุมอากาศ ด้วยว่า เที่ยวบิน เอสคิว321 เผชิญภาวะตกหลุมอากาศขั้นรุนแรง แบบปัจจุบันทันด่วน ขณะบินอยู่ระดับความสูง 37,000 ฟุต เหนือลุ่มแม่น้ำอิรวะดี ในเมียนมา และอยู่ระหว่างการบินนาน 10 ชั่วโมง หลังออกเดินทางจากสนามบินฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ เพื่อมายังสิงคโปร์
ทั้งนี้ เครื่องบินโบอิ้ง 777-300 อีอาร์ เที่ยวบิน เอสคิว 321 ของสายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส พร้อมผู้โดยสาร 211 คน ลูกเรือ 18 คน ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (21 พ.ค.) หลังกัปตันแจ้งเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ เนื่องจากตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นผู้โดยสารชาวอังกฤษ วัย 73 ปี คาดเสียชีวิตจากภาวะหัวใจวาย และมีผู้บาดเจ็บอีก 30 คน .-สำนักข่าวไทย