ตั้งแต่เราเกิดมาในโลกนี้ โชคไม่เคยจะเต็มใจให้เราโชคดีบ้างเลย ก่อนเราเกิดมาพี่และพ่อกับแม่ก็เป็นครอบครัวที่มีความสุข แต่หลังจากเราเกิดมาลืมตาดูโลกครอบครัวของเราก็เปลี่ยนไป
พ่อกับแม่ก็เริ่มทะเลาะกัน เพราะว่าพ่อเราขี้เกียจไม่ยอมไปทำงาน ทำให้แม่เราต้องดูแลเรากับพี่ ซึ่งแน่นอนตอนนั้นเราก็โกรธพ่อเรามากๆ และเราก็ยังจำได้ว่าแม่เราหยิบกระเป๋าและเดินออกไปหน้าบ้านพร้อมกับขึ้นรถใครไม่รู้ เราเห็นภาพนั้นเราร้องไห้หาแม่ พ่อเราก็ร้องไห้
มันทำให้พ่อเราไม่ยอมทำอะไรเลยเอาแต่นอนกับกิน ตอนนั้นยังเป็นเด็กที่ไม่คิดอะไรหรอก และตอนนั้นก็ยังร่าเริงสดใส ตอน ป.2 จำได้ว่าเรากับญาติที่เป็นผู้ชายได้เล่นซนกันและพอย่าของเรากลับจากทำงานย่าเราก็เห็นว่ามีเม็ดโฟมเต็มบ้านและเต็มหน้าบ้านและแน่นอนเราก็โดนตีคนเดียวทั้งๆที่ญาติคนนั้นเป็นคนทำเราพยายามบอกย่าว่าเราไม่ได้เป็นคนทำแต่ย่าก็ไม่ฟังตั้งแต่นั้นเราเริ่มคิดว่า ย่ารักแต่หลานที่เป็นผู้ชายแต่เราก็ไม่ได้คิดมาก (ตอนป.2)หลังจากนั้นเราก็ย้ายบ้านไปที่จังหวัดนึงโดยที่บอกกับเพื่อนสนิทคนนึงว่า "เปิดเทอมเจอกันนะ" แต่เราได้ย้ายไปโดยที่ไม่ได้อยากไป จนแม่เราโทรมา เราจึงคุยกับแม่เรื่องจะไปอยู่กับแม่เรา โดยการแอบพาเราไปแบบเงียบๆ พอเราถึงจังหวัดที่เราย้ายบ้านไป ย่าเราก็ได้ไปอยู่บ้านป้าของเรา(หรือลูกของย่าเราอีกคน) และก็ได้ไปอยู่สักพักเพราะว่าย่าเราจะสร้างบ้าน แถวๆนั้น ส่วนคนที่รู้ว่าแม่เราจะแอบพาเราไปอยู่ด้วยคือ พ่อ,พี่,(ลูกของป้า) และเราก็ได้แอบโทรคุยกับแม่เกี่ยวกับการแอบหนี ใช้จังหวะวันที่ไม่มีใครอยู่บ้านเรากับพ่อได้ขึ้นรถทัวร์ เพื่อไปที่บ้านแม่เรา.. พ่อเราก็ไปส่งถึงบ้านแม่ และพ่อเราก็ได้ไปนอนที่บ้านเพื่อน เราดีใจมากที่กลับมาบ้านเกิดอีกครั้ง แต่ไม่นานย่าเราก็รู้เพราะพอย่าทำธุระเสร็จตอนกลับมาไม่เจอเรากับพ่อ ย่าเราก็โทรหาญาติของเราๆ และโทรหาแม่ด้วยแม่เราก็ไม่ให้รับ แต่ย่าเราก็รู้เรื่องว่าเราแอบไปหาแม่จากใครสักคนเราเดาว่าอาจจะเป็นพ่อไม่ก็พี่(ลูกของป้า) และเราก็อาศัยอยู่กับแม่ตามปกติจนแม่เราบอกให้เราไปอยู่กับยายน่าจะเพราะเลี้ยงเราไม่ได้เพราะไม่มีเวลามันทำให้เราจิตใจสลายมาก พอไปอยู่กับยาย ยายเราก็บังคับให้กินข้าวเยอะๆ บางครั้งมันอิ่มมากจนเจ็บท้องสุดๆ มันทำให้จิตใจเรามันแย่กว่าเดิม เราโดยด่าและโดนยายเปรียบเทียบเรากับน้องเรา(น้องคนนั้นคือลูกของน้องของแม่) และพอย่ารู้ว่าเรามาอยู่กับยาย ย่าเราก็มาบ้านย่า ซึ่งตอนนั้นแม่อยู่ด้วยพอดี และเขาก็แย่งเรากันเราร้องไห้หนักมาก แถมเรายังเคยโดนลวมลามโดยญาติของเรา(ลูกของน้องของแม่) ซึ่งหลังจากนั้นจิตใจเรามันเสียใจและแค้นมากๆ เราเคยมีความฝันว่าจะได้แก้แค้นญาติคนนั้นโดยใช้วิธีรุนแรงแต่มันก็เป็นแค่ความคิดที่เราแค้นมากๆ
แต่เราไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวมากๆ แถมยังอายเพราะเขาเป็นญาติที่อายุเท่าเรา...ตอนนี้เราก็ยังแค้นและอาฆาตอยู่เราพร้อมจะเอาคืนเขาได้เสมอ และหลังจากเหตุการณ์ที่เราโดนลวนลาม
เราก็กลับไปบ้านย่ากลับไปหาพ่อหาพี่ ทุกอย่างก็ปกติดีแล้วเพราะบ้านสร้างเสร็จแล้วแต่หลังจากนั้นหลายเดือนวันที่เราเปิดเรียนก็มาถึง (ตอนนั้นเราอยู่ ป.4)เราก็ได้เรียนตามเด็กปกติ มีเพื่อนที่พร้อมจะรับฟังปัญหาที่บ้านเรา และผ่านไปหลายเดือน (จำได้ว่าเป็นเทอม1) พ่อเราโดนจับข้อหาขายยาบ้า เราโกรธพ่อเรามากเพราะเราอายแน่นอนมันดูเป็นลูกที่แย่แต่เราอายมากที่พ่อเราเล่นยาอายที่พ่อเรา ไม่ทำงานเอาแต่กิน หลังจากนั้นเราก็ไปเยี่ยมพ่อเรากับย่าและปู่ เราเศร้ามาก และแววตาพ่อเราดูรู้สึกผิดสุดๆ แต่ความจริงแล้วพ่อเราเป็นแพะรับบาป พ่อเรามีเพื่อนแถวบ้าน เขามาขอนอนด้วยก็ใช้ชีวิตตามปกติพอผ่านไปสัก2สัปดาห์เราก็เห็นว่าเขาชอบแอบแชทกับใครวันนั้นเราเห็นว่าเขาโทรคุยกับใครไม่รู้เราก็ไม่สนใจมากนัก จนกระทั่งเรากลับมาจากโรงเรียนคนแถวบ้านก็บอกย่าเราว่าพ่อเราโดนจับเราก็ตกใจและเศร้าอยู่นะ และมันก็ผ่านไปนานอยู่แหละจนเราจบป.5เราเป็นเด็กที่เรียนกลางๆ ในขณะที่พี่เราเรียนเก่งมากๆ ย่าเราก็แบกความหวังไว้ที่เรากับพี่เรากดดันมาก ตอนเที่ยงเราไม่ได้พักไปเล่นเหมือนเพื่อนแต่ต้องทำงาน พอผลสอบเราออกย่าก็โกธรเรามากเราได้ที่22(ทั้งห้อง37) เพราะตอนอยู่ป.4เราได้เกรดดีกว่านี้ เราไปแอบร้องไห้คนเดียวในห้องของเรา ส่วนย่าก็ด่าเราเศร้ามาก จนร้องไห้เยอะมากจนตาบวมมากๆ ตอนนี้จิตใจเรามันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่บางครั้งเศร้าบางครั้งโกธร. เราอาจจะเป็นคนเจ้าอารมณ์แต่มันมีเหตุผลนะ....🙂 (ถ้าเราพิมพ์ผิดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ)
ชีวิตของเด็กคนนึง(เรื่องนี้ยาวมากนะคะ)
มันทำให้พ่อเราไม่ยอมทำอะไรเลยเอาแต่นอนกับกิน ตอนนั้นยังเป็นเด็กที่ไม่คิดอะไรหรอก และตอนนั้นก็ยังร่าเริงสดใส ตอน ป.2 จำได้ว่าเรากับญาติที่เป็นผู้ชายได้เล่นซนกันและพอย่าของเรากลับจากทำงานย่าเราก็เห็นว่ามีเม็ดโฟมเต็มบ้านและเต็มหน้าบ้านและแน่นอนเราก็โดนตีคนเดียวทั้งๆที่ญาติคนนั้นเป็นคนทำเราพยายามบอกย่าว่าเราไม่ได้เป็นคนทำแต่ย่าก็ไม่ฟังตั้งแต่นั้นเราเริ่มคิดว่า ย่ารักแต่หลานที่เป็นผู้ชายแต่เราก็ไม่ได้คิดมาก (ตอนป.2)หลังจากนั้นเราก็ย้ายบ้านไปที่จังหวัดนึงโดยที่บอกกับเพื่อนสนิทคนนึงว่า "เปิดเทอมเจอกันนะ" แต่เราได้ย้ายไปโดยที่ไม่ได้อยากไป จนแม่เราโทรมา เราจึงคุยกับแม่เรื่องจะไปอยู่กับแม่เรา โดยการแอบพาเราไปแบบเงียบๆ พอเราถึงจังหวัดที่เราย้ายบ้านไป ย่าเราก็ได้ไปอยู่บ้านป้าของเรา(หรือลูกของย่าเราอีกคน) และก็ได้ไปอยู่สักพักเพราะว่าย่าเราจะสร้างบ้าน แถวๆนั้น ส่วนคนที่รู้ว่าแม่เราจะแอบพาเราไปอยู่ด้วยคือ พ่อ,พี่,(ลูกของป้า) และเราก็ได้แอบโทรคุยกับแม่เกี่ยวกับการแอบหนี ใช้จังหวะวันที่ไม่มีใครอยู่บ้านเรากับพ่อได้ขึ้นรถทัวร์ เพื่อไปที่บ้านแม่เรา.. พ่อเราก็ไปส่งถึงบ้านแม่ และพ่อเราก็ได้ไปนอนที่บ้านเพื่อน เราดีใจมากที่กลับมาบ้านเกิดอีกครั้ง แต่ไม่นานย่าเราก็รู้เพราะพอย่าทำธุระเสร็จตอนกลับมาไม่เจอเรากับพ่อ ย่าเราก็โทรหาญาติของเราๆ และโทรหาแม่ด้วยแม่เราก็ไม่ให้รับ แต่ย่าเราก็รู้เรื่องว่าเราแอบไปหาแม่จากใครสักคนเราเดาว่าอาจจะเป็นพ่อไม่ก็พี่(ลูกของป้า) และเราก็อาศัยอยู่กับแม่ตามปกติจนแม่เราบอกให้เราไปอยู่กับยายน่าจะเพราะเลี้ยงเราไม่ได้เพราะไม่มีเวลามันทำให้เราจิตใจสลายมาก พอไปอยู่กับยาย ยายเราก็บังคับให้กินข้าวเยอะๆ บางครั้งมันอิ่มมากจนเจ็บท้องสุดๆ มันทำให้จิตใจเรามันแย่กว่าเดิม เราโดยด่าและโดนยายเปรียบเทียบเรากับน้องเรา(น้องคนนั้นคือลูกของน้องของแม่) และพอย่ารู้ว่าเรามาอยู่กับยาย ย่าเราก็มาบ้านย่า ซึ่งตอนนั้นแม่อยู่ด้วยพอดี และเขาก็แย่งเรากันเราร้องไห้หนักมาก แถมเรายังเคยโดนลวมลามโดยญาติของเรา(ลูกของน้องของแม่) ซึ่งหลังจากนั้นจิตใจเรามันเสียใจและแค้นมากๆ เราเคยมีความฝันว่าจะได้แก้แค้นญาติคนนั้นโดยใช้วิธีรุนแรงแต่มันก็เป็นแค่ความคิดที่เราแค้นมากๆ
แต่เราไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวมากๆ แถมยังอายเพราะเขาเป็นญาติที่อายุเท่าเรา...ตอนนี้เราก็ยังแค้นและอาฆาตอยู่เราพร้อมจะเอาคืนเขาได้เสมอ และหลังจากเหตุการณ์ที่เราโดนลวนลาม
เราก็กลับไปบ้านย่ากลับไปหาพ่อหาพี่ ทุกอย่างก็ปกติดีแล้วเพราะบ้านสร้างเสร็จแล้วแต่หลังจากนั้นหลายเดือนวันที่เราเปิดเรียนก็มาถึง (ตอนนั้นเราอยู่ ป.4)เราก็ได้เรียนตามเด็กปกติ มีเพื่อนที่พร้อมจะรับฟังปัญหาที่บ้านเรา และผ่านไปหลายเดือน (จำได้ว่าเป็นเทอม1) พ่อเราโดนจับข้อหาขายยาบ้า เราโกรธพ่อเรามากเพราะเราอายแน่นอนมันดูเป็นลูกที่แย่แต่เราอายมากที่พ่อเราเล่นยาอายที่พ่อเรา ไม่ทำงานเอาแต่กิน หลังจากนั้นเราก็ไปเยี่ยมพ่อเรากับย่าและปู่ เราเศร้ามาก และแววตาพ่อเราดูรู้สึกผิดสุดๆ แต่ความจริงแล้วพ่อเราเป็นแพะรับบาป พ่อเรามีเพื่อนแถวบ้าน เขามาขอนอนด้วยก็ใช้ชีวิตตามปกติพอผ่านไปสัก2สัปดาห์เราก็เห็นว่าเขาชอบแอบแชทกับใครวันนั้นเราเห็นว่าเขาโทรคุยกับใครไม่รู้เราก็ไม่สนใจมากนัก จนกระทั่งเรากลับมาจากโรงเรียนคนแถวบ้านก็บอกย่าเราว่าพ่อเราโดนจับเราก็ตกใจและเศร้าอยู่นะ และมันก็ผ่านไปนานอยู่แหละจนเราจบป.5เราเป็นเด็กที่เรียนกลางๆ ในขณะที่พี่เราเรียนเก่งมากๆ ย่าเราก็แบกความหวังไว้ที่เรากับพี่เรากดดันมาก ตอนเที่ยงเราไม่ได้พักไปเล่นเหมือนเพื่อนแต่ต้องทำงาน พอผลสอบเราออกย่าก็โกธรเรามากเราได้ที่22(ทั้งห้อง37) เพราะตอนอยู่ป.4เราได้เกรดดีกว่านี้ เราไปแอบร้องไห้คนเดียวในห้องของเรา ส่วนย่าก็ด่าเราเศร้ามาก จนร้องไห้เยอะมากจนตาบวมมากๆ ตอนนี้จิตใจเรามันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่บางครั้งเศร้าบางครั้งโกธร. เราอาจจะเป็นคนเจ้าอารมณ์แต่มันมีเหตุผลนะ....🙂 (ถ้าเราพิมพ์ผิดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ)