ปีนี้เราจะอายุครบ 18 ปีพอดีค่ะ เรามีปัญหากับตาค่ะ บอกก่อนนะคะว่าพ่อกับแม่แยกทางกันค่ะ โดยเราอยู่บ้านฝ่ายแม่เพราะพ่อเรามีฐานะค่อนข้างจนค่ะ จึงไม่สามารถเลี้ยงดูเราได้ แต่ก็มีโอนค่าใช้จ่ายกลับมาให้ทุกเดือนนะคะ แล้วก็มีติดต่อมาบ้างทุกอาทิตย์ค่ะ เราโดนตาแท้ๆล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่อายุได้ 7 ขวบ เท่าที่จำความได้นะคะ ตอนนั้นยอมรับเลยว่าไม่รู้จริงๆว่าสิ่งที่โดนทำอยู่มันคืออะไร ด้วยความที่เป็นเด็กจึงเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติ พอเราโตขึ้นอายุได้ 13 ปีจึงได้พอเข้าใจค่ะว่าสิ่งที่โดนมันคืออะไร เราไม่กล้าพูดกับใครในครอบครัวเลยตอนนั้น ทั้งกลัวแล้วก็ไม่กล้าด้วยค่ะ แต่เราพยายามหลีกเลี่ยงที่จะอยู่กับตาสองคนให้ได้มากที่สุด เราโดนทั้งจับนม ลูบ ล้วงบริเวณอวัยวะเพศ แต่ไม่ได้มีการสอดใส่ค่ะ เราโดนจนตอนนั้นอยู่ม.3 จึงขอห้องส่วนตัวกับแม่ค่ะ ตอนนั้นดีใจมากจริงๆที่จะหลุดพ้นแล้วเพราะทุกครั้งที่นอนจะล็อคห้องตลอด แต่ตามีกุญแจห้องค่ะ มันเป็นคนเก็บกุญแจห้องทั้งบ้าน ใช่ค่ะ ฝันร้ายมันกลับมาอีก มันแอบเข้ามาในห้องเราตอนช่วงตีสาม ตีสี่เกือบทุกคืน เรานอนร้องไห้หนักมาก ไม่รู้จะขอให้ใครช่วยได้ จนขึ้นม.4 เราตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านย่าค่ะ ตอนนั้นจำได้ว่าตาด่าเราว่าพูดจาเลอะเทอะเพราะยายจับได้ในสิ่งที่มันทำค่ะ เราทนไม่ไหวจึงหนีออกมา เราเล่าทุกอย่างให้บ้านฝั่งพ่อฟัง ว่าเราไม่อยากกลับไปแล้ว เรารู้สึกว่าตอนนั้นสภาพจิตใจแย่มากจริงๆค่ะ มันโทรมาหาเราค่ะ บอกว่าที่ทำไปเพราะรัก เอ็นดู ไม่ได้เจตนาไม่ดี เราร้องไห้ค่ะ ไม่ใช่เสียใจนะคะแต่เป็นเพราะโกรธในสิ่งที่มันพูดออกมา เราตัดสินใจกลับไปบ้านนั้นอีกครั้งเพื่อไปเก็บของและเสื้อผ้าค่ะ ยายเดินเข้ามากอดแล้วร้องไห้กับเราว่าไม่ไปได้มั้ย เดี๋ยวยายไปคุยกับตาให้ ตาก็ขอโทษแล้วหนูจะเอาอะไรอีก เราบอกว่าถ้ามันสำนึกขอโทษได้จริงๆมันต้องมาขอโทษหนูต่อหน้า ไม่ใช่มาพูดลับหลังกับยายว่าขอโทษหนูแล้วแต่จริงๆไม่ใช่ ตอนนั้นเราควบคุมอารมณ์ไม่ได้เลยค่ะ ร้องไห้ไปเก็บผ้าไป แล้วมันก็เดินมาค่ะ มันด่าเราว่าภูมิใจมากสินะที่ป่าวประกาศให้เค้ารู้ไปทั่ว หัดอายบ้างมั้ย มันตะคอกเสียงดังเลยค่ะ เราได้แต่เกิดคำถามขึ้นมาว่าเราคือคนที่ควรอายจริงๆหรอ ควรเป็นมันรึเปล่าที่อาย อายที่กล้าทำเรื่อง
ๆแบบนี้กับหลานตัวเอง ได้ยินเสร็จเราไม่ฟังไม่สนอะไรทั้งนั้นค่ะ เราเก็บของแล้วตรงไปบ้านย่าทันที เราอยู่บ้านย่าได้ 2 เดือนกว่าๆ เรารู้สึกมีความสุขมากจริงๆ ทั้งอา ทั้งย่า ทั้งพ่อต่างเข้าใจเรา เค้าพยายามไม่พูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจเรา เค้าให้กำลังใจเราบ่อยมากๆซึ่งต่างกับบ้านฝั่งแม่ที่เราไม่เคยได้รับกำลังใจหรือคำชมอะไรเลย ได้รับแต่คำด่าและคำพูดที่มัน toxic อยู่ตลอด หลังผ่านไปได้ 3 เดือนกว่าๆแม่โทรมาค่ะ แม่โทรมาขอโทษ เค้าขอโทษเราทุกอย่างที่ตอนนั้นเค้าไม่เข้าใจเรา เค้าขอโทษที่ตอนนั้นเค้าเข้าข้างมันมากกว่าเรา ไล่เราออกจากบ้าน ยายก็ด้วยค่ะ ยายบอกว่ามันจะไปบวชแล้ว มันสำนึกผิดแล้ว กลับมาอยู่บ้านเรากันเถอะ ซึ่แน่นอนว่าเราเองก็รักแม่และยายนะคะ สงสารท่านมากๆด้วยที่โดนมันพูดจาแย่ๆใส่จนกลายเป็น่ายายกับแม่มีความคิดแบบนั้น เราคิดว่ามันคงจะสำนึกจริงๆ จึงให้อภัยค่ะ เราสัญญากับย่าว่าถึงเราจะย้ายไปอยู่บ้านนั้นแล้วเราก็จะมาหาย่าบ่อยๆ ให้มากกว่าเมื่อก่อน หลังจากนั้นพอเรากลับไป แรกๆมันก็ดีค่ะ ไม่ยุ่งกับเรา แต่พูดกับแม่และยายว่ามันก็ไม่ได้ติดค้างอะไรเรื่องเรา ให้อภัยเรา ซึ่งเรางงมากๆว่ามันเล่าให้ยายกับแม่เกี่ยวกับเราว่าอะไร ทำไมมันพูดเหมือนเราเป็นฝ่ายผิดแล้วเราขอกลับมาอยู่บ้านหลังนี้ แต่เราเลือกที่จะไม่ใส่ใจค่ะ เพราะปีนี้เราก็ม.6 แล้ว ต้องเตรียมตัวเข้ามหาลัย เราอ่านหนังสือจนไม่มีเวลาให้คิดอะไรเลยค่ะ ซึ่งเรามองว่ามันก็ดีไปอีกแบบ เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนเราคงนอนคิดมากจนนอนไม่หลับทุกคืนและวันนี้มันกลับมาอีกแล้วค่ะ คำพูด toxic ที่เราเกลียดที่สุด มันเดินมาด่าเรา ดูถูกเรา ดูถูกคณะมหาลัยที่เราจะเข้า มันด่าว่าเราเป็นอีตัวมาเกาะบ้านกิน เราโกรธมากค่ะ โกรธจริงๆ ซึ่งจริงๆแล้วเราไม่เคยขอกลับมาอยู่ที่นี่เลยสักครั้งเดียว เราโทรไปหาพ่อ พ่อก็บอกว่ากำลังทำเรื่องซื้อบ้านหลังใหม่อยู่ อดทนรอก่อนนะลูก เราไม่อยากทนแล้วค่ะ เราร้องไห้จนปวดหัวไปหมดแล้ว ทำไมชีวิตวัยรุ่นของเรามันถึงเป็นแบบนี้ เราไม่รู้จะโทษใคร เราควรทำยังไดีคะ
มีปัญหาครอบครัว อยากหนีออกจากบ้าน