แฟนซื้อบ้านให้พ่อแม่อยู่ แต่ตัวเองต้องออกมาอยู่ข้างนอกอย่างประหยัด ควรจัดการปัญหานี้ยังไงดีคะ

ขออนุญาตลบข้อความเดิมทั้งหมดนะคะ และขอบคุณสำหรับทุกคำตอบของทุกๆคน
ตอนนี้ทาง จขกท.ได้คิดไตร่ตรองอะไรได้เยอะขึ้นเลยค่ะขอบคุณจากใจจริงค่ะ🥹

ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนที่ไม่ได้อธิบายชัดเจนตั้งแต่แรกนะคะ

1. ทางเรากับแฟนมีแผนจะแต่งงานกันตั้งแต่เรียนจบทำงานสักปีสองปีเนื่องจากคบกันมาค่อนข้างนานแต่ทางแฟนเราเก็บเงินยังไม่ได้เนื่องจากติดปัญหาเรื่องบ้าน

2. เราไม่ได้อยู่บ้านแฟนถาวรนะคะ เราไปแค่วันที่หยุดงาน เดือนละไม่กี่ครั้ง ที่เหลือเรานอนอยู่บ้านตัวเองค่ะ ยังไม่เชิงไปอยู่กินกันก่อน

3. บ้านหลังนี้ตอนแรกที่คุยกันคือให้พวกเราอยู่เพราะเห็นว่ากำลังจะสร้างตัวเก็บตังค์แต่งงาน ชื่อบ้านเป็นชื่อแฟนค่ะ แฟนเงินเดือนค่อนข้างเยอะสามารถผ่อนคนเดียวได้ ต่อให้พ่อเค้าเกษียณแล้ว ทางเราเคยตกลงกันว่าถ้าแต่งงานเราก็จะมาช่วยผ่อนแต่เราอยากให้บ้านเป็นแค่ของเราสองคน เงินที่พ่อเคยช่วยก็จะเอาคืน เพราะเราคิดว่าถ้าวันนึงเรามีลูก แล้วพ่อแม่เราอยากจะมาเล่นมานอนกับหลานพ่อแม่เราก็จะอึดอัด ถ้ามีพ่อแม่แฟนอยู่บ้านด้วย เราอยากให้บ้านเป็นแค่ของเรากับแฟนจะได้สามารถต้อนรับได้ทั้ง 2 ฝั่งไม่ต้องมีฝ่ายไหนต้องอึดอัดใจ แต่ทางเราก็ผิดที่ไม่เข้าใจว่า พ่อเขาพูดว่าช่วยสร้างให้เค้าอยู่แปปเดียวก็ไป คือทุกคนคิดว่าเค้าแค่มาอยู่ช่วงแรก ถ้าเราแต่งงานกันแล้วเค้าคงย้ายออกให้ เพราะเค้าพูดเชิงประมาณนี้มาตลอดค่ะเลยทำให้เราสองคนเข้าใจผิด เพราะตอนที่แฟนบอกว่าจะไม่ซื้อบ้านแล้วทางพ่อแม่แฟนก็เป็นคนเอ่ยปากว่าซื้อเพราะให้พวกเราอยู่กัน แต่ก็นั่นแหละค่ะเราไม่ได้คุยกันให้เข้าใจตั้งตอนนั้นถ้าเข้าใจว่าเค้าจะอยู่ด้วยไปตลอดแฟนก็ไม่ซื้อบ้านนี้ค่ะ

4. หน้าที่การงานและเงินเราค่อนข้างมั่นคงค่ะ ไม่ว่าเจอวิกฤตอะไรงานที่เราทำไม่เคยได้รับผลกระทบ ทุกคนอาจมองว่าเราพึ่งพาแฟนมากเกินไป เราขออธิบายในส่วนนี้ว่าเราคิดว่าเราสามารถออกมาซื้อบ้านด้วยกันได้อีกหลังหรือให้เราซื้อคนเดียวก็น่าจะพอได้ แต่เรากลัวปัญหาในอนาคตเกี่ยวกับบ้านหลังเดิมที่เค้าเคยซื้อให้พ่อแม่ จะตามมาเป็นปัญหาในชีวิตคู่ของเราในอนาคต หากวันนึงเรามีลูกต้องส่งเสียเลี้ยงดูลูก ต้องจ่ายค่าเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ เรายังไม่มีความมั่นใจว่าแฟนเราจะรับผิดชอบเรื่องที่จะเกิดขึ้นได้

5. แฟนเราไม่ได้ไล่ให้พ่อกลับไปอยู่บ้านเก่าในทันทีนะคะ มีการพูดคุยเจรจากันก่อนว่าอีก 2 ปี จะแต่งงานกันเราอยากอยู่กันแบบครอบครัวสองคน ทางแฟนเราพูดดีด้วยแล้วแต่พ่อแฟนก็ด่าว่าแฟนเรา ประมาณเป็นผู้ชายก็ต้องเป็นผู้นำแสดงความเป็นใหญ่ไม่ใช่แฟนพูดอะไรก็ต้องคล้อยตาม พูดประมาณว่าก็ต้อกดให้เราอยู่ใต้อำนาจการตัดสินใจของแฟนสิ เราก็ถามแฟนว่าแล้วคุณอยากอยู่บ้านที่มีพ่อแม่แบบนี้ต่อไปไหม แฟนเราก็บอกไม่ อยากอยู่กันแค่ 2 คน น่าจะดีกว่าจะได้ไม่เกิดปัญหา ก็พูดว่าให้เขาขายบ้านหลังเก่าได้ไหมแล้วเอามาโปะหลังนี้ ทีเหลือแฟนก็จะช่วยจ่ายให้ แต่เค้าก็ไม่เอาจะอยู่แต่ไม่ขายอะไรทั้งนั้น ก็ไล่ให้เรา 2 คนไปอยู่บ้านหลังเก่าถ้าอยากทดลองอยู่กันสองคนแต่ต้องผ่อนบ้านหลังใหม่ให้เค้าอยู่ แฟนเลยบอกให้เขาไปอยู่บ้านเก่าได้ไหม ถ้าจะให้แฟนผ่อนต่อหลังนี้ ก็ผิดจริงๆนั่นแหละค่ะที่ไปไล่เค้ากลับไปหลังเก่า ข้อเสนอสุดท้ายแฟนเลยบอกให้ขายเลยไหมไม่ต้องมีใครอยู่แล้วไปเริ่มใหม่กันจะได้ตัดปัญหาพ่อแฟนก็ไม่ยอมอีก จนทางเราก็จนปัญญา ถ้าอยู่กันไปก็มีแต่จะอึดอัดเราเลยตัดสินใจถอยออกมา ถ้าเรายังอยู่แบบนี้ต่อไปก็ต้องมีปัญหาพ่อแม่ผัวลูกสะใภ้อยู่ดี เราเลือกที่จะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม และเราก็ไม่เคยเสี้ยมแฟนให้ไล่พ่อแม่ออกจากบ้านนะคะ แฟนเราเป็นคนไปคุยเจรจากับทางบ้านเองแค่เค้ากับ่อแม่เค้า เราแค่หวังให้เค้าได้คิดบ้างว่าลูกเขาก็ต้องสร้างอนาคตสร้างครอบครัวเหมือนกันนะ 

6. ที่แฟนเราซื้อบ้านหลังนี้เจตนาคือซื้อเพื่อสร้างครอบครัวกับเราค่ะ ตามที่พ่อแม่เค้าแนะนำว่าอยากให้อยู่ในสังคมที่ดีถ้าแต่งงานมีลูกก็อยากให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อนบ้านที่ดี สถานะของเราไม่ใช่แค่ผู้มาขออาศัยเพราะในอนาคตแต่งงานเราต้องช่วยผ่อนอยู่แล้วค่ะ แต่ก็นั่นแหละค่ะเราไม่ได้คุยกันชัดเจนว่าเค้าจะขอมาอยู่กับเราตลอดไป

7. เราไม่เลือกกลับไปอยู่บ้านเก่าแฟน เพราะเราคิดว่าไม่อยากไปแตะต้องทรัพย์สินอะไรของเค้า ในเมื่อเรามีบ้านพ่อแม่เรา มีคอนโดอยู่เราไม่จำเป็นต้องไปพึ่งเค้าเลยค่ะ แค่นี้เค้าก็ดูถูกเราสองคนมากพอแล้วค่ะ

8. เรื่องห้องนอนที่ให้แขกมานอนเราเคยพูดกับแฟนแล้วว่าเราไม่โอเค นี่คือพื้นที่ส่วนตัวของเรา ของในห้องเราก็เป็นคนซื้อเองทั้งหมด แฟนเราเป็นคนขี้เกรงใจ เค้าก็ไปพูดกับแม่ แม่เค้าก็บอกว่าเกรงใจแต่สุดท้ายแขกมาก็ให้มานอนอีกซึ่งตรงนีเราก็ไม่เห็นด้วยค่ะ

9. ต่อให้เรามีบ้านใหม่ เราเคยคุยกับพ่อแม่เราแล้วยังไงเค้าก็ไม่มาอยู่ด้วยค่ะ เพราะเค้าอยากให้พวกเราใช้ชีวิตกันเองยิ่งคนเยอะยิ่งมากปัญหาเพราะเราก็โตมาแบบครอบครัวเดี่ยว ตัดปัญหาเรื่องที่พ่อแม่เราจะมาขออยู่ด้วยได้เลยค่ะ

10. ขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับทุกคำตอบที่ทั้งให้กำลังใจแล้วด่าเตือนสติเรา ตอนนี้คิดได้เยอะขึ้นเลยค่ะขอบคุณมากๆนะคะ🥰
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เคยคิดอยากจะเลิกไหมคะ ? เราคิดว่า จขกท.เสียเวลาชีวิตกับครอบครัวนี้มานานเกินไปแล้ว ถ้าให้แนะนำ
เราบอกได้แค่ว่า เลิกเถอะ ครอบครัวฝ่ายชายตั้งแง่รังเกียจคุณพอสมควร รู้ไหมว่าทำไมพ่อแม่ฝ่ายชายถึงไม่ยอมย้ายกลับไปบ้านหลังเก่า เพราะเขากลัวว่าคุณจะเอาพ่อแม่ของคุณเข้ามาอยู่แทนที่พวกเขา และจากที่คุณเล่ามา มันมีปมอะไรหลายอย่างที่เรารู้สึกว่าเขาไม่ได้อยากรับคุณเข้ามาเป็นสะใภ้

เสียเวลาชีวิตไปแค่นี้ก็พอแล้วละ ถึงเวลาเดินหน้าหาสิ่งใหม่ๆ ถ้า จขกท.เป็นน้องสาวเรา คงจะขอร้องให้ทบทวนความสัมพันธ์ให้ดี

แต่ถ้าคิดว่า ไม่อยากเลิก แฟนไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ขอให้ จขกท.อดทนให้มาก งานแต่งก็ลองจัดเป็นงานเล็กๆ ญาติเราเคยจัดงานแต่งที่โรงแรม เป็นงานเล็กๆ ที่เชิญญาติไม่กี่คน ใช้เงินไม่มากเท่าไหร่ ลองเอาไปคุยกับแฟนดูนะ (เราเชื่อว่า ถ้าแฟน จขกท.เอาไปคุยกับพ่อแม่เขา ฝ่ายนั้นต้องออกอาการค้านแน่นอน ถ้ามาแนวนี้ก้คงคิดได้นะว่า ควรจะไปทางไหนต่อ)
ความคิดเห็นที่ 24
ในเรื่องนี้ก็มีปัญหาทุกคน

เริ่มแรกคือแฟนและพ่อคิดน้อยไปซื้อบ้านซะแพง โดยที่แฟนเพิ่งเริ่มทำงาน พ่อกำลังเกษียณ ที่จริงไม่ต้องแบ่งบ้านหลังนี้กันก็ได้นะ อีกไม่นานมันก็ผ่อนไม่ไหวอยู่แล้ว แฟนคุณจะแบกได้นานแค่ไหนกับเศรษฐกิจแบบนี้

แฟนเป็นคนกลางที่ไม่สามารถจัดการอะไรได้ ทั้งๆที่ต้องจ่ายค่าบ้าน พ่อก็ดื้อ เอาแต่ใจ

ส่วนคุณเองก็เอาแต่ใจเหมือนกันนะ  คือบ้านมันก็ซื้อไปแล้วอะ ถ้าอยากแต่งกันเป็นครอบครัวกันมันก็ต้องอยู่กันให้ได้ ถ้าคิดว่าเค้าเป็นพ่อแม่ตัวเอง เวลาทะเลาะกันเล็กๆน้อยๆ คุณจะหนีออกจากบ้านไหม ก็คงไม่ แต่เพราะนี่เป็นพ่อแม่แฟน ไม่พอใจก็อยากจะเดินออกไป ที่พ่อเค้าคิดว่าคุณเสี้ยมให้ลูกเค้าเลือกทางนี้ พ่อเค้าก็ไม่ได้เข้าใจผิด

ถ้าคุณคิดว่ายังไงก็ต้องอยู่กันให้ได้ มันมีทางจะพูดคุยกันอยู่เรื่องเอาญาติมา ลูกชายก็ต้องไปบอกว่าไม่ได้ อยากนอนก็นอนห้องอื่น ส่วนเรื่องล้างจานกับเสื้อใน เป็นเรื่องเล็กกระติ๋วเดียว ไม่เห็นว่าจะอยู่ไม่ได้ยังไง

ครอบครัวอะ มันก็ชุลมุนแบบนี้ ทางเลือกสำหรับคุณน่ะ คืออยากเป็นครอบครัวเดียวกับเค้าหรือไม่ แค่นั้นแหล่ะ
ความคิดเห็นที่ 17
ถ้าคุณมีเงินเดือนเยอะๆ คงจะ smart. กว่านี้
จะสร้างอะไร ก็สร้างเอง ไม่ต้องรอแฟน ลองกลับมาทบทวนตัวเองก่อนก็ดีครับ งาน เงิน โอเคแล้วยัง ถ้ายังหางานหรือพัฒนาตัวเองเพื่อให้มีเงินเยอะๆแล้วอะไรๆก็จะง่ายขึ้นครับ

ดูๆแล้วเหมือนคุณจะฝากชีวิตที่แฟนทุกอย่างเลย
พอแฟนเริ้มติดขัด ชีวิตคุณก็ดูเหมือนจะตันไปด้วยเลย

ให้กำลังใจนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่