หยุดยาเอง เพราะกินแล้วมีอาการใจสั่น..จึงทำให้โรคที่เป็นอยู่เล่นงานจนอาการเริ่มแย่ลง

กระทู้คำถาม
คืออย่างงี้ค่ะ เมื่อปีที่แล้วเราเคยไปหาหมอสุขภาพใจมาค่ะเพราะมีอาการเหงื่อออกง่ายและใจสั่นอาการเข้าข่ายแพนิคเลยค่ะเลยไปทีแรกคิดว่ามันเป็นอาการทางร่างกายแต่ไปตรวจหัวใจก็ปกติดีทุกอย่างตรวจต่อมทอมซิลก็ปกติ จนหมอเขาส่งไปสุขภาพใจก็เลยไปนั่งคุยเขาก็ถามอากานต่างๆของเราแต่ตอนที่ตอบเราตอบไม่หมดหรอกค่ะเพราะมีผึปกครองนั่งอยู่ด้วยบางอย่ามันก็พูดออกมาไม่ได้แล้วเราก็ร้องไห้ออกมาค่ะเพราะมันเศร้าแต่พูดไม่ได้55
พอคุยจบหมอก็บอกว่าเราเป็นวิตกกังวลและก็ให้ใบประเมินสุขภาพจิตที่ให้ครูประจำชั้นประเมินอะค่ะและก็ให้ผู้ปดครองประเมิน เเล้วเราก็ไปรับยาแต่ยาที่ได้มันเป็นยาต้านซึมเศร้าแต่มันก็ย่าจะช่วยได้เหมือนกันอันนั้นเราไม่ได้ติดใจอะไร แต่พอเริ่มกินวันแรกมันจะชอบใจสั่นอะค่ะและเป็นแบบนี้ติดต่อไป4-5วันเราเลยหยุดกินหลังจากนั้นมันเริ่มมีภาวะซึมเศร้าแทรกเข้ามาตลอดเลยตั้งแต่หยุดกิน จนเราไม่สบายใจแต่ก็ไม่กล้ากินเพราะกลัวว่าเราอาจจะคิดไปเองรึเปล่าว่าเราป่วยเพราะบางทีเราก็ปกติจนมาเรื่อยๆอาการเริ่มแย่ลงจนปัจจุบันเราก็ยังไม่กินอาการแย่มาตลอดตื่นมาก็ร้อง บางทีก็อยากหนีไปทีสงบๆไม่อยากเจอใครเราเบื่อออาการพวกนี้มากเราอยากปกติเราเหนื่อย เราพูดกับใครไม่ได้เพราะแต่ละคนเขาก็มีภาระเราอยากทราบว่าถ้าหยุดกินยาไปเป็นปีละกลับไปกินอีกแล้วถ้ามีอาการใจสั่นจะต้องไปหาหมอไหมคะ หรือว่าผลข้างเคียง เเต่เราอาการขึ้นๆลงๆมากบางทีก็อยากตา ย ให้มันจบๆบางทีก็ไม่อยาก เหมือนมีสองจิตสองใจตลอด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่