JJNY : ศิธาแนะภูมิธรรม โดยมารยาท│เช้านี้เหนือ11จว.สำลักฝุ่น │GDPถูกหั่น วิกฤตเชื่อมั่น│ร้อนจัดกระทบแท็กซี่ในเมียนมา

ศิธา แนะภูมิธรรม โดยมารยาทควรคุยแบงก์ชาติด้วยเหตุผล ไม่ใช่ส่งข้อความดิสเดรดิตว่อนไลน์.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4561662
 
 
ศิธา ติง ‘ภูมิธรรม’ ส่งข้อความดิสเดรดิต ‘แบงก์ชาติ’ ว่อนหลายกรุ๊ปไลน์ แนะโดยมารยาท รมว.พณ.ควรไปคุยด้วยเหตุผล

จากกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวแถลงบนเวที 10 เดือน ที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10 ตำหนิ ธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) ที่ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารเศรษฐกิจ ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) มองว่าเรื่องดังกล่าว น.ส.แพทองธารสะท้อนความเห็นอย่างตรงไปตรงมาต่อแบงก์ชาติ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของการพัฒนาและดูแลระบบเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ แบงก์ชาติไม่ใช่สถาบันที่อยู่เหนือการเมือง ไม่ใช่องค์กรที่ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ประชาชนทุกฝ่ายสามารถเสนอความเห็นได้นั้น

ล่าสุด คืนวันที่ 5 พฤษภาคม น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯและอดีตสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ได้โพสต์ผ่านแอพพลิเคชั่น X ถึงกรณีดังกล่าว ความว่า 

จริงอยู่…ที่ประชาชน มีสิทธิ

“วิพากษ์-วิจารณ์ แบงก์ชาติ”

แต่ “โดยมารยาท” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ของประเทศไทย
ควรคุยกับแบงก์ชาติด้วยเหตุด้วยผล
ไม่ควรส่งข้อความ Discredit
ธนาคารหลักของชาติ กระจาย
ไปหลากหลายไลน์กรุ๊ป เช่นนี้
แบงก์ชาติใด ไม่มีเครดิต
การพาณิชย์ ก็ไปได้ลำบาก
ครม.ปรับได้, รมต.เปลี่ยนได้
แต่เครดิตและศักดิ์ศรี
ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องคงอยู่

https://twitter.com/SitaDivari/status/1787101467201180050


 
เช้านี้ เหนือ 11 จว.สำลักฝุ่น ‘เชียงราย’ พุ่ง 158.8 ไมโครกรัม กรุงเทพฯ 9 เขตอ่วม
https://www.matichon.co.th/local/news_4561834

เช้านี้พบ 11 จังหวัดโซนเหนือ ค่าฝุ่นมีผลกระทบต่อสุขภาพ ด้าน กทม. พบ 9 เขตพื้นที่ค่าฝุ่นสูง
 
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 พฤษภาคม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น เช็คฝุ่น

พบ 11 จังหวัด มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับ สีแดง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและทางเดินหายใจ ได้แก่
• เชียงราย 158.8 ไมโครกรัม
• เชียงใหม่ 141.9 ไมโครกรัม
• ลำพูน 136.4 ไมโครกรัม
• พะเยา 131.6 ไมโครกรัม
• แม่ฮ่องสอน 128.2 ไมโครกรัม
• ลำปาง 118.6 ไมโครกรัม
• แพร่ 102.3 ไมโครกรัม
• น่าน 94.9 ไมโครกรัม
• สุโขทัย 87.8 ไมโครกรัม
• อุตรดิตถ์ 85.5 ไมโครกรัม
• ตาก 82.1 ไมโครกรัม
ในขณะที่อีก 46 จังหวัด พบคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครพบ 9 เขตที่ค่าฝุ่นมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีแดง) ได้แก่
• บางคอแหลม
• ราชเทวี ธนบุรี
• คลองสาน
• ราษฎร์บูรณะ
• บางกอกใหญ่
• พญาไท
• บางกอกน้อย
• สาทร
ในส่วนเขตพื้นที่อื่นพบคุณภาพเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ


 
GDP ถูกหั่น วิกฤตเชื่อมั่น เร่งเงินดิจิทัล-ลงทุน1.6 ลล.
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_713213/

ตัวเลข “จีดีพี” ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดความมั่นคง และ ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงเห็นทุกรัฐบาลออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเพื่อให้จีดีพีโตแต่สำหรับปี 2567 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่มีความท้าทาย นั่นเพราะหลายสำนักวิจัยได้ออกมาปรับลดประมาณการ”จีดีพี” ลง เพื่อสะท้อนถึงภาพใหญ่ของเศรษฐกิจไทย ที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน บอกว่า “วิกฤต”
 
ล่าสุด IMF หรือ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ได้หั่นจีดีพีของไทยปีนี้ลงมาอยู่ที่ 2.7% โดย IMF ระบุว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มอ่อนแอ เนื่องจากแนวโน้มการใช้มาตรการกระตุ้นด้านการคลังลดน้อยลงเช่นเดียวกับกระทรวงการคลังที่ปรับลดจีดีพีปีนี้ลงเหลือ 2.4% จากการประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะเติบโต 2.8% โดยการปรับลดประมาณการครั้งนี้ ทางผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง “นายพรชัย ฐีระเวช”
ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ให้เหตุผลว่า เนื่องจาก
1) การส่งออกสินค้าที่หดตัวมากกว่าที่คาดการณ์
2) การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงหดตัว
3) ภาคการเกษตรได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและปรากฏการณ์เอลนีโญ
และ 4) ภาคการคลังที่ยังคงใช้การเบิกจ่ายตามงบประมาณตามปี 2566 ไปพลางก่อน
 
แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงต่อจากนี้เม็ดเงินจากงบประมาณปี 2567 จะเริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเร่งขึ้นได้ในช่วงที่เหลือของปี 2567 และหากเม็ดเงินจากโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet สามารถเริ่มมีการใช้จ่ายภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยในปี 2567 ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นที่ 3.3% ต่อปี
 
ทั้งนี้ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช”ถึงมุมมองเรื่องจีดีพี โดยอดีตรัฐมนตรีฯคลังสุชาติ กล่าวว่า ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย ที่หลายฝ่ายออกมาปรับลดประมาณการลง กระทบต่อความเชื่อมั่น และโดยส่วนตัวมองว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวแค่ 2% อันเป็นผลมา จากการส่งออกที่หดตัว จากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่า
 
อดีตรัฐมนตรีฯคลัง สุชาติ กล่าวอีกว่า วันนี้รัฐบาลจะต้องเร่งออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยยึดองค์ความรู้เป็นหลัก และไม่ควรที่จะทำอะไรแล้วดูไม่สมเหตุสมผล

ขณะที่ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุถึงเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย หลังโปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท และงบลงทุน 7 แสนล้านบาท ว่า จะมีช่วงระยะเวลาการเบิกจ่ายเพียงแค่ 5 เดือนทั้งนี้หากพิจารณาถึงความต่อเนื่องของการใช้จ่าย ภาครัฐในช่วงปี 2567-2568 รวมระยะเวลา 17 เดือน น่าจะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าสู่ภาคการ ลงทุนค่อนข้างสูงราว 1.6 ล้านล้านบาท เชื่อว่าโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ของ ภาครัฐ จะถูกเร่งดำเนินการ ถือเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาและ วัสดุก่อสร้าง
 
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพราะเมื่อเศรษฐกิจดี จีดีพีโต ย่อมสะท้อน ถึงความเชื่อมั่นและฝีมือในการบริหารงานของรัฐบาลเศรษฐา 1 นั่นเอง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่