อานนท์ เชื่อ คนไม่จำตัวเองในฐานะบุคคล แต่คือส่วนหนึ่งการต่อสู้ หลังถูกเสนอชื่อ บุคคลแห่งปี.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4972263
อานนท์ เชื่อ คนไม่จำตัวเองในฐานะบุคคล แต่คือส่วนหนึ่งการต่อสู้ หลังถูกเสนอชื่อ บุคคลแห่งปี
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม
iLaw ได้รายงานว่า
จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว โพสต์ให้คนช่วยกันเสนอชื่อ “บุคคลแห่งปี” และมีคอมเมนต์หลายพันช่วยกันเสนอชื่อ “อานนท์ นำภา” ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่อานนท์ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ตลอดทั้งปี 2567 กำลังถูกเบิกตัวไปขึ้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ในคดีมาตรา 112 ของเขา
วันเดียวกัน หลังการสืบพยานที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่เสร็จสิ้น เมื่อผู้ที่มาให้กำลังใจอานนท์ที่ห้องพิจารณาคดีเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง อานนท์มีสีหน้าแปลกใจ ทนายความจึงเปิดข้อความบนโทรศัพท์มือถือและโชว์ให้อานนท์ดูว่า ชื่อของเขากำลังอยู่ในหน้าข่าวช่วงปีใหม่นี้ อานนท์จึงมีสีหน้ายิ้มแย้ม และบอกว่า คนน่าจะยังคงสนใจเรื่อง #มาตรา112 แต่ไม่มีช่องทางที่จะแสดงออกหรือมีส่วนร่วมได้
เมื่อถามอานนท์ว่า ทราบข่าวนี้แล้วมีความเห็นอย่างไร อานนท์ตอบว่า “แสดงว่าคนยังไม่ลืมเนื้อหาสาระและอุดมการณ์การต่อสู้ที่เราได้ร่วมกันมา เขาไม่ได้จำอานนท์ในฐานะที่เป็นตัวบุคคล แต่ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหว การต่อสู้มันยังอยู่และรอเวลาที่จะเบ่งบานอีกครั้งเท่านั้น”
อานนท์ถูกพาตัวขึ้นรถมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอานนท์บอกว่า ที่นั่น “อากาศดี” เย็นกว่าในเมืองเชียงใหม่อีก เขามาศาลในชุดนักโทษ ทางเรือนจำได้เตรียมเสื้อกันหนาวสีน้ำเงินแขนยาวให้สวมทับ เขียนด้านหลังว่า “เรือนจำกลางเชียงใหม่ ออกศาล” แต่ยังต้องใส่กางเกงขาสั้น ไม่ใส่รองเท้า และใส่กุญแจเท้าด้วย
หลังการสืบพยานเสร็จสิ้น ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 มีนาคม 2568 สาเหตุที่นัดนานเนื่องจากต้องส่งสำนวนให้อธิบดีผู้พิพากษาภาคตรวจสอบก่อน (สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาคตั้งอยู่ด้านหลังของศาลจังหวัดเชียงใหม่) โดยคดีนี้จะอ่านคำพิพากษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ไปยังกรุงเทพ โดยไม่ต้องเบิกตัวอานนท์มาเชียงใหม่อีกตามคำขอของจำเลย คดีนี้จะเป็นคดีมาตรา 112 คดีที่ 7 ของอานนท์ ที่ศาลมีคำพิพากษา
ด้านอานนท์ก็ขอให้ศาลส่งตัวกลับกรุงเทพเลย เพราะจะมีนัดขึ้นศาลที่กรุงเทพอีกในวันที่ 14 มกราคม 2568 ทางเรือนจำแจ้งว่าจะพาตัวกลับในวันรุ่งขึ้นเลยเพราะถ้าช้ากว่านั้นจะเป็นวันหยุด
https://www.facebook.com/iLawClub/posts/997252502448369?ref=embed_post
กทม.จม ฝุ่น PM 2.5 มากับลมหนาว เกินค่ามาตรฐาน 48 เขต ตจว.สีส้ม 53 จังหวัด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9564516
กทม.จม ฝุ่น PM 2.5 มากับลมหนาว เกินค่ามาตรฐาน 48 เขต หนองแขมหนักสุด 54.6 ไมโครกรัม ต่างจังหวัดระดับสีส้ม 53 จังหวัด หนองคายอ่วมสุด
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.67 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า-GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียม รายชั่วโมง ผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” พบค่าฝุ่นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และระบบทางเดินหายใจ (สีส้ม)
โดย 5 อันดับเชต ที่มีค่าฝุ่นสูงสุดคือ เขตหนองแขม 54.6 ไมโครกรัม เขตบางกอกใหญ่ 51.1 ไมโครกรัม เขตธนบุรี 50.8 ไมโครกรัม เขตบางบอน 50.6 ไมโครกรัม และเขตทวีวัฒนา 50.5 ไมโครกรัม ส่วนพื้นที่อื่นมีพบค่าคุณภาพปานกลาง
ในส่วนของพื้นที่ประเทศไทยพบค่าฝุ่นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ถึง 53 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีค่าฝุ่นสูงสุด 3 อันดับคือ จังหวัดหนองคาย 69 ไมโครกรัม จังหวัดนครพนม 68.8 ไมโครกรัม และ จังหวัดอุดรธานี 66.5 ไมโครกรัม ส่วนจังหวัดอื่นๆ พบคุณภาพอากาศปานกลางถึงคุณภาพอากาศดี
สถานการณ์น้ำยังท่วมในจ.นครศรีธรรมราช ปภ.เร่งช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ประสบภัยคลี่คลายโดยเร็ว
https://siamrath.co.th/n/590207
ปภ. เผยยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครศรีธรรมราช ทีม ปภ. ยังคงช่วยเหลือประชาชนและพื้นที่ประสบภัยให้คลี่คลายโดยเร็ว
วันนี้(26 ธ.ค. 67) เวลา 11.00 น. ปภ.เผยยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 1 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช รวม 5 อำเภอ 19 ตำบล 103 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,341 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 13 ราย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
นาย
ภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. - 26 ธ.ค. 67 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี
ยะลา นราธิวาส รวม 118 อำเภอ 795 ตำบล 5,909 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 780,272 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 53 ราย ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดนครศรีธรรมราช 5 อำเภอ 19 ตำบล 103 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.พระพรหม อ.ปากพนัง อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เชียรใหญ่ และอ.ชะอวด เบื้องต้นประชาชนได้รับผลกระทบ 11,341 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 13 ราย โดยสถานการณ์ขณะนี้ ระดับน้ำในคลองท่าดีลดลง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ยังคงส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA 32 เข้าช่วยเหลือในพื้นที่และยังคงคิดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งประสานการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ ปภ.ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเร่งประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจและ จัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X@DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์“ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
#ปภ #ข่าว #อุทกภัย #น้ำท่วมใต้#น้ำท่วมภาคใต้ #น้ําท่วม67 #นครศรีธรรมราช #ชุมพร
สายด่วน 1784
FB : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
Twitter @DDPMNews
Line @1784DDPM
YouTube DDPMNews รู้ทันภัยกับ ปภ.
JJNY : อานนท์เชื่อ คือส่วนหนึ่งการต่อสู้│กทม.จมฝุ่นPM 2.5 มากับลมหนาว│น้ำยังท่วมในจ.นครศรีธรรมราช│จีนเตรียมยกระดับขาดดุล
https://www.matichon.co.th/politics/news_4972263
อานนท์ เชื่อ คนไม่จำตัวเองในฐานะบุคคล แต่คือส่วนหนึ่งการต่อสู้ หลังถูกเสนอชื่อ บุคคลแห่งปี
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม iLaw ได้รายงานว่า
จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว โพสต์ให้คนช่วยกันเสนอชื่อ “บุคคลแห่งปี” และมีคอมเมนต์หลายพันช่วยกันเสนอชื่อ “อานนท์ นำภา” ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่อานนท์ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ตลอดทั้งปี 2567 กำลังถูกเบิกตัวไปขึ้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ในคดีมาตรา 112 ของเขา
วันเดียวกัน หลังการสืบพยานที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่เสร็จสิ้น เมื่อผู้ที่มาให้กำลังใจอานนท์ที่ห้องพิจารณาคดีเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง อานนท์มีสีหน้าแปลกใจ ทนายความจึงเปิดข้อความบนโทรศัพท์มือถือและโชว์ให้อานนท์ดูว่า ชื่อของเขากำลังอยู่ในหน้าข่าวช่วงปีใหม่นี้ อานนท์จึงมีสีหน้ายิ้มแย้ม และบอกว่า คนน่าจะยังคงสนใจเรื่อง #มาตรา112 แต่ไม่มีช่องทางที่จะแสดงออกหรือมีส่วนร่วมได้
เมื่อถามอานนท์ว่า ทราบข่าวนี้แล้วมีความเห็นอย่างไร อานนท์ตอบว่า “แสดงว่าคนยังไม่ลืมเนื้อหาสาระและอุดมการณ์การต่อสู้ที่เราได้ร่วมกันมา เขาไม่ได้จำอานนท์ในฐานะที่เป็นตัวบุคคล แต่ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหว การต่อสู้มันยังอยู่และรอเวลาที่จะเบ่งบานอีกครั้งเท่านั้น”
อานนท์ถูกพาตัวขึ้นรถมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอานนท์บอกว่า ที่นั่น “อากาศดี” เย็นกว่าในเมืองเชียงใหม่อีก เขามาศาลในชุดนักโทษ ทางเรือนจำได้เตรียมเสื้อกันหนาวสีน้ำเงินแขนยาวให้สวมทับ เขียนด้านหลังว่า “เรือนจำกลางเชียงใหม่ ออกศาล” แต่ยังต้องใส่กางเกงขาสั้น ไม่ใส่รองเท้า และใส่กุญแจเท้าด้วย
หลังการสืบพยานเสร็จสิ้น ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 มีนาคม 2568 สาเหตุที่นัดนานเนื่องจากต้องส่งสำนวนให้อธิบดีผู้พิพากษาภาคตรวจสอบก่อน (สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาคตั้งอยู่ด้านหลังของศาลจังหวัดเชียงใหม่) โดยคดีนี้จะอ่านคำพิพากษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ไปยังกรุงเทพ โดยไม่ต้องเบิกตัวอานนท์มาเชียงใหม่อีกตามคำขอของจำเลย คดีนี้จะเป็นคดีมาตรา 112 คดีที่ 7 ของอานนท์ ที่ศาลมีคำพิพากษา
ด้านอานนท์ก็ขอให้ศาลส่งตัวกลับกรุงเทพเลย เพราะจะมีนัดขึ้นศาลที่กรุงเทพอีกในวันที่ 14 มกราคม 2568 ทางเรือนจำแจ้งว่าจะพาตัวกลับในวันรุ่งขึ้นเลยเพราะถ้าช้ากว่านั้นจะเป็นวันหยุด
https://www.facebook.com/iLawClub/posts/997252502448369?ref=embed_post
กทม.จม ฝุ่น PM 2.5 มากับลมหนาว เกินค่ามาตรฐาน 48 เขต ตจว.สีส้ม 53 จังหวัด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9564516
กทม.จม ฝุ่น PM 2.5 มากับลมหนาว เกินค่ามาตรฐาน 48 เขต หนองแขมหนักสุด 54.6 ไมโครกรัม ต่างจังหวัดระดับสีส้ม 53 จังหวัด หนองคายอ่วมสุด
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.67 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า-GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียม รายชั่วโมง ผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” พบค่าฝุ่นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และระบบทางเดินหายใจ (สีส้ม)
โดย 5 อันดับเชต ที่มีค่าฝุ่นสูงสุดคือ เขตหนองแขม 54.6 ไมโครกรัม เขตบางกอกใหญ่ 51.1 ไมโครกรัม เขตธนบุรี 50.8 ไมโครกรัม เขตบางบอน 50.6 ไมโครกรัม และเขตทวีวัฒนา 50.5 ไมโครกรัม ส่วนพื้นที่อื่นมีพบค่าคุณภาพปานกลาง
ในส่วนของพื้นที่ประเทศไทยพบค่าฝุ่นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ถึง 53 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีค่าฝุ่นสูงสุด 3 อันดับคือ จังหวัดหนองคาย 69 ไมโครกรัม จังหวัดนครพนม 68.8 ไมโครกรัม และ จังหวัดอุดรธานี 66.5 ไมโครกรัม ส่วนจังหวัดอื่นๆ พบคุณภาพอากาศปานกลางถึงคุณภาพอากาศดี
สถานการณ์น้ำยังท่วมในจ.นครศรีธรรมราช ปภ.เร่งช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ประสบภัยคลี่คลายโดยเร็ว
https://siamrath.co.th/n/590207
ปภ. เผยยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครศรีธรรมราช ทีม ปภ. ยังคงช่วยเหลือประชาชนและพื้นที่ประสบภัยให้คลี่คลายโดยเร็ว
วันนี้(26 ธ.ค. 67) เวลา 11.00 น. ปภ.เผยยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 1 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช รวม 5 อำเภอ 19 ตำบล 103 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,341 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 13 ราย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. - 26 ธ.ค. 67 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี
ยะลา นราธิวาส รวม 118 อำเภอ 795 ตำบล 5,909 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 780,272 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 53 ราย ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดนครศรีธรรมราช 5 อำเภอ 19 ตำบล 103 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.พระพรหม อ.ปากพนัง อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เชียรใหญ่ และอ.ชะอวด เบื้องต้นประชาชนได้รับผลกระทบ 11,341 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 13 ราย โดยสถานการณ์ขณะนี้ ระดับน้ำในคลองท่าดีลดลง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ยังคงส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA 32 เข้าช่วยเหลือในพื้นที่และยังคงคิดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งประสานการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ ปภ.ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเร่งประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจและ จัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X@DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์“ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
#ปภ #ข่าว #อุทกภัย #น้ำท่วมใต้#น้ำท่วมภาคใต้ #น้ําท่วม67 #นครศรีธรรมราช #ชุมพร
สายด่วน 1784
FB : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
Twitter @DDPMNews
Line @1784DDPM
YouTube DDPMNews รู้ทันภัยกับ ปภ.