ปภ. เผยโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ตาม มติ ครม. 3 ธ.ค. 67 รอบแรกแล้ว - ประชาชน อ.นาทวี และ อ.สะเดา จ.สงขลา 1,948 ครัวเรือน ได้รับเรียบร้อย
ปภ. เผยภาพรวมการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยช่วงฤดูฝน ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 67 โอนเงินสำเร็จ รวม 1,948 ครัวเรือน 17,532,000 บาท กำชับจังหวัดเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลผู้ยื่นคำร้องอย่างรอบคอบ ย้ำต้องถูกต้องตามหลักเกณฑ์ตามที่ ครม. กำหนด
วันนี้ (25 ธ.ค. 67) ปภ. เผยความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 67 ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ธ.ค. 67 เวลา 16.30 น.) ได้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้แล้วครั้งแรก จำนวน 1,948 ครัวเรือน เป็นเงิน 17,532,000 บาท กำชับจังหวัดเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือฯ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีกำหนดอย่างรอบคอบ เพื่อให้ข้อมูลที่ส่งให้ ปภ. เป็นไปอย่างถูกต้องประชาชนได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากที่คณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยรับงบประมาณและดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่ง ปภ. ได้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับจังหวัดที่ประสบภัยในการเร่งดำเนินการให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด โดยข้อมูลล่าสุดวันนี้ (25 ธ.ค. 67) เวลา 16.30 น. ธนาคารออมสินได้โอนเงินเข้าบัญชีผู้ประสบภัยครั้งแรกสำเร็จแล้วจำนวน 1,948 ครัวเรือน เป็นเงิน 17,532,000 บาทประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ อ.นาทวี และ อ.สะเดา จ.สงขลา ได้รับเงินแล้วเรียบร้อย คาดว่าจะทำการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ 2 ของ จ.ปัตตานี และ จ.บุรีรัมย์ ได้ในวันพรุ่งนี้ (26 ธ.ค. 67) และครั้งนี้ 3 ของ จ.ปัตตานี จ.สงขลา จ.นราธิวาส และ จ.พัทลุง ได้ในวันที่ 27 ธ.ค. 67
“ปภ. ขอเน้นย้ำให้ 16 จังหวัด ที่ได้รับการจัดสรรเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามมติ ครม. เร่งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลผู้ลงทะเบียนยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือฯ ให้เป็นไปตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ที่กำหนด และให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบข้อมูลดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ ไม่ให้มีการลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือซ้ำซ้อน โดยผู้ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือฯ ตามมติ ค.ร.ม. ในครั้งนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย จะต้องเข้าเงื่อนไขที่ ครม. กำหนด คือ ประชาชนในพื้นที่ จ.ชัยนาท บุรีรัมย์ สมุทรสาคร และสิงห์บุรี จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในห้วงวันที่ 20 พ.ค. – 2 พ.ย. 67 และประชาชน ในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในห้วงวันที่ 3 พ.ย. 67 เป็นต้นไปเท่านั้น และได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสองกรณี กรณีแรกคือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมไม่เกิน 7 วัน และมีทรัพย์สินเสียหาย และกรณีที่สองที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมเกิน 7 วัน ในกรณีที่ถูกน้ำท่วมหลายครั้งจะได้รับความช่วยเหลือเพียงครั้งเดียว“ นายภาสกร อธิบดี ปภ. ย้ำ
ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนตรวจสอบการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อย หากยังไม่ได้ผูกบัญชีฯ ขอให้ติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการผูกบัญชีโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความขัดข้องในการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย และผู้ประสบภัยได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็ว ///////////:
raining.disaster.go.th
สายด่วน 1784
FB : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
Twitter @DDPMNews
Line @1784DDPM
YouTube DDPMNews รู้ทันภัยกับ ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย #โอนเงิน9,000 #อุทกภัยภาคใต้ #จังหวัดสงขลา 1,948 ครัวเรือน
ปภ. เผยภาพรวมการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยช่วงฤดูฝน ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 67 โอนเงินสำเร็จ รวม 1,948 ครัวเรือน 17,532,000 บาท กำชับจังหวัดเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลผู้ยื่นคำร้องอย่างรอบคอบ ย้ำต้องถูกต้องตามหลักเกณฑ์ตามที่ ครม. กำหนด
วันนี้ (25 ธ.ค. 67) ปภ. เผยความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 67 ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ธ.ค. 67 เวลา 16.30 น.) ได้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้แล้วครั้งแรก จำนวน 1,948 ครัวเรือน เป็นเงิน 17,532,000 บาท กำชับจังหวัดเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือฯ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีกำหนดอย่างรอบคอบ เพื่อให้ข้อมูลที่ส่งให้ ปภ. เป็นไปอย่างถูกต้องประชาชนได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากที่คณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยรับงบประมาณและดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่ง ปภ. ได้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับจังหวัดที่ประสบภัยในการเร่งดำเนินการให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด โดยข้อมูลล่าสุดวันนี้ (25 ธ.ค. 67) เวลา 16.30 น. ธนาคารออมสินได้โอนเงินเข้าบัญชีผู้ประสบภัยครั้งแรกสำเร็จแล้วจำนวน 1,948 ครัวเรือน เป็นเงิน 17,532,000 บาทประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ อ.นาทวี และ อ.สะเดา จ.สงขลา ได้รับเงินแล้วเรียบร้อย คาดว่าจะทำการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ 2 ของ จ.ปัตตานี และ จ.บุรีรัมย์ ได้ในวันพรุ่งนี้ (26 ธ.ค. 67) และครั้งนี้ 3 ของ จ.ปัตตานี จ.สงขลา จ.นราธิวาส และ จ.พัทลุง ได้ในวันที่ 27 ธ.ค. 67
“ปภ. ขอเน้นย้ำให้ 16 จังหวัด ที่ได้รับการจัดสรรเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามมติ ครม. เร่งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลผู้ลงทะเบียนยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือฯ ให้เป็นไปตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ที่กำหนด และให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบข้อมูลดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ ไม่ให้มีการลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือซ้ำซ้อน โดยผู้ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือฯ ตามมติ ค.ร.ม. ในครั้งนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย จะต้องเข้าเงื่อนไขที่ ครม. กำหนด คือ ประชาชนในพื้นที่ จ.ชัยนาท บุรีรัมย์ สมุทรสาคร และสิงห์บุรี จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในห้วงวันที่ 20 พ.ค. – 2 พ.ย. 67 และประชาชน ในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในห้วงวันที่ 3 พ.ย. 67 เป็นต้นไปเท่านั้น และได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสองกรณี กรณีแรกคือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมไม่เกิน 7 วัน และมีทรัพย์สินเสียหาย และกรณีที่สองที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมเกิน 7 วัน ในกรณีที่ถูกน้ำท่วมหลายครั้งจะได้รับความช่วยเหลือเพียงครั้งเดียว“ นายภาสกร อธิบดี ปภ. ย้ำ
ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนตรวจสอบการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อย หากยังไม่ได้ผูกบัญชีฯ ขอให้ติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการผูกบัญชีโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความขัดข้องในการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย และผู้ประสบภัยได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็ว ///////////:
raining.disaster.go.th
สายด่วน 1784
FB : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
Twitter @DDPMNews
Line @1784DDPM
YouTube DDPMNews รู้ทันภัยกับ ปภ.