JJNY : ปภ.รายงานน้ำท่วม│กทม.ทดลองกำแพงกั้นน้ำสำเร็จรูป│ลับที่สุด! รายชื่อ‘ว่าที่ รมต.’มีเรื่องค้าง│ศาลสูงเกาหลีใต้ชี้ชัด

ปภ.รายงานน้ำท่วม 5 จว. ภาคเหนือ-ภาคกลางตนบนยังอ่วม!
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/231605
 
 
ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด เชียงราย-สุโขทัย-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-หนองคาย เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง
 
วันที่ 30 ส.ค. 2567 นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16 - 30 ส.ค. 2567 มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 23 จังหวัด รวม 102 อำเภอ 419 ตำบล 2,266 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 69,093 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 22 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 19 ราย โดยปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด รวม 21 อำเภอ 117 ตำบล 271 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,117 ครัวเรือน ดังนี้

1. เชียงราย ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.แม่จัน อ.เชียงของ อ.ดอยหลวง อ.เมืองฯ อ.แม่ลาว อ.พญาเม็งราย อ.เวียงชัย อ.ขุนตาล อ.เวียงเชียงรุ้ง อ.เทิง และ อ.ป่าแดด รวม 52 ตำบล 58 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 625 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ระดับ
น้ำลดลง

2. สุโขทัย ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมืองฯ อ.ศรีนคร และ อ.กงไกรลาศ รวม 39 ตำบล 104 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,483 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

3. พิษณุโลก ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม และอ.บางระกำ รวม 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 40 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

4. เพชรบูรณ์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.หล่มสัก รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 917 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

5. หนองคาย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.รัตวาปี อ.ศรีเชียงใหม่ อ.สังคม อ.ท่าบ่อ และ อ.เมืองฯ รวม 21 ตำบล 100 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 52 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
 
สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย และรถผลิตน้ำดื่ม เพื่อเร่งระบายน้ำบรรเทาความเดือดร้อน และผลิตน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกันนี้ ยังได้สนับสนุนถุงยังชีพรวมกว่า 8,000 ชุด แจกจ่ายให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้น
 
ในส่วนของการเสริมกำลังช่วยน้ำท่วม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) สนธิกำลังร่วมส่งเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 จำนวน 2 ลำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจำ ฮ.ปภ.32 "The Guardian Team" สนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมพร้อมรับมือสาธารณภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ นอกจากนี้ ปภ. ยังได้ส่งทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ยานพาหนะจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตใกล้เคียงและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตภาคอื่นที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ประกอบไปด้วย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 ขอนแก่น และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา



กทม.ทดลองติดตั้ง กำแพงกั้นน้ำสำเร็จรูป 50 ชิ้น รับมือเจ้าพระยาหนุนสูง
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9388465

กทม.ทดลองติดตั้ง กำแพงกั้นน้ำสำเร็จรูป 50 ชิ้น ที่ท่าราชวรดิฐ และช่องลงเรือ 32 ช่อง รับมือเจ้าพระยาหนุนสูง เผยใช้เวลาติดตั้งเร็ว ลดการใช้กระสอบทราย
 
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่บริเวณช่องลงเรือท่าราชวรดิษฐ์ เขตพระนคร นายศุภมิตร ลายทอง รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการทดลองติดตั้งกำแพงกั้นน้ำสำเร็จรูป (HYDRO FENCE) ว่า หลังจากที่ผู้ว่าฯกทม. รับมอบกำแพงกั้นน้ำสำเร็จรูป (HYDRO FENCE) จากบริษัท ซัมมิท พลัส อินโนเวชั่น จำนวน 50 ชิ้น วันนี้จึงมาทดลองติดตั้งที่ช่องลงเรือท่าราชวรดิฐ ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่มีคนสัญจรตลอดเวลา
 
นายศุภมิตร กล่าวต่อว่า เดิมทีต้องเรียงกระสอบเปิดและปิด ตอนน้ำขึ้น-น้ำลงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ในการทำงาน นอกจากใช้แรงงานคนแล้ว ยังต้องเฝ้าระวังและใช้กระสอบทรายจำนวนมาก วันนี้เราจึงนำกำแพงกั้นน้ำสำเร็จรูปที่ได้รับมอบมาทดลองติดตั้ง ปรากฏว่าใช้เวลาในการติดตั้งลดลง มีความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดจำนวนกระสอบทราย
 
ทั้งนี้ ช่องลงท่าเรือในกทม.แนวริมแม่น้ำเจ้าพระยามีประมาณ 32 ช่อง คงต้องดูว่าถ้าได้ผลดี คงขยายผลไปที่อื่นต่อไป นับเป็นนวัตกรรมหนึ่งที่กทม.พยายามจะนำมาใช้ในการป้องกันน้ำท่วม น้ำโขงหนุนสูง นครพนม ประกาศพื้นที่ประสบภัย น้ำท่วม 2 อำเภอ นาข้าว 2 หมื่นไร่จม
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกทม.เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม โดยหลังจากที่ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ประสาน
 10 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
 
โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม
 
นอกจากนี้ ยังประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและแนวป้องกันน้ำท่วมให้มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันระดับน้ำล้นข้ามแนวคันกั้นน้ำ อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง



‘เลขาฯ ป.ป.ช.’ บอก ลับที่สุด! รายชื่อ ‘ว่าที่ รมต.’มีเรื่องค้างอยู่ที่ ป.ป.ช.
https://www.dailynews.co.th/news/3807768/

‘เลขาฯ ป.ป.ช.’ บอก ลับที่สุด! รายชื่อ ‘ว่าที่ รมต.’มีเรื่องค้างอยู่ที่ ป.ป.ช.

ลับที่สุด! รายชื่อ ว่าที่ รมต. มีเรื่องค้างอยู่ที่ ป.ป.ช. "นิวัติไชย" ย้ำตรวจสอบส่งกลับ สลค. แล้ว ไม่มีอำนาจวินิจฉัย
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. นายนิวัติไชย เกษมมงคล  เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยความคืบหน้าการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี ที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งมาให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ว่า ป.ป.ช. เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งมาสอบถาม ซึ่งเราก็จะรายงานว่า มีเรื่องที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบหรือไม่ แต่จะขาดคุณสมบัติหรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย เรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ ป.ป.ช.

เมื่อถามว่า มีรายชื่อที่ส่งมาให้ตรวจสอบ มีการระบุเป็นรายบุคคลหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เป็นการระบุมาเป็นรายบุคคล และลงเอกสารว่าเป็นความลับ จึงไม่สามารถเปิดเผยได้   

เมื่อถามย้ำว่าที่ตรวจสอบ พบบุคคลมีปัญหาหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า  ป.ป.ช. ไม่ได้มีหน้าที่ในการวินิจฉัย ระบุเพียงแค่ว่า มีเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาหรือไม่ และเขากระทำความผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ หรือคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ได้ชี้มูล รวมไปถึงแจ้งว่าศาลยังไม่ได้พิจารณาคดี ซึ่งมีความจำเป็นต้องแยกแยะ เพราะใครก็สามารถที่จะถูกร้องมาที่ ป.ป.ช. ได้ ซึ่งหากตรวจสอบแล้วไม่มีมูลความผิด ก็ถือว่าเขาไม่ใช่ผู้ที่กระทำความผิด ดังนั้นมันจึงเป็นฐานข้อมูลที่เราแจ้งให้ทราบ ส่วนจะนำข้อมูลไปใช้ ก็เป็นอำนาจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

เมื่อถามย้ำว่าเป็นแค่การตอบว่าใครมีคำร้องอะไร ขั้นตอนถึงไหนใช่หรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เป็นแค่การแจ้งรายละเอียด เราไม่มีหน้าที่พิจารณา ถามมาอย่างไร เราก็ตอบไปอย่างนั้น  

เมื่อถามว่าบุคคลที่สอบถามมามีใครมีคดีอยู่ที่ ป.ป.ช. บ้าง นายนิวัติไชย กล่าวว่า เขาบอกให้เป็นลับที่สุด ขออนุญาตไม่ตอบ และขณะนี้ได้ตอบไปทั้งหมดแล้ว.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่