ยกจิตขึ้นความว่าง คำสั้นๆแต่มีความหมายมาก เป็นการแยกรูปนาม เป็นทั้งฌานและญาน ทั้งสมาธิและวิปัสนา
ขณะจิตที่ทำอย่างนี้ได้ จิตจะแยกออกจากกายทันที กายกับใจจะเห็นเป็นคนละส่วนกัน
1.ที่กายจะรู้สึกว่าเป็นโพรง จิตจะเป็นผู้มองอาการต่างๆทั้งที่รูปและที่นาม เป็นอาการที่เกิดในความว่าง
2.เป็นสภาวะรูปฌานที่เกิดขึ้นทันที และเมื่อขยายสภาวะนี้ให้กว้าง ก็จะเป็นอรูปฌาน เป็นสัมมาสมาธิมี สติ-สัมปชัญญะ เอาความรู้สึก1,2มาดูอาการทางขันธ์5 ตัวนี้จะเป็นตัวผู้รู้ เป็นตัววิปัสนา
3.1,2 เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นขณะจิตเดียว ไม่เนิ่นช้า ทำสภาวะนี้ให้เป็นวสี นึกถึงเมื่อไรก็ยกจิตขึ้นความว่างได้ กายใจจะรู้สึกเบาทันที เป็นฐานในการทรงสมาธิและวิปัสนา
ยกจิตขึ้นสู่ความว่าง
ขณะจิตที่ทำอย่างนี้ได้ จิตจะแยกออกจากกายทันที กายกับใจจะเห็นเป็นคนละส่วนกัน
1.ที่กายจะรู้สึกว่าเป็นโพรง จิตจะเป็นผู้มองอาการต่างๆทั้งที่รูปและที่นาม เป็นอาการที่เกิดในความว่าง
2.เป็นสภาวะรูปฌานที่เกิดขึ้นทันที และเมื่อขยายสภาวะนี้ให้กว้าง ก็จะเป็นอรูปฌาน เป็นสัมมาสมาธิมี สติ-สัมปชัญญะ เอาความรู้สึก1,2มาดูอาการทางขันธ์5 ตัวนี้จะเป็นตัวผู้รู้ เป็นตัววิปัสนา
3.1,2 เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นขณะจิตเดียว ไม่เนิ่นช้า ทำสภาวะนี้ให้เป็นวสี นึกถึงเมื่อไรก็ยกจิตขึ้นความว่างได้ กายใจจะรู้สึกเบาทันที เป็นฐานในการทรงสมาธิและวิปัสนา