ธนาธรเอาเงินส่วนตัว ให้พรรคกู้เงินเพื่อมาใช้บริหารพรรคและหาเสียง ผิดกฎหมายชัดเจน มติศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่

ไม่มีใครทำลายยุบ อนาคตใหม่ ก้าวไกลได้นอกจากคนของ อนาคตใหม่ และก้าวไกลทำเอง 

ข้อเท็จจริงปรากฎว่างบการเงิน ปี 2561 ของพรรคอนาคตใหม่ที่ยื่นต่อ กกต. พรรคอนาคตใหม่มีรายได้จากทุนประเดิม รายได้เงินสมาชิก รายได้จากการจำหน่ายสินค้า รายได้เงินบริจาค และรายได้อื่น รวม 71 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่าย รวม 72 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ 32 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายจึงสูงกว่า รายได้ 1.4 ล้นบาท ผู้ถูกร้องจึงกู้เงินกับนายธนาธร แต่อยู่ในรูปแบบไม่ใช่การทำการค้า จึงถือเป็นประโยชน์อื่นใด ผิดปกติวิสัย นอกจากนี้ยังมีการทำสัญญากู้เงินฉบับที่สอง ทั้งที่หนี้เดิมยังอยู่ ถือเป็นการช่วยเหลือผู้ถูกร้องเป็นกรณีพิเศษ ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า ทั้งในเรื่องอัตราดอกเบี้ย และการไม่มีการใช้หลักประกัน 

ดังนั้นการที่นายธนาธร ให้เงินกู้ผู้ถูกร้อง จำนวนมาก กรรมการบริหารพรรคคงจะต้องรู้ว่า การเป็นหนี้จำนวนมาก ย่อมเกิดการครอบงำ ชี้นำ จากตัวเจ้าหนี้ ได้ และเกิดความได้เปรียบทางการเงินมาเป็นผู้บงการพรรคแต่เพียงผู้เดียว ทำให้พรรคการเมืองเป็นธุรกิจการเมือง ดังนั้นการกู้เงิน มีเจตนาหลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงิน ที่กำหนดจำนวนเอาไว้ จึงเป็นการรับบริจาค ทรัพย์สิน ประโยชน์อื่นใด ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

มติศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตัดสิทธิ กก.บห. 10 ปี

และมีมติให้สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ กก.บห. ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ณ วันที่มีการทำสัญญากู้เงินคือ วันที่ 2 ม.ค. 2562 และ 11 เม.ย. 2562 เป็นเวลา 10 ปี 

ผลจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ กก.บห. ทั้งหมด 16 คนถูกตัดสิทธิทางการเมือง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่