JJNY : โชว์ข้อมูลร้องป.ป.ช. บ.ประกัน│กกต.เดินหน้าสอบคดียุบพรรค│สงครามหนุนราคาทองคำขาขึ้น│แม่น้ำในชั้นบรรยากาศท่วมในสหรัฐ

โชว์ข้อมูลร้อง ป.ป.ช.สอบคัดเลือก บ.ทำประกันต่างด้าว 5 พันล.วิจารณ์ขรมใบสั่งฝ่ายการเมือง
https://www.isranews.org/article/isranews/133631-invesdsdsdssdds-2.html
 
  
โชว์ข้อมูล ร้อง ป.ป.ช.สอบเงื่อนไขคัดเลือก บ.รับทำประกันแรงงานต่างด้าว 5 พันล. เอื้อประโยชน์นายทุน ชี้พิรุธปี 66 กำหนดหลักเกณฑ์แค่ 6 ข้อ ก่อนเพิ่มใหม่ 13 ข้อ ปี 67 อ้างมติ ครม. 24 ก.ย. ทำจำนวน 17 บริษัท เหลือเข้าได้แค่ 2 - วิจารณ์ขรมใบสั่งฝ่ายการเมือง ทดลองภารกิจก่อนทำเรื่องใหญ่ในอนาคต 
 
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org))รายงานความคืบหน้ากรณี กรมการจัดหางาน (กกจ.) กำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานใหม่ในการคัดเลือกบริษัทประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัยที่จะรับประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะขอรับใบอนุญาตทำงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2567 ว่า บริษัทจะต้องมีคุณสมบัติและเงื่อนไขตามที่กำหนด 13 ประการ แจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมการดำเนินการประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว ภายในวันที่ 19 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาอนุญาตให้เชื่อมโยงข้อมูลหลักฐานการซื้อประกันสุขภาพต่อไป
 
ขณะที่ตัวแทนบริษัทประกันภัยกลุ่มหนึ่ง ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีข้าราชการกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ออกหลักเกณฑ์เอื้อประโยชน์บริษัทประกันภัยบางบริษัท ให้มีสิทธิเข้ารับการประกันสุขภาพของคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี 24 ก.ย. 2567 และกีดกันบริษัทประกันภัยอื่น ๆ โดยกำหนดคุณสมบัติเรื่องทรัพย์สินรวมที่ต้องมีทรัพย์สินรวม ณ สิ้นปี 2566 จำนวนไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท และต้องมีอัตราส่วนความเพียงพอของการดำรงเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Car Ratio)
ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 200 ณ สิ้นปี 2566 ซึ่งทำให้เหลือบริษัทประกันภัยที่สามารถเข้าร่วมประกันภัยเพียง 2 บริษัท จากเดิม 17 บริษัทประกันภัย ขณะที่ตัวเลขการทะเบียนแรงงานต่างด้าว ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 3 ล้านคน ตัวเลขมูลค่าวงเงินประกันที่จะเกิดขึ้นประมาณ 5 พันล้านบาท

ล่าสุด แหล่งข่าวจากตัวแทนบริษัทประกันภัยรายหนึ่ง เปิดเผยสำนักข่าวอิศราเพิ่มเติมว่า กรณีตัวแทนบริษัทประกันภัย ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบกรณีการออกหลักเกณฑ์เอื้อประโยชน์บริษัทประกันภัยบางบริษัท ให้มีสิทธิเข้ารับการประกันสุขภาพของคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี 24 ก.ย. 2567 และกีดกันบริษัทประกันภัยอื่น ๆ นั้น ข้อมูลสำคัญที่ตัวแทนบริษัทประกันภัยนำไปยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ใช้ประกอบการตรวจสอบเรื่องนี้ คือ ข้อสังเกตการออกหลักเกณฑ์การประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว จากในปี 2566 ที่อ้างว่าเป็นการดำเนินการตามมติ ครม. วันที่ 5 ก.ค.2566 
และ ตามมติ ครม. วันที่ 3 ต.ค.2566 มีจำนวน 6 ข้อ ทำให้มีบริษัทประกันภัย ที่ผ่านเข้าหลักเกณฑ์ทั้งหมด 17 บริษัท ซึ่งปี 66 ก็เป็นช่วงที่ประเทศไทย เริ่มผ่านพ้นสถานการณ์โควิดแล้ว แต่ในการดำเนินการปี 2567 มีการออกหลักเกณฑ์การประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวใหม่ เพิ่มขึ้นมาแบบก้าวกระโดด เป็น 13 ข้อ
 
"หลักเกณฑ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา จำนวน 13 ข้อ  มี 2 ข้อสำคัญ ที่เป็นปัญหา คือ การกำหนดคุณสมบัติเรื่องทรัพย์สินรวมที่ต้องมีทรัพย์สินรวม ณ สิ้นปี 2566 จำนวนไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท และต้องมีอัตราส่วนความเพียงพอของการดำรงเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Car Ratio) 
ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 200 ณ สิ้นปี 2566 เพราะทำให้เหลือบริษัทประกันภัยเพียง 2 บริษัท ที่มีคุณสมบัติสามารถเข้าร่วมได้ และทำให้ถูกมองว่าเป็นการล็อกสเปก เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนบางกลุ่ม รวมไปถึงอาจจะมีใบสั่งจากฝ่ายการเมืองมา เพื่อนำไปสู่การดำเนินงานเรื่องที่ใหญ่กว่านี้ในอนาคต" แหล่งข่าวระบุ   (ดูเอกสารประกอบ / มีรายชื่อ 17 บริษัทประกันภัยรวมอยู่ด้วย )
 
แหล่งข่าวกล่าวย้ำว่า ข้อมูลนี้มีความสำคัญมาก และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อ ป.ป.ช. และสำนักข่าวอิศรา นำไปใช้เป็นข้อมูลตั้งต้นในการติดตามตรวจสอบข่าวเจาะเรื่องนี้ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่ว่า เงื่อนไขที่เป็นปัญหาทั้ง 2 ข้อดังกล่าว ใครเป็นผู้นำเสนอริเริ่มความคิดนี้ขึ้นมา
 
อนึ่งเกี่ยวกับประเด็นเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้วว่า กรมการจัดหางาน ดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2567 ที่ให้แรงงานต่างด้าวต้องทำประกันสุขภาพกับโรงพยาบาลรัฐหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่มีความมั่นคงตามที่กรมการจัดหางานกำหนด ส่วนมาตรฐานความมั่นคงของบริษัทประกันนั้น ทางกรมการจัดหางานได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณา มีเจ้าหน้าที่ของกรมฯ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้ามาพิจารณาร่วมกัน จึงออกเป็นมาตรฐานดังกล่าวออกมา อีกทั้งกรมฯ ยังดำเนินการตามมติครม. ทุกประการ และเป็นการดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต เนื่องจากเหตุการณ์ที่หลายคนทราบว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมามีการขายประกันโควิด แล้วมีบริษัทประกันสุขภาพปิดตัว 2 บริษัท แล้วขณะนี้ยังมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายไม่เสร็จสิ้น

เมื่อถามว่าจากมาตรฐานที่กรมการจัดหางานกำหนดตามมติครม. ทำให้บริษัทประกันภัยมีคุณสมบัติตามมาตรฐานมีเพียง 2 บริษัท
 
นายสมชาย ตอบว่า "ไม่ทราบว่าจะผ่านกี่บริษัท เพราะทุกวันนี้มีคำขอยื่นเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการจัดหางานจำนวนมาก ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าบริษัทที่ยื่นคำขอมาเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ เราไม่สามารถทำตามความต้องการที่จะให้เข้าร่วมได้ ทั้ง 100 บริษัท เราต้องมีมาตรฐาน ถ้าไม่มีมาตรฐานใคร ๆ ก็เข้ามาได้ เมื่อเกิดปัญหาใครจะรับผิดชอบ"

"แรงงานต่างด้าว 3 ล้านคน เมื่อเกิดปัญหาล้มขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ กองทุนก็รับผิดชอบไม่ไหว กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานก็รับผิดชอบไม่ไหว เมื่อเรารับผิดชอบไม่ไหวจึงต้องการบริษัทประกันที่มีความมั่นคงอย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เราร้องดำเนินการ การดำเนินการของเราดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้" อธิบดีกรมการจัดหางานระบุ 
 


กกต. เดินหน้าสอบคดียุบพรรค ชี้ศาลรธน.ยกคำร้อง ทักษิณ-พท. ไม่กระทบ ใช้กม.คนละฉบับ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4915633
 
แสวง ยัน ศาลยกคำร้อง ทักษิณ-พท. ล้มล้างฯ ไม่กระทบกกต. เดินหน้าสอบคดียุบพรรค รับข้อเท็จจริงเดียวกันแต่พิจารณากฎหมายคนละฉบับ
 
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่จ.อุดรธานี นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ที่ยื่นขอให้สั่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองฯ จะกระทบกับคำร้องที่กกต.กำลังดำเนินการตรวจสอบหรือไม่ ว่า เรื่องนี้จะอธิบายยาก โดยจะอธิบายกฎหมายก่อน ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องการใช้เสรีภาพ เฉพาะมาตรา 49 เขียนว่าการใช้เสรีภาพเพื่อการล้มล้างการปกครองฯทำไม่ได้ เสรีภาพถูกรับรองโดยรัฐธรรมนูญ ประชาชนทุกคนมีเสรีภาพ นั่นคือ อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมืองจะพิจารณาสิ่งที่กฎหมายห้ามกระทำตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง จะต่างกันจึงไม่เกี่ยวกัน

นายแสวง กล่าวว่า ทั้งนี้ ข้อมูล ข้อเท็จจริง อาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่เราถือกฎหมายคนละฉบับ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรมนูญว่าการใช้สิทธิเสรีภาพนั้นเพื่อเป็นการล้มล้างการปกครองฯหรือไม่ แต่กกต.หรือนายทะเบียนฯจะพิจารณาว่า การกระทำนั้นผิดกฎหมายพรรคการเมือง เป็นเหตุให้มีการยุบพรรคหรือไม่ ยกตัวอย่าง ครั้งที่นายทะเบียนฯ ไม่รับเรื่องของพรรคก้าวไกล (ก.ก.)ไว้พิจารณา แต่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา มีนักข่าวมาถามว่า กกต.ทำไมไม่รับ ซึ่งกรณีนั้นเป็นกรณีใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ กกต.ไม่มีอำนาจที่จะไปพิจารณา เพราะเกินขอบเขตอำนาจ กกต.ไม่ได้เข้าไปพิจารณาเนื้อหา แต่กรณีหลังนั้นมีผู้มาร้องว่ามีพรรคการเมือง กระทำการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เป็นเหตุนำไปสู่การยุบพรรค นายทะเบียนฯรับไว้เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน จะเป็นคนละประเด็นกับศาลรัฐธรรมนูญทั้งที่ข้อเท็จจริงเดียวกัน
 
เมื่อถามว่า หมายความว่า คำร้องหลายๆเรื่อง ที่มีลักษณะคล้ายกัน กกต.เดินหน้าตรวจสอบต่อไป นายแสวง กล่าวว่า กกต. ทำตามอำนาจขอบเขตของเรา



สงครามรัสเซียคุกรุ่น หนุนราคาทองคำขาขึ้น ปีหน้าลุ้นแตะ 47,000 บาท
https://www.matichon.co.th/economy/news_4915586

สงครามรัสเซียคุกรุ่น หนุนราคาทองคำขาขึ้น ปีหน้าลุ้นแตะ 47,000 บาท
 
วันที่ 23 พฤศจิกายน นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาทองคำยังคงผันผวนตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การชนะเลือกตั้งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงสงครามรัสเซียกับยูเครนที่อาจจะทวีความรุนแรงขึ้น และหลังสถานการณ์ตึงเครียด ทำให้ช่วง 2 วันนี้ ราคาทองปรับขึ้น 2,000 บาท หลังจากก่อนหน้าที่ปรับลดลงไป 2,000 กว่าบาทหลังทรัมป์ชนะเลือกตั้ง และคาดว่าราคาจะผันผวนไปจนถึงเดือนมกราคม 2568 หลังที่ทรัมป์ประกาศนโยบายออกมาอย่างชัดเจน ดังนั้นในช่วงนี้หากใครมีเงินเก็บสามารถซื้อลงทุนระยะยาวได้ แต่ถ้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นก็ต้องระมัดระวัง
 
วันที่ 22 พฤศจิกายนราคาทองปรับขึ้นลง 14 ครั้ง และปิดวันปรับเพิ่มขึ้น 550 บาท ทองคำแท่งขายออก 44,250 บาทต่อบาททองคำ ทองรูปพรรณขายออก 44,750 บาทต่อบาททองคำ ทั้งนี้คาดการณ์ว่าสิ้นปี 2567 ราคาทองคำจะพุ่ง 2,700 ดอลลาร์และทะลุ 3,000 ดอลลาร์ ในปี 2568 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทในเวลานั้นๆด้วย แต่คาดว่าจะได้เห็นราคาทะลุ 47,000 บาทต่อบาททองคำแน่ๆในปีหน้า” นายจิตติกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่