ถ้าอนาคตใหม่ไม่ผิด ก็เป็นอย่างที่คิด ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเมืองของทุนนิยมเต็มตัว

https://www.naewna.com/politic/columnist/42917
กวนน้ำให้ใส
สารส้มวันอังคาร ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 02.00 น.
.

.
การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือน ก.พ.
ก่อนปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง ตั้งแต่ 29 ก.พ. 2563
แต่คดีสำคัญอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ในขั้นตอนอยู่ก่อนแล้ว คือ คดียุบพรรคอนาคตใหม่ จากกรณีเงินกู้ 191 ล้านบาท จากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือเป็นเงินบริจาคหรือประโยชน์อื่นใดมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อคนต่อปี (เกินเพดานกฎหมายกำหนด)ทั้งที่กฎหมาย “ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย...” เป็นเหตุให้ถูก กกต.ร้องยุบพรรคนั่นเอง
กรณีนี้ จึงแตกต่างกับกรณีของพรรคอื่นๆ ที่ กู้เงินหลักแสนหลักล้านบ้าง หรือยืมเงินทดรองจ่ายบ้าง
น่าคิดว่า จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะกำหนดอ่านคำวินิจฉัยภายในเดือน ก.พ.นี้?
1. หากเทียบเคียงกับกรณีพิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติ
วันที่ 13 ก.พ. 2562 กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ ปมเสนอชื่อบุคคลระดับสูงเข้าเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งกกต.ได้ลงมติว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดตามมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่บัญญัติว่า กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 
วันที่ 14 ก.พ. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องคดียุบพรรคไทยรักษาชาตินัดส่งคำชี้แจงภายใน 7 วัน
วันที่ 20 ก.พ. พรรคไทยรักษาชาติส่งทนายยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาการยุบพรรค พร้อมขอเบิกพยาน 19 ปาก
วันที่ 26 ก.พ. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมให้ศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ ไทยรักษาชาติแก้ข้อกล่าวหาคัดค้านการดำเนินการของกกต. อ้างว่าไม่พิจารณาคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
วันที่ 27 ก.พ. เวลา 16.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไม่ไต่สวนเพิ่มเติม เนื่องจากมีพยานหลักฐานเพียงพอพิจารณา พร้อมกำหนดวันลงมติและอ่านคำวินิจฉัย
วันที่ 7 มีนาคม 2562 ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย
คำวินิจฉัยชี้ขาด ว่าพรรคไทยรักษาติกระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มติเอกฉันท์ ให้ยุบพรรค ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2560 มาตรา 92วรรคหนึ่ง (2)
มติ 6 ต่อ 3 ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี ของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 8 ก.พ. 2562 ซึ่งเป็นวันที่มีการกระทำความผิด ตาม พ.ร.ป. พรรคการเมือง มาตรา 92วรรคสอง แต่กำหนดระยะเวลาไว้ 10 ปีนับจากวันที่ศาลมีคำสั่งยุบพรรค เนื่องจากเห็นว่า “เป็นการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยังไม่ถึงขนาดมีเจตนาจะล้มล้างการปกครอง” เพราะเป็นขั้นตอนหนึ่งในการได้มาซึ่งนายกฯ ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อระบอบการปกครอง อีกทั้งพิจารณาความสำนึกรับผิดชอบของ กก.บห. ที่น้อมรับพระบรมราชโองการเหนือเกล้าฯ ทันทีที่ทราบเห็นว่า ทษช. ยังมีความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
2. ข้อสังเกตจากคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจน เป็นที่ยุติ เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างฉับไว
ไม่จำเป็นต้องเปิดไต่สวนเพิ่มเติม
ไม่จำเป็นต้องไปไต่สวนว่า กกต.ดำเนินการตามขั้นตอนหรือไม่ แม้พรรคผู้ถูกร้องจะอ้างประเด็นนี้ก็ตาม หากพิจารณาเห็นว่ากระบวนการตาม
ขั้นตอน เนื้อหาคำร้องเป็นไปตามกฎหมาย
หากนับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง จนถึงวันอ่านคำวินิจฉัยชี้ขาด ใช้เวลาทั้งสิ้นราวๆ 21 วัน
3. สำหรับคดียุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีเงินกู้ 191 ล้านบาท
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องที่ กกต.ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3)ประกอบมาตรา 72 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2562
ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญได้ให้โอกาสพรรคอนาคตใหม่ชี้แจงเต็มที่ และได้อนุญาตขยายเวลาตามคำร้องขอของพรรคอนาคตใหม่มาแล้วด้วย ล่าสุด พรรคอนาคตใหม่ส่งคำชี้แจงเพิ่มเติมไปแล้ว
หากนับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องจาก กกต. ถึงปัจจุบัน ก็ผ่านไปแล้วกว่า 40 วัน
ใช้ระยะเวลายาวนานกว่ากรณียุบพรรคไทยรักษาชาติเท่าตัว
4. หากพิจารณาเทียบเคียงว่า กรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไม่ไต่สวนเพิ่มเติม (27 ก.พ.2562) เพราะเห็นว่าคดีมีข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติชัดเจนแล้ว จึงนัดอ่านคำวินิจฉัย (7 มี.ค.2562) ใช้เวลา 8 วัน
กรณีพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ จากปมเงินกู้ 191 ล้านบาทนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ามีข้อเท็จจริงปรากฏชัดเจนเป็นที่ยุติ เพียงพอที่จะวินิจฉัย จึงอาจไม่เปิดไต่สวนเพิ่มเติมก็ได้
ที่ผ่านมา ทุกฝ่ายยอมรับตรงกันว่ามีการกู้เงินจากนายธนาธรจริงทำสัญญา 191 ล้านบาท ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติ ฝ่ายพรรคอนาคตใหม่ก็ยอมรับข้อเท็จจริงส่วนนี้ เพียงแต่ต่อสู้ในทางกฎหมายว่า ตนเองสามารถกู้เงินได้ไม่ผิด ส่วน กกต.ชี้ประเด็นความผิดตามกฎหมาย ดังที่ปรากฏในสำนวนคดี
เพราะฉะนั้น คดีนี้ ข้อเท็จจริงน่าจะถือว่าเป็นที่ยุติชัดเจนแล้วหรือไม่ เหลือแค่วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมาย
และถ้าใช้เวลาพิจารณาราวๆ 8-10 วัน ก็ไม่น่าแปลกใจหากคดีนี้จะมีคำวินิจฉัยก่อนวันที่ 20 ก.พ. 2563
ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่า ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า กรณีเงินกู้ 191 ล้านบาทมีข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดเจนเพียงพอวินิจฉัยแล้วหรือยัง
ไม่เกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติมีการกำหนดวันอภิปรายขึ้นกันเองในภายหลัง
ส่วนผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายย่อมไม่อาจก้าวล่วงคำชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญ อันเป็นที่สุด มีผลผูกพันทุกองค์กร
สารส้ม
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
เห็นด้วยกะ 7-1
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่