กะหล่ำปลีตุ๋น ตุ๋นกะหล่ำปลี เมนูในดวงใจลูกหลานจีน
บางท่านนึกไม่ออก เอ๊ะทอดยังไง อะไรยังไง นำภาพและขั้นตอนการทำมาให้ดูกันค่ะ
ตุ๋นกระหล่ำปลีหมูสามชั้น จีนแต้จิ๋วเรียก "ตุ่งคะหน่าลุ้ย" ลูกหลานจีนคอเมนูนี้จริงๆ กินอย่างตุ๋นจนพอใจแล้ว ถ้ามีเหลือจะอุ่นต่อไปเรื่อยๆ น้ำซุปก็จะค่อยๆงวด ค่อยๆงวด เนื้อผักก็จะนิ่มเละจนแทบละลายในปาก จากเมนู "ตุ่งคะหน่าลุ้ย" ก็จะกลายเป็น "เขาะคะหน่าลุ้ย" อูย..แค่นึกก็คิดถึง "อาอึ้ม" (คุณแม่)
เมนูกะหล่ำปลีเป็นเมนูโปรดที่สุดของอาอึ้ม (คุณแม่) เดี๋ยวต้ม เดี๋ยวผัด เดี๋ยวตุ๋น วนเวียนอยู่อย่างนี้ในหนึ่งอาทิตย์ แต่ลูกเพจแม่นันก็คงชอบเหมือนกัน และคงจะทราบดีค่ะว่ากะหล่ำปลีนำมาทำเมนูไหนก็อร่อย..อร่อยจริงๆค่ะ ..............
อาอึ้มบอกว่าการต้มกะหล่ำปลีให้อร่อยต้องเลือกกะหล่ำปลีที่หัวหนักๆ หนักในที่นี้คือ เวลาวางใส่บนฝ่ามือจะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของกะหล่ำปลีแต่ละหัว ถ้าเนื้อกะหล่ำปลีแน่น กะหล่ำปลีหัวนั้นจะหนัก เหมาะสำหรับนำมาทำเมนูต้มหรือตุ๋น เพราะเวลาต้มเนื้อในจะแน่นเกาะกัน ไม่โพลก(หลวม) อมน้ำซุปได้ดี (ในทางตรงกันข้ามถ้านำไปทำเมนูผัด ให้เลือกหัวที่ยกแล้วรู้สึกเบาๆค่ะ แสดงว่าเนื้อในร่วน ซุย เหมาะสำหรับนำมาผัดค่ะ)
หม้อนี้น่าจะเป็นหม้อที่ร้อยของแม่นัน คุณพ่อคุณแม่สามีชอบ ตั้งแต่ทำไปฝากครั้งแรกคุณแม่ก็ชมไม่หยุดว่าอร่อย "นันทำยังไงนุ่มมากๆ แม่ลองทำหลายครั้งแล้วก็ไม่ได้อย่างนี้ซักที เนี่ยแม่แบ่งใส่ถุงฟรีสไว้ เวลาอยากกินก็เอาออกมาอุ่น ไม่อยากให้มันหมดเลย..อร่อย " "โอ๊ยแม่ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก ทานๆให้หมดไป เดี๋ยวนันทำมาให้ใหม่บ่อยๆก็ได้" ฮ่าฮ่า..แม่นันดีใจขนาดที่ได้ยินเชฟใหญ่ชมซะขนาดนี้ แล้วหม้อทีสอง หม้อที่สามก็ตามมาเรื่อยๆจนกว่าแม่แกจะเบื่อน่ะค่ะ
ครั้งนี้แม่นันได้มาสามหัวใหญ่ๆ น่าจะหัวละหนึ่งกิโลได้ หนึ่งหัวแบ่งสี่ จะได้ทั้งหมดสิบสองชิ้น คับหม้อพอดีเป๊ะ แม่นันจะนำมาตุ๋นใส่หมูสามชั้นค่ะ มาดูวิธีทำกันค่ะ
- ตั้งหม้อใส่น้ำประมาณครึ่งหม้อ ต้มจนเดือด ใส่หมูสามชั้นหั่นขนาดตามชอบ แต่อย่าให้เล็กไปนะคะ เดี๋ยวตุ๋นไปนานๆจะเปื่อยจนหาไม่เจอ หั่นขนาดความกว้าง 1-2 นิ้วกำลังดีค่ะ ปรับไฟอ่อน เปิดฝาไว้ต้มไปเรื่อยๆค่ะ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันหมู นำกะหล่ำปลีที่แบ่งสี่ไว้ลงทอดพอให้ผิวเหลืองทอง ให้ผักสลดน้ำมันค่ะ แล้วถ่ายใส่หม้อซุป ครั้งนี้ได้น้ำมันหมูเจียวเอง หอมอร่อยมากๆค่ะ มีเวลาอย่าลืมเจียวมันหมูเก็บไว้ปรุงอาหารนะคะ น้ำมันหมูหอม..อร่อย..มีประโยชน์ค่ะ
- ค่อยๆทอดแล้วถ่ายใส่หม้อจนครบทุกหัว ระวังน้ำมันกระเด็นนะคะ เพราะมีน้ำที่คาอยู่ในตัวผักอยู่ พอโดนน้ำมันแล้วจะฟาดฟันกันเสียงดังค่ะ บางครั้งต้องใช้วิชาตัวเบา..ช่วยได้เยอะ อ้อ..อย่าลืมใส่กระเทียม เห็ดหอม ลงผัดปิดท้ายแล้วใส่ลงไปในหม้อตุ๋นด้วยกันนะคะ แม่นันใส่ถั่วลิสงต้มด้วย (ของเหลือจากทำขนมผักกาดน่ะคะ ยิ่งนำมาใส่รวมในเมนูนี้ ยิ่งอร่อย มีประโยชน์ค่ะ (สำหรับเด็กแม่นันแนะนำใส่เห็ดฟางแทนเห็ดหอมนะคะ)
- ปรับไฟกลาง ปิดฝาหม้อแล้วต้มไปจนกว่าจะเดือดค่ะ ผักจะค่อยๆคายน้ำในตัวออกมาผสมกับน้ำซุปอีกเยอะเลยค่ะ ค่อยๆใช้ทัพพีกดตะล่อมหัวกะหล่ำให้สลับที้เปลี่ยนตำแหน่งกัน น้ำซุปจะได้ซึมเข้าได้ทัวถึงค่ะ
- ปรุงด้วยน้ำตาลทราย เกลือ พริกไทยมากหน่อย ซี่อิ๊วขาว ซ้อสหอยนางรม ปิดท้ายด้วยเหล้าจีนค่ะ ค่อยๆคนให้เข้ากัน ชิมให้ได้รสชาติกลมกล่อม เมื่อผักคายน้ำออกมา น้ำซุปจะหวานยิ่งขึ้นค่ะ ปิดฝา ใช้ไฟอ่อนสุดตุ๋นไปเรื่อยๆค่ะ (พ้นระยะต้ม จะเรียกว่าตุ๋นแล้วนะคะ เพราะการตุ๋นจะทำให้เนื้อผัก เนื้อหมูอ่อนตัว นุ่มลงเรื่อยๆค่ะ ช่วงนี้จะใช้เวลานานหน่อยค่ะ แม่นันใช้วิธีตั้งเวลาตุ๋นไปเรื่อยๆ สัก 20 นาที เดินเข้าครัวมาเช็คที คอยใช้ทัพพีสลับตำแหน่งเค้าไปมานะคะ ที่สำคัญอย่าให้ปลายทัพพีไปกดโดนเนื้อผักขาด เวลาตุ่นจนนิ่มแล้วจะเละ แตก ไม่สวยค่ะ เดินเข้าเดินออกครัวสี่ห้ารอบค่ะ ถ้าอยากได้เนื้อแบบนี้นะคะ
- ตุ๋นไปเรื่อยๆค่ะ วิธีเช็คว่าตุ๋นจนได้เนื้อแบบที่แม่นันนำมาอวดรึยัง คือถ้านิ่มเกือบได้ที่แล้ว เนื้อกะหล่ำปลีจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลออกทอง ให้ใช้ปลายตะหลิวกดตรงขั้วผัก ถ้ากดแล้วขาดจากกันได้ แสดงว่าเริ่มใช้ได้แล้วค่ะ ตุ๋นอีกสักพัก รอจนได้เนื้อที่พอใจ แล้วปิดเตาค่ะ ให้ความร้อนในหม้อเค้าระอุไป
เรื่อยๆค่ะ เช้ามาอุ่นอีกรอบ อร่อยพอดี ทานกับข้าวสวยร้อนๆ โอย..หิวอีกแล้วค่ะ ลองทำดูนะคะ สงสัยตรงไหนทักมาเลยค่ะ
กะหล่ำปลีตุ๋น ตุ๋นกะหล่ำปลี เมนูในดวงใจลูกหลานจีน
เมนูกะหล่ำปลีเป็นเมนูโปรดที่สุดของอาอึ้ม (คุณแม่) เดี๋ยวต้ม เดี๋ยวผัด เดี๋ยวตุ๋น วนเวียนอยู่อย่างนี้ในหนึ่งอาทิตย์ แต่ลูกเพจแม่นันก็คงชอบเหมือนกัน และคงจะทราบดีค่ะว่ากะหล่ำปลีนำมาทำเมนูไหนก็อร่อย..อร่อยจริงๆค่ะ ..............
หม้อนี้น่าจะเป็นหม้อที่ร้อยของแม่นัน คุณพ่อคุณแม่สามีชอบ ตั้งแต่ทำไปฝากครั้งแรกคุณแม่ก็ชมไม่หยุดว่าอร่อย "นันทำยังไงนุ่มมากๆ แม่ลองทำหลายครั้งแล้วก็ไม่ได้อย่างนี้ซักที เนี่ยแม่แบ่งใส่ถุงฟรีสไว้ เวลาอยากกินก็เอาออกมาอุ่น ไม่อยากให้มันหมดเลย..อร่อย " "โอ๊ยแม่ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก ทานๆให้หมดไป เดี๋ยวนันทำมาให้ใหม่บ่อยๆก็ได้" ฮ่าฮ่า..แม่นันดีใจขนาดที่ได้ยินเชฟใหญ่ชมซะขนาดนี้ แล้วหม้อทีสอง หม้อที่สามก็ตามมาเรื่อยๆจนกว่าแม่แกจะเบื่อน่ะค่ะ
ครั้งนี้แม่นันได้มาสามหัวใหญ่ๆ น่าจะหัวละหนึ่งกิโลได้ หนึ่งหัวแบ่งสี่ จะได้ทั้งหมดสิบสองชิ้น คับหม้อพอดีเป๊ะ แม่นันจะนำมาตุ๋นใส่หมูสามชั้นค่ะ มาดูวิธีทำกันค่ะ
- ตั้งหม้อใส่น้ำประมาณครึ่งหม้อ ต้มจนเดือด ใส่หมูสามชั้นหั่นขนาดตามชอบ แต่อย่าให้เล็กไปนะคะ เดี๋ยวตุ๋นไปนานๆจะเปื่อยจนหาไม่เจอ หั่นขนาดความกว้าง 1-2 นิ้วกำลังดีค่ะ ปรับไฟอ่อน เปิดฝาไว้ต้มไปเรื่อยๆค่ะ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันหมู นำกะหล่ำปลีที่แบ่งสี่ไว้ลงทอดพอให้ผิวเหลืองทอง ให้ผักสลดน้ำมันค่ะ แล้วถ่ายใส่หม้อซุป ครั้งนี้ได้น้ำมันหมูเจียวเอง หอมอร่อยมากๆค่ะ มีเวลาอย่าลืมเจียวมันหมูเก็บไว้ปรุงอาหารนะคะ น้ำมันหมูหอม..อร่อย..มีประโยชน์ค่ะ
- ค่อยๆทอดแล้วถ่ายใส่หม้อจนครบทุกหัว ระวังน้ำมันกระเด็นนะคะ เพราะมีน้ำที่คาอยู่ในตัวผักอยู่ พอโดนน้ำมันแล้วจะฟาดฟันกันเสียงดังค่ะ บางครั้งต้องใช้วิชาตัวเบา..ช่วยได้เยอะ อ้อ..อย่าลืมใส่กระเทียม เห็ดหอม ลงผัดปิดท้ายแล้วใส่ลงไปในหม้อตุ๋นด้วยกันนะคะ แม่นันใส่ถั่วลิสงต้มด้วย (ของเหลือจากทำขนมผักกาดน่ะคะ ยิ่งนำมาใส่รวมในเมนูนี้ ยิ่งอร่อย มีประโยชน์ค่ะ (สำหรับเด็กแม่นันแนะนำใส่เห็ดฟางแทนเห็ดหอมนะคะ)
- ปรับไฟกลาง ปิดฝาหม้อแล้วต้มไปจนกว่าจะเดือดค่ะ ผักจะค่อยๆคายน้ำในตัวออกมาผสมกับน้ำซุปอีกเยอะเลยค่ะ ค่อยๆใช้ทัพพีกดตะล่อมหัวกะหล่ำให้สลับที้เปลี่ยนตำแหน่งกัน น้ำซุปจะได้ซึมเข้าได้ทัวถึงค่ะ
- ปรุงด้วยน้ำตาลทราย เกลือ พริกไทยมากหน่อย ซี่อิ๊วขาว ซ้อสหอยนางรม ปิดท้ายด้วยเหล้าจีนค่ะ ค่อยๆคนให้เข้ากัน ชิมให้ได้รสชาติกลมกล่อม เมื่อผักคายน้ำออกมา น้ำซุปจะหวานยิ่งขึ้นค่ะ ปิดฝา ใช้ไฟอ่อนสุดตุ๋นไปเรื่อยๆค่ะ (พ้นระยะต้ม จะเรียกว่าตุ๋นแล้วนะคะ เพราะการตุ๋นจะทำให้เนื้อผัก เนื้อหมูอ่อนตัว นุ่มลงเรื่อยๆค่ะ ช่วงนี้จะใช้เวลานานหน่อยค่ะ แม่นันใช้วิธีตั้งเวลาตุ๋นไปเรื่อยๆ สัก 20 นาที เดินเข้าครัวมาเช็คที คอยใช้ทัพพีสลับตำแหน่งเค้าไปมานะคะ ที่สำคัญอย่าให้ปลายทัพพีไปกดโดนเนื้อผักขาด เวลาตุ่นจนนิ่มแล้วจะเละ แตก ไม่สวยค่ะ เดินเข้าเดินออกครัวสี่ห้ารอบค่ะ ถ้าอยากได้เนื้อแบบนี้นะคะ