ส.ส.ก้าวไกล ลั่นพร้อมสู้ หลัง ผู้ว่าฯนนท์แจ้งจับ ปมสั่งปลัดหิ้วพ้นบ่อนบางใหญ่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4487868
ส.ส.ก้าวไกล ลั่นพร้อมสู้ ผู้ว่าฯนนท์แจ้งจับ ปมสั่งปลัดหิ้วพ้นบ่อนบางใหญ่
จากกรณี นาย
สุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี มอบหมายนิติกรชำนาญการ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.
คชสิทธิ์ โคตะโน รอง สว.(สอบสวน)
สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีความผิดอาญาฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 แก่ นาย
นนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นนทบุรี เขต 8 พรรคก้าวไกล กรณีแถลงข่าวการจับบ่อนการพนันในพื้นที่อำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี ที่อาคารรัฐสภา เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง และจังหวัดนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมืองจังหวัด จ.นนทบุรี ที่พูดว่า ผู้ว่าฯสั่งให้ปลัดจังหวัดหิ้ว ส.ส.ออกจากที่เกิดเหตุ นั้น
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
นนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นนทบุรี เขต 8 พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเพจ “
Nont Pisarnlimjaroenkit – นนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ”
ระบุว่า “
ตอนนี้ ผมกับ ส.ส.คุณากร ถูกแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาท เดี๋ยวเราจะต่อสู้ พิสูจน์กันตามขั้นตอนกฎหมายต่อไปครับ”
หลังจากโพสต์ข้อความไปไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น
• “ส.ส. คือตัวแทนประชาชน ที่ประชาชนเลือกมา สู้ๆครับ”
• “เป็นกำลังใจให้ครับ”
• “เป็นกำลังใจให้นะคะ ปชช.อยู่ข้าง สส.นนท์ เสมอ”
• “ผมคนนนท์ พึ่งรู้จักผู้ว่าครับ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
https://www.facebook.com/nontMFP/posts/pfbid0CAqL4Mu3ywa3CafeitSdhXwupkzAVHaXNioVJ2o3j3xA8giMHwxWRc1t5tJeu8SQl
ป้าน้ำตาซึม ใช้บัตรคนจน ซื้อของทำกับข้าวให้ลูกหลาน แสกนหน้าไม่ผ่าน กลับบ้านมือเปล่า
https://www.matichon.co.th/region/news_4487928
ป้าน้ำตาซึม ใช้บัตรคนจน ซื้อของทำกับข้าวให้ลูกหลาน แสกนหน้าไม่ผ่าน กลับบ้านมือเปล่า
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม คุณ
ปรรณพัชร์ พรหมพิทักษ์ เจ้าของร้านขายของชำที่เข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ในพื้นที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท นำภาพเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้ที่ได้ชม ที่มีแม่บ้านท่านหนึ่งที่ขับรถ จยย.มาไกลหลาย ก.ม.เพื่อใช้สิทธิ์ซื้อสินค้าตามวงเงินในบัตร
ซึ่งหลังจากที่แม่บ้านท่านนี้ เลือกสินค้าใส่ตะกร้ามาเพื่อคิดเงินที่เคาน์เตอร์ จากนั้นก็เข้าขบวนการใช้งานวงเงินที่รอบนี้มีเพิ่มระบบแสกนใบหน้าเข้ามาด้วย
จึงเกิดภาพเหตุการสะเทือนใจเพราะลูกค้าท่านนี้สแกนใบหน้าไม่ผ่าน แม้จะทำรายการอยู่หลายรอบก็ไม่ผ่าน เพราะบัตรประชาชนทำมาหลายปี รูปถ่ายในบัตรจึงไม่เหมือนกับตัวจริงในปัจจุบัน
สุดท้ายแล้วลูกค้าท่านนี้ก็ต้องถอดใจยอมแพ้ ขอเอาสินค้าที่เลือกมาหวังจะเอาไปทำกับข้าวให้ลูกหลานคนในครอบครัวได้รับประทานเป็นมื้อกลางวัน กลับไปวางคืนบนชั้นวางสินค้า แล้วขับรถกลับบ้านไปด้วยสายตาเศร้าสร้อยน้ำตาซึม
โดยคุณ
ปรรณพัชร์กล่าวว่าอยากให้ทางราชการและหน่วยงานที่ดูแลระบบ เร่งแก้ปัญหาโดยด่วน เพราะอยากให้เข้าใจว่า สำหรับครอบครัวคนรากหญ้าจำนวนมาก วงเงินในบัตรคนจน คือความหวังของพวกเขา
ศูนย์วิจัยกสิกรฯ ประเมินยอดขายรถปีนี้ ลบ 3% อัดโปรต้นปี ทำได้แค่พยุง
https://www.prachachat.net/finance/news-1527983
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่ เร่งทำกลยุทธ์ราคาตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะกลุ่มที่ยอดขายหดตัวลงมากในปีที่แล้ว-กลุ่มรถ EV ที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาด ระบุกลยุทธ์ลดราคาอาจทำได้เพียงพยุงตลาดให้ติดลบ 3% หรืออยู่ที่ระดับ 750,000 คัน เหตุตลาดต้องเผชิญปัจจัยท้าทายด้านเศรษฐกิจ-กำลังซื้อ
วันที่ 23 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ออกบทวิเคราะห์ยอดขายรถยนต์ ปี 2567 โดยระบุว่า ปี 2567 ค่ายรถในไทยต่างต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยหลัก 2 ด้าน ซึ่งนำมาสู่การปรับใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อแข่งขันกันมากขึ้นตั้งแต่ต้นปี ได้แก่
(1) ภาวะอ่อนแรงของตลาดรถยนต์ในประเทศ ที่มาจากปัญหาเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงอ่อนแอ ขณะที่หนี้ครัวเรือนก็ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งปัจจัยนี้จะกระทบมากที่สุดกับประเภทรถที่ผู้ซื้อหลักมีรายได้ไม่แน่นอน
(2) การแข่งขันที่สูงขึ้นมากจากทั้งจำนวนค่ายรถและรุ่นรถในตลาดที่เข้ามาชิงพื้นที่ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่ายใหม่ๆ จากจีน ที่ปัจจุบันรุกเข้ามาแข่งขันในตลาดรถยนต์นั่งอย่างรวดเร็ว นำโดยรถยนต์ BEV และในอนาคตอันใกล้มีโอกาสขยับมาแข่งขันในตลาดรถกลุ่มอื่นด้วย
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ที่แตกต่างกันของค่ายรถ โดยเฉพาะในเรื่องของความนิยมและยอดขาย ทำให้การปรับใช้กลยุทธ์ด้านราคามีความแตกต่างกัน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มค่ายรถใช้น้ำมันที่ยอดขายตกลงมากในปีที่แล้ว จะใช้กลยุทธ์การปรับลดราคาลง โดยเป้าหมายคือเพื่อพยุงยอดขายที่ถูกกระทบทั้งจากปัญหาทางเศรษฐกิจและการบุกตลาดของ BEV
กลุ่มค่ายรถใช้น้ำมันที่ยังพอทำยอดขายได้ในปีที่แล้ว กลยุทธ์ที่ใช้จะยังเน้นการคงราคาเพื่อรักษาแบรนด์อิมเมจ แล้วหันใช้กลยุทธ์อื่นเพื่อรักษาฐานลูกค้าแทน เช่น การใส่ออปชั่นเพิ่มให้รถรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมา หรือการมอบโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจ
กลุ่มค่ายรถ BEV ที่พยายามเร่งชิงส่วนแบ่งการตลาดให้มากขึ้น มีการใช้กลยุทธ์ราคาเช่นกัน เพื่อดึงดูดผู้ซื้อในช่วงที่ความเชื่อมั่นต่อ BEV ยังไม่คงที่
โดยระดับของการปรับลดราคาที่ค่ายรถใช้น้ำมันซึ่งยอดขายตกในปีที่แล้วและค่ายรถ BEV นำมาใช้ จะต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับการแข่งขันของรถยนต์แต่ละประเภทด้วย
1) รถยนต์นั่งกลุ่มรถอีโคคาร์และรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก ทำกลยุทธ์ปรับลดราคามากกว่ารถกลุ่มอื่น เนื่องจากเป็นประเภทรถที่มีการแข่งขันในตลาดสูงมาก ทั้งจำนวนค่ายรถและจำนวนรุ่นที่ทำตลาด ประกอบกับเป็นประเภทรถที่เน้นจับตลาดกลุ่มผู้มีรายได้ระดับปานกลางซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจด้วย จึงทำให้ค่ายรถส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้มีการปรับลดราคาลงพอสมควร โดยจะเห็นว่ามีการปรับราคาลดลงมากสุดถึง 19%
2) รถยนต์นั่งกลุ่มอื่นที่มีการแข่งขันไม่สูงเท่า ไม่มีการปรับลดราคาหรือถ้าปรับลดราคาลงก็จะเป็นแค่บางรุ่นในบางค่ายเท่านั้น เนื่องจากรถยนต์กลุ่มนี้ส่วนใหญ่เน้นผู้ซื้อที่มีสถานะทางการเงินดีและไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ เห็นได้จากการตั้งราคาในระดับสูง
3) รถปิกอัพที่แม้ยอดขายจะหดตัวสูงในปีที่แล้ว แต่ก็เลือกปรับราคาลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากมีการแข่งขันที่ต่ำกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะยังไม่มีรถยนต์ BEV มาเป็นคู่แข่ง จึงทำให้ค่ายรถเลือกลดราคาลงเล็กน้อยเพื่อพยุงยอดขาย
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การลดราคาอาจทำได้เพียงช่วยพยุงตลาดรถไม่ให้หดตัวลงไปมาก โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าปี 2567 ยอดขายรถยนต์ในประเทศของไทยน่าจะอยู่ที่ระดับ 750,000 คัน หดตัวต่อจากปีที่แล้วประมาณ 3% (YoY)
หากแยกประเภทรถยนต์ คาดว่า รถยนต์นั่งมีโอกาสขยายตัวเล็กน้อยที่ 1% (YoY) ซึ่งเป็นผลจากแรงหนุนของราคาที่ปรับลดลงพอสมควรในรถยนต์หลายรุ่น
ขณะที่ หากพิจารณาเฉพาะรถยนต์นั่งใช้น้ำมันอาจหดตัวลึกประมาณ 13% (YoY) เพราะมีรถยนต์นั่ง BEV ที่คาดว่าจะขยายตัวสูงถึง 63% (YoY) มาชิงส่วนแบ่งตลาดไป สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถปิกอัพมีการปรับลดราคาลงไม่มาก ทำให้แรงกระตุ้นตลาดมีน้อยกว่า จึงคาดว่ากลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์อาจยังหดตัวที่ประมาณ 8% (YoY)
ทั้งนี้ ราคารถยนต์ เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อ แต่สุดท้ายแล้ว ผู้ซื้อจะพิจารณาประเด็นอื่นด้วย เช่น ความน่าเชื่อถือในคุณภาพ ความยากง่ายในการหาอะไหล่ทดแทน หรือราคาขายต่อ เป็นต้น
JJNY : ส.ส.ก้าวไกลลั่นพร้อมสู้ผู้ว่าฯนนท์│ป้าใช้บัตรคนจนแสกนหน้าไม่ผ่าน│กสิกรฯ ประเมินยอดขายรถ│มองโกเลียหนาวสุดรอบ 50 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_4487868
ส.ส.ก้าวไกล ลั่นพร้อมสู้ ผู้ว่าฯนนท์แจ้งจับ ปมสั่งปลัดหิ้วพ้นบ่อนบางใหญ่
จากกรณี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี มอบหมายนิติกรชำนาญการ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.คชสิทธิ์ โคตะโน รอง สว.(สอบสวน)
สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีความผิดอาญาฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 แก่ นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นนทบุรี เขต 8 พรรคก้าวไกล กรณีแถลงข่าวการจับบ่อนการพนันในพื้นที่อำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี ที่อาคารรัฐสภา เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง และจังหวัดนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมืองจังหวัด จ.นนทบุรี ที่พูดว่า ผู้ว่าฯสั่งให้ปลัดจังหวัดหิ้ว ส.ส.ออกจากที่เกิดเหตุ นั้น
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นนทบุรี เขต 8 พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเพจ “Nont Pisarnlimjaroenkit – นนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ”
ระบุว่า “ตอนนี้ ผมกับ ส.ส.คุณากร ถูกแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาท เดี๋ยวเราจะต่อสู้ พิสูจน์กันตามขั้นตอนกฎหมายต่อไปครับ”
หลังจากโพสต์ข้อความไปไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น
• “ส.ส. คือตัวแทนประชาชน ที่ประชาชนเลือกมา สู้ๆครับ”
• “เป็นกำลังใจให้ครับ”
• “เป็นกำลังใจให้นะคะ ปชช.อยู่ข้าง สส.นนท์ เสมอ”
• “ผมคนนนท์ พึ่งรู้จักผู้ว่าครับ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
https://www.facebook.com/nontMFP/posts/pfbid0CAqL4Mu3ywa3CafeitSdhXwupkzAVHaXNioVJ2o3j3xA8giMHwxWRc1t5tJeu8SQl
ป้าน้ำตาซึม ใช้บัตรคนจน ซื้อของทำกับข้าวให้ลูกหลาน แสกนหน้าไม่ผ่าน กลับบ้านมือเปล่า
https://www.matichon.co.th/region/news_4487928
ป้าน้ำตาซึม ใช้บัตรคนจน ซื้อของทำกับข้าวให้ลูกหลาน แสกนหน้าไม่ผ่าน กลับบ้านมือเปล่า
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม คุณปรรณพัชร์ พรหมพิทักษ์ เจ้าของร้านขายของชำที่เข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ในพื้นที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท นำภาพเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้ที่ได้ชม ที่มีแม่บ้านท่านหนึ่งที่ขับรถ จยย.มาไกลหลาย ก.ม.เพื่อใช้สิทธิ์ซื้อสินค้าตามวงเงินในบัตร
ซึ่งหลังจากที่แม่บ้านท่านนี้ เลือกสินค้าใส่ตะกร้ามาเพื่อคิดเงินที่เคาน์เตอร์ จากนั้นก็เข้าขบวนการใช้งานวงเงินที่รอบนี้มีเพิ่มระบบแสกนใบหน้าเข้ามาด้วย
จึงเกิดภาพเหตุการสะเทือนใจเพราะลูกค้าท่านนี้สแกนใบหน้าไม่ผ่าน แม้จะทำรายการอยู่หลายรอบก็ไม่ผ่าน เพราะบัตรประชาชนทำมาหลายปี รูปถ่ายในบัตรจึงไม่เหมือนกับตัวจริงในปัจจุบัน
สุดท้ายแล้วลูกค้าท่านนี้ก็ต้องถอดใจยอมแพ้ ขอเอาสินค้าที่เลือกมาหวังจะเอาไปทำกับข้าวให้ลูกหลานคนในครอบครัวได้รับประทานเป็นมื้อกลางวัน กลับไปวางคืนบนชั้นวางสินค้า แล้วขับรถกลับบ้านไปด้วยสายตาเศร้าสร้อยน้ำตาซึม
โดยคุณปรรณพัชร์กล่าวว่าอยากให้ทางราชการและหน่วยงานที่ดูแลระบบ เร่งแก้ปัญหาโดยด่วน เพราะอยากให้เข้าใจว่า สำหรับครอบครัวคนรากหญ้าจำนวนมาก วงเงินในบัตรคนจน คือความหวังของพวกเขา
ศูนย์วิจัยกสิกรฯ ประเมินยอดขายรถปีนี้ ลบ 3% อัดโปรต้นปี ทำได้แค่พยุง
https://www.prachachat.net/finance/news-1527983
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่ เร่งทำกลยุทธ์ราคาตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะกลุ่มที่ยอดขายหดตัวลงมากในปีที่แล้ว-กลุ่มรถ EV ที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาด ระบุกลยุทธ์ลดราคาอาจทำได้เพียงพยุงตลาดให้ติดลบ 3% หรืออยู่ที่ระดับ 750,000 คัน เหตุตลาดต้องเผชิญปัจจัยท้าทายด้านเศรษฐกิจ-กำลังซื้อ
วันที่ 23 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ออกบทวิเคราะห์ยอดขายรถยนต์ ปี 2567 โดยระบุว่า ปี 2567 ค่ายรถในไทยต่างต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยหลัก 2 ด้าน ซึ่งนำมาสู่การปรับใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อแข่งขันกันมากขึ้นตั้งแต่ต้นปี ได้แก่
(1) ภาวะอ่อนแรงของตลาดรถยนต์ในประเทศ ที่มาจากปัญหาเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงอ่อนแอ ขณะที่หนี้ครัวเรือนก็ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งปัจจัยนี้จะกระทบมากที่สุดกับประเภทรถที่ผู้ซื้อหลักมีรายได้ไม่แน่นอน
(2) การแข่งขันที่สูงขึ้นมากจากทั้งจำนวนค่ายรถและรุ่นรถในตลาดที่เข้ามาชิงพื้นที่ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่ายใหม่ๆ จากจีน ที่ปัจจุบันรุกเข้ามาแข่งขันในตลาดรถยนต์นั่งอย่างรวดเร็ว นำโดยรถยนต์ BEV และในอนาคตอันใกล้มีโอกาสขยับมาแข่งขันในตลาดรถกลุ่มอื่นด้วย
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ที่แตกต่างกันของค่ายรถ โดยเฉพาะในเรื่องของความนิยมและยอดขาย ทำให้การปรับใช้กลยุทธ์ด้านราคามีความแตกต่างกัน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มค่ายรถใช้น้ำมันที่ยอดขายตกลงมากในปีที่แล้ว จะใช้กลยุทธ์การปรับลดราคาลง โดยเป้าหมายคือเพื่อพยุงยอดขายที่ถูกกระทบทั้งจากปัญหาทางเศรษฐกิจและการบุกตลาดของ BEV
กลุ่มค่ายรถใช้น้ำมันที่ยังพอทำยอดขายได้ในปีที่แล้ว กลยุทธ์ที่ใช้จะยังเน้นการคงราคาเพื่อรักษาแบรนด์อิมเมจ แล้วหันใช้กลยุทธ์อื่นเพื่อรักษาฐานลูกค้าแทน เช่น การใส่ออปชั่นเพิ่มให้รถรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมา หรือการมอบโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจ
กลุ่มค่ายรถ BEV ที่พยายามเร่งชิงส่วนแบ่งการตลาดให้มากขึ้น มีการใช้กลยุทธ์ราคาเช่นกัน เพื่อดึงดูดผู้ซื้อในช่วงที่ความเชื่อมั่นต่อ BEV ยังไม่คงที่
โดยระดับของการปรับลดราคาที่ค่ายรถใช้น้ำมันซึ่งยอดขายตกในปีที่แล้วและค่ายรถ BEV นำมาใช้ จะต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับการแข่งขันของรถยนต์แต่ละประเภทด้วย
1) รถยนต์นั่งกลุ่มรถอีโคคาร์และรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก ทำกลยุทธ์ปรับลดราคามากกว่ารถกลุ่มอื่น เนื่องจากเป็นประเภทรถที่มีการแข่งขันในตลาดสูงมาก ทั้งจำนวนค่ายรถและจำนวนรุ่นที่ทำตลาด ประกอบกับเป็นประเภทรถที่เน้นจับตลาดกลุ่มผู้มีรายได้ระดับปานกลางซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจด้วย จึงทำให้ค่ายรถส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้มีการปรับลดราคาลงพอสมควร โดยจะเห็นว่ามีการปรับราคาลดลงมากสุดถึง 19%
2) รถยนต์นั่งกลุ่มอื่นที่มีการแข่งขันไม่สูงเท่า ไม่มีการปรับลดราคาหรือถ้าปรับลดราคาลงก็จะเป็นแค่บางรุ่นในบางค่ายเท่านั้น เนื่องจากรถยนต์กลุ่มนี้ส่วนใหญ่เน้นผู้ซื้อที่มีสถานะทางการเงินดีและไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ เห็นได้จากการตั้งราคาในระดับสูง
3) รถปิกอัพที่แม้ยอดขายจะหดตัวสูงในปีที่แล้ว แต่ก็เลือกปรับราคาลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากมีการแข่งขันที่ต่ำกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะยังไม่มีรถยนต์ BEV มาเป็นคู่แข่ง จึงทำให้ค่ายรถเลือกลดราคาลงเล็กน้อยเพื่อพยุงยอดขาย
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การลดราคาอาจทำได้เพียงช่วยพยุงตลาดรถไม่ให้หดตัวลงไปมาก โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าปี 2567 ยอดขายรถยนต์ในประเทศของไทยน่าจะอยู่ที่ระดับ 750,000 คัน หดตัวต่อจากปีที่แล้วประมาณ 3% (YoY)
หากแยกประเภทรถยนต์ คาดว่า รถยนต์นั่งมีโอกาสขยายตัวเล็กน้อยที่ 1% (YoY) ซึ่งเป็นผลจากแรงหนุนของราคาที่ปรับลดลงพอสมควรในรถยนต์หลายรุ่น
ขณะที่ หากพิจารณาเฉพาะรถยนต์นั่งใช้น้ำมันอาจหดตัวลึกประมาณ 13% (YoY) เพราะมีรถยนต์นั่ง BEV ที่คาดว่าจะขยายตัวสูงถึง 63% (YoY) มาชิงส่วนแบ่งตลาดไป สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถปิกอัพมีการปรับลดราคาลงไม่มาก ทำให้แรงกระตุ้นตลาดมีน้อยกว่า จึงคาดว่ากลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์อาจยังหดตัวที่ประมาณ 8% (YoY)
ทั้งนี้ ราคารถยนต์ เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อ แต่สุดท้ายแล้ว ผู้ซื้อจะพิจารณาประเด็นอื่นด้วย เช่น ความน่าเชื่อถือในคุณภาพ ความยากง่ายในการหาอะไหล่ทดแทน หรือราคาขายต่อ เป็นต้น